จับผิด สพฐ.เร่งประมูลโครงการ 488 ล้านบาทเร็วผิดปกติ ยื่นซองประกวดหลังเลือกตั้งแค่วันเดียว “ชินภัทร” ยันปฏิบัติตามระเบียบ โปร่งใส
แหล่งข่าวจากกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยว่า ขณะนี้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงศึกษาการ ต่างเร่งอนุมัติโครงการก่อนที่รัฐบาลใหม่จะมา โดยเฉพาะสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้จัดประกวดราคาซื้ออุปกรณ์เพื่อการพัฒนาระบบเครือข่ายสำหรับสถานศึกษาในสังกัด ด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ โดยเริ่มต้นในการประมูล 488 ล้านบาท เร่งรัดให้ยื่นซองประกวดราคาในวันที่ 4 ก.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งหลังเลือกตั้งเพียงวันเดียว
ทั้งนี้ หลังจากให้ยืนซองประกวดวันที่ 4 ก.ค.แล้ว ทาง สพฐ.ก็ได้ประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับการคัดเลือก ในวันที่ 5 ก.ค.และ เสนอราคาคือวันที่ 8 ก.ค.
“มีการเร่งรัดจนผิดปกติ มีที่ไหนให้ยื่นซองประกวดเพียงวันเดียว แล้วประกาศผู้มีสิทธิ์ เสนอราคา วันถัดมา จะเอาเวลาที่ไหนไปตรวจสอบคุณสมบัติของบริษัทเหล่านั้น นอกจากมีการล็อคไว้ให้บริษัท พวกตัวเอง” แหล่งข่าว กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ การประมูลในช่วงที่กำลังจัดตั้งรัฐบาล ถือว่าไม่เหมาะสมควรจะรอให้รัฐบาลใหม่เป็นผู้มาประมูลดีกว่า
แหล่งข่าว ระบุว่า การประมูลโครงการนี้ เริ่มผิดปกติตั้งแต่การกำหนดวันขายแบบ คือ ให้มีการซื้อเอกสารการประมูลด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ในราคาชุดละ 500 ระหว่างวันที่ 24-28 มิ.ย. ซึ่งคาบเกี่ยวในช่วงวันหยุดราชการเสาร์-อาทิตย์ ทั้งที่ความจริงควรจะกำหนดในวันทำการ 5 วัน เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้เข้าประมูลมีเวลา แต่ถ้าทำกันอย่างนี้เป็นการรวบรัดตัดโอกาสบริษัทที่รู้ภายหลัง เพราะเตรียมตัวไม่ทัน ซึ่งง่ายต่อการล็อกเสปก เอื้อประโยชน์ให้บางบริษัทได้
ด้าน น.ส.สุมณฑา ลาภมูล นักวิชาการพัสดุชำนาญการ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) กล่าวว่า ไม่ได้ถือว่าเป็นการเร่งรัดดำเนินการ และเป็นไปตามระเบียบ โดยกำหนดว่า หลังจากดำเนินการปิดขายแบบแล้ว จะมีเวลาให้ยื่นเอกสารในการประมูลไม่น้อยกว่า 3 วัน โดยรวมวันหยุดราชการ ข้อกำหนดดังกล่าวจึงเป็นการดำเนินการตามขั้นตอน
ทั้งนี้ ระเบียบดังกล่าวสามารถตรวจสอบความถูกต้องได้ตามข้อกำหนด ได้ที่ ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการพัสดุด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ.2549 ซึ่งในเบื้องต้น ระบุไว้ชัดเจนว่า คณะกรรมการประกวดราคา ต้องนำสาระสำคัญของเอกสารเชิญชวน เอกสารประกวดราคา และเอกสารเบื้องต้นอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ที่สามารถเผยแพร่ได้ลงประกาศใน website ของหน่วยงาน และ www.gprocurement.go.th เป็นเวลาไม่น้อยกว่า 3 วัน
ด้าน นายชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กล่าวว่า สพฐ.ดำเนินการอย่างโปร่งใสและตรวจสอบได้ เป็นการกางระเบียบดำเนิน เพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาดตามมา โดยประชาชนสามารถตรวจสอบได้ ผ่านเว็บไซด์ของ สพฐ.ทุกขั้นตอน
