ราชภัฏสวนสุนันฯ เตรียมตั้งศูนย์วิจัย พัฒนาฝีมือแรงงานอาเซียน คาด จัดตั้งเต็มรูปแบบปี 2555 “ช่วงโชติ” หวังกระตุ้น นศ.อาจารย์รับมือประชาคมอาเซียน ปี 2558 เผย ส่วนใหญ่มองเป็นเรื่องไกลตัว พร้อมเร่งทำความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยใน 10 ประเทศอาเซียน แลกเปลี่ยน เรียนรู้ สร้างความเข้าใจวัฒนธรรม วิถีชีวิต และพัฒนาภาษา
รศ.ดร.ช่วงโชติ พันธุเวช อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา (มร.สส) เปิดเผยว่า มร.สส.ซึ่งเล็งเห็นความสำคัญในการเตรียมพร้อมการพัฒนากำลังคนเข้าสู่ตลาดแรงงานอาเซียน ตามที่ในปี 2558 ประเทศไทยจะก้าวสู่ประชาคมอาเซียน จึงได้จัดตั้งโครงการศูนย์ศึกษาวิจัย พัฒนาฝีมือแรงงานอาเซียน ตั้งแต่ต้นปี 2554 ซึ่งขณะนี้ได้ดำเนินการแล้วกว่า 50% ทั้งในเรื่องของการเตรียมบุคลากร หลักสูตรฝึกอบรม จัดหาผู้อำนวยการศูนย์ และที่สำคัญ ได้ให้ 10 คณะของมหาวิทยาลัยหาเครือข่าย สร้างความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยใน 10 ประเทศอาเซียน เพื่อแลกเปลี่ยนบุคลากร นักศึกษา รวมถึงการศึกษาวัฒนธรรม วิถีชีวิต เศรษฐกิจ และภาษา โดยคาดว่า จะเปิดศูนย์ดังกล่าว อย่างเป็นทางการในปีการศึกษา 2555
“การเข้าสู่ประชาคมอาเซียนในปี 2558 แม้จะส่งผลให้บัณฑิต และแรงงานมีโอกาสทำงานมากขึ้น แต่การแข่งขันก็มีสูงมากขึ้นอีกหลายเท่าตัว ดังนั้น มหาวิทยาลัยทุกแห่งต้องเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการเตรียมความพร้อม โดยเฉพาะเรื่องของภาษา และต้องทำความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยในประเทศอาเซียน เพื่อเปิดโอกาสให้นักศึกษาได้เปิดโลกทัศน์ เรียนรู้วัฒนธรรม ความเป็นอยู่ ภาษา และเป็นการสร้างเครือข่ายให้แก่นักศึกษา ซึ่งศูนย์ดังกล่าวมีหน้าที่ขับเคลื่อนให้ มร.สส.สามารถเชื่อมโยงกับมหาวิทยาลัยในต่างประเทศได้ง่ายขึ้น ที่สำคัญผลักดันให้นักศึกษา คณาจารย์ รวมถึงประชาชน เกิดความตื่นตัว และมีความพร้อมทั้งด้านภาษา ทัศนคติ และความรู้ในการไปทำงานในประเทศอาเซียนมากขึ้น” รศ.ดร.ช่วงโชติ กล่าว
ดร.ปรียานุช จริยวิทยานนท์ ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาวิจัยฯ กล่าวว่า ที่ผ่านมาวิทยาลัยนานาชาติ มร.สส.ได้มีการเชื่อมโยง และเตรียมความพร้อมนักศึกษา บุคลากร เพื่อรองรับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน โดยเฉพาะด้านความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยในต่างประเทศ และภาษา ที่มีการจัดการเรียนการสอนภาษาประเทศเพื่อนบ้าน เป็นวิชาเลือก อาทิ ภาษามาเลเซีย เวียดนาม เพิ่มเติมจากของเดิมที่มีทั้ง ภาษาจีน เกาหลี เยอรมัน รัสเซีย ฝรั่งเศส เป็นต้น ศูนย์ดังกล่าวที่จัดตั้งขึ้น จึงเป็นการทำงานขับเคลื่อนให้ทุกคณะของมหาวิทยาลัยได้มีแนวทางเตรียมความพร้อมเข้าสู่ประชาคมอาเซียน ที่มีรูปธรรม ชัดเจนมากขึ้น และไม่ใช่เพียงเฉพาะเตรียมความพร้อมแก่นักศึกษา แต่ยังเป็นการกระจาย เพิ่มเติมศักยภาพให้แก่ประชาชนด้วย เพราะตอนนี้ เชื่อว่า มหาวิทยาลัยทุกแห่งต่างเตรียมความพร้อมแก่นักศึกษา และบุคลากรของตนเอง แต่มีน้อยมากที่จะลงพื้นที่เตรียมความพร้อมให้แก่ประชาชน ซึ่งศูนย์ มร.สส จึงได้วางแนวทางในการเพิ่มทักษะภาษาประเทศเพื่อนบ้าน และภาษาอังกฤษ แก่ประชาชนทั่วไปร่วมด้วย
