“ชินวรณ์” ชี้กรณี มอส.สะท้อนภาพการจัดการศึกษา 4-5 ปีผ่านมาไม่คำนึงถึงคุณภาพ รับปัญหา มอส.เป็นปัญหาใหญ่
นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) กล่าวถึงปัญหาของมหาวิทยาลัยอีสาน (มอส.) ที่ขณะนี้ยังไม่มีทีท่าว่าจะจบลงเร็วตามที่เคยระบุว่าจะพยามยามให้ปัญหาจบในรัฐบาลชุดนี้ ว่า ปัญหานี้เป็นเรื่องใหญ่ ซึ่งในหลักการตนพยายามปรับปรุงทิศทางผลักดันการแก้ปัญหาโดยมุ่งให้มหาวิทยาลัยรับใช้สังคม มีคุณภาพและมาตรฐานในระดับสากล กรณีของมอส.เป็นกรณีหนึ่งที่ชี้ให้เห็นว่าการจัดการศึกษาในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา ไม่ได้คำนึงถึงหลักคุณภาพอย่างแท้จริง และเข้าใจว่ากระบวนการดังกล่าวนี้มีอยู่ในหลายมหาวิทยาลัย และตนได้ให้นโยบายไป 5 ข้อตั้งแต่เริ่มเข้ามาทำงาน คือ
1.ตนจะติดตามปรับระบบการพัฒนาคุณภาพของมหาวิทยาลัยให้สูงขึ้น 2.จะติดตามเรื่องการบริหารจัดการของมหาวิทยาลัยที่ให้มีอิสระทางวิชาการ 3.ไม่ให้มีการไปเปิดศูนย์การศึกษานอกที่ตั้งโดยไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ของสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) 4.การเปิดสาขา/คณะ/วิชาต้องสนองตอบต่อการพัฒนาประเทศ และสุดท้าย 5.ปฏิรูปมหาวิทยาลัยให้เป็นมหาวิทยาลัยรับใช้สังคม โดยเฉพาะโครงการ 1 มหาวิทยาลัย 1 จังหวัด ดังนั้นตนเข้าใจว่าคนที่จะเข้ามาเป็นรัฐมนตรีว่าการศธ.คนใหม่ก็จะต้องเดินหน้าตามหลักการนี้ต่อไป
“ผมได้ชี้แจงไปยังผู้ได้รับใบอนุญาตจัดตั้งและอดีตอธิการบดี มอส.แล้วว่า ไม่สามารถจะยุติการทำงานของคณะกรรมการควบคุม มอส.ได้ เพราะตั้งขึ้นตามกฎหมาย ดังนั้นจะต้องเดินหน้าต่อไป ประกอบกับช่วงนี้เป็นช่วงเปลี่ยนผ่าน เป็นหน้าที่ของรัฐมนตรีว่าการ ศธ.คนใหม่ที่จะมาควบคุมเรื่องนี้ให้เกิดประโยชน์กับทุกด้าน ทั้งนักศึกษาและด้านการฟื้นฟูมหาวิทยาลัย รวมถึงการดำเนินการกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการทุจริตซื้อขายใบ ป.บัณฑิต ซึ่งผมก็จะติดตามตรวจสอบเรื่องนี้ต่อไปด้วย แต่สิ่งที่ผมเป็นห่วงคือกลุ่มนักศึกษาที่เข้ามาเรียนโดยสุจริตอยากขอให้เร่งแก้ปัญหาโดยเร็ว” นายชินวรณ์กล่าว
นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) กล่าวถึงปัญหาของมหาวิทยาลัยอีสาน (มอส.) ที่ขณะนี้ยังไม่มีทีท่าว่าจะจบลงเร็วตามที่เคยระบุว่าจะพยามยามให้ปัญหาจบในรัฐบาลชุดนี้ ว่า ปัญหานี้เป็นเรื่องใหญ่ ซึ่งในหลักการตนพยายามปรับปรุงทิศทางผลักดันการแก้ปัญหาโดยมุ่งให้มหาวิทยาลัยรับใช้สังคม มีคุณภาพและมาตรฐานในระดับสากล กรณีของมอส.เป็นกรณีหนึ่งที่ชี้ให้เห็นว่าการจัดการศึกษาในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา ไม่ได้คำนึงถึงหลักคุณภาพอย่างแท้จริง และเข้าใจว่ากระบวนการดังกล่าวนี้มีอยู่ในหลายมหาวิทยาลัย และตนได้ให้นโยบายไป 5 ข้อตั้งแต่เริ่มเข้ามาทำงาน คือ
1.ตนจะติดตามปรับระบบการพัฒนาคุณภาพของมหาวิทยาลัยให้สูงขึ้น 2.จะติดตามเรื่องการบริหารจัดการของมหาวิทยาลัยที่ให้มีอิสระทางวิชาการ 3.ไม่ให้มีการไปเปิดศูนย์การศึกษานอกที่ตั้งโดยไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ของสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) 4.การเปิดสาขา/คณะ/วิชาต้องสนองตอบต่อการพัฒนาประเทศ และสุดท้าย 5.ปฏิรูปมหาวิทยาลัยให้เป็นมหาวิทยาลัยรับใช้สังคม โดยเฉพาะโครงการ 1 มหาวิทยาลัย 1 จังหวัด ดังนั้นตนเข้าใจว่าคนที่จะเข้ามาเป็นรัฐมนตรีว่าการศธ.คนใหม่ก็จะต้องเดินหน้าตามหลักการนี้ต่อไป
“ผมได้ชี้แจงไปยังผู้ได้รับใบอนุญาตจัดตั้งและอดีตอธิการบดี มอส.แล้วว่า ไม่สามารถจะยุติการทำงานของคณะกรรมการควบคุม มอส.ได้ เพราะตั้งขึ้นตามกฎหมาย ดังนั้นจะต้องเดินหน้าต่อไป ประกอบกับช่วงนี้เป็นช่วงเปลี่ยนผ่าน เป็นหน้าที่ของรัฐมนตรีว่าการ ศธ.คนใหม่ที่จะมาควบคุมเรื่องนี้ให้เกิดประโยชน์กับทุกด้าน ทั้งนักศึกษาและด้านการฟื้นฟูมหาวิทยาลัย รวมถึงการดำเนินการกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการทุจริตซื้อขายใบ ป.บัณฑิต ซึ่งผมก็จะติดตามตรวจสอบเรื่องนี้ต่อไปด้วย แต่สิ่งที่ผมเป็นห่วงคือกลุ่มนักศึกษาที่เข้ามาเรียนโดยสุจริตอยากขอให้เร่งแก้ปัญหาโดยเร็ว” นายชินวรณ์กล่าว