รศ.ดร.ช่วงโชติ พันธุเวช อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา (มร.สส) เปิดเผยว่า มร.สส.ซึ่งเล็งเห็นความสำคัญในการเตรียมพร้อมการพัฒนากำลังคนเข้าสู่ตลาดแรงงานอาเซียน ตามที่ในปี 2558 ประเทศไทยจะก้าวสู่ประชาคมอาเซียน จึงได้จัดตั้งโครงการศูนย์ศึกษาวิจัย พัฒนาฝีมือแรงงานอาเซียน ตั้งแต่ต้นปี 2554 ซึ่งขณะนี้ได้ดำเนินการแล้วกว่า 50% ทั้งในเรื่องของการเตรียมบุคลากร หลักสูตรฝึกอบรม จัดหาผู้อำนวยการศูนย์ และที่สำคัญ ได้ให้ 10 คณะของมหาวิทยาลัยหาเครือข่าย สร้างความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยใน 10 ประเทศอาเซียน เพื่อแลกเปลี่ยนบุคลากร นักศึกษา รวมถึงการศึกษาวัฒนธรรม วิถีชีวิต เศรษฐกิจ และภาษา โดยคาดว่า จะเปิดศูนย์ดังกล่าว อย่างเป็นทางการในปีการศึกษา 2555
“การเข้าสู่ประชาคมอาเซียนในปี 2558 แม้จะส่งผลให้บัณฑิต และแรงงานมีโอกาสทำงานมากขึ้น แต่การแข่งขันก็มีสูงมากขึ้นอีกหลายเท่าตัว ดังนั้น มหาวิทยาลัยทุกแห่งต้องเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการเตรียมความพร้อม โดยเฉพาะเรื่องของภาษา และต้องทำความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยในประเทศอาเซียน เพื่อเปิดโอกาสให้นักศึกษาได้เปิดโลกทัศน์ เรียนรู้วัฒนธรรม ความเป็นอยู่ ภาษา และเป็นการสร้างเครือข่ายให้แก่นักศึกษา ซึ่งศูนย์ดังกล่าวมีหน้าที่ขับเคลื่อนให้ มร.สส.สามารถเชื่อมโยงกับมหาวิทยาลัยในต่างประเทศได้ง่ายขึ้น ที่สำคัญผลักดันให้นักศึกษา คณาจารย์ รวมถึงประชาชน เกิดความตื่นตัว และมีความพร้อมทั้งด้านภาษา ทัศนคติ และความรู้ในการไปทำงานในประเทศอาเซียนมากขึ้น” รศ.ดร.ช่วงโชติ กล่าว
ดร.ปรียานุช จริยวิทยานนท์ ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาวิจัยฯ กล่าวว่า ที่ผ่านมาวิทยาลัยนานาชาติ มร.สส.ได้มีการเชื่อมโยง และเตรียมความพร้อมนักศึกษา บุคลากร เพื่อรองรับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน โดยเฉพาะด้านความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยในต่างประเทศ และภาษา ที่มีการจัดการเรียนการสอนภาษาประเทศเพื่อนบ้าน เป็นวิชาเลือก อาทิ ภาษามาเลเซีย เวียดนาม เพิ่มเติมจากของเดิมที่มีทั้ง ภาษาจีน เกาหลี เยอรมัน รัสเซีย ฝรั่งเศส เป็นต้น ศูนย์ดังกล่าวที่จัดตั้งขึ้น จึงเป็นการทำงานขับเคลื่อนให้ทุกคณะของมหาวิทยาลัยได้มีแนวทางเตรียมความพร้อมเข้าสู่ประชาคมอาเซียน ที่มีรูปธรรม ชัดเจนมากขึ้น และไม่ใช่เพียงเฉพาะเตรียมความพร้อมแก่นักศึกษา แต่ยังเป็นการกระจาย เพิ่มเติมศักยภาพให้แก่ประชาชนด้วย เพราะตอนนี้ เชื่อว่า มหาวิทยาลัยทุกแห่งต่างเตรียมความพร้อมแก่นักศึกษา และบุคลากรของตนเอง แต่มีน้อยมากที่จะลงพื้นที่เตรียมความพร้อมให้แก่ประชาชน ซึ่งศูนย์ มร.สส จึงได้วางแนวทางในการเพิ่มทักษะภาษาประเทศเพื่อนบ้าน และภาษาอังกฤษ แก่ประชาชนทั่วไปร่วมด้วย
