จารยา บุญมาก
ouiboonmark@yahoo.com
“กูต้องเก็บตังค์จ่ายค่าเทอมเอง ไปกินเหล้าไม่ได้หรอก เดี๋ยวเงินไม่พอค่าเรียนหนังสือ ไม่มีใครมาช่วยจ่ายนี่ พ่อแม่ก็ไม่ได้รวย” ประโยคปฏิเสธของ “ต่อ” หรือ ถิระวัฒน์ พันธ์ม่วง อายุ 25 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 4 สาขาจิตรกรรม มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง อดีตเยาวชนติดเหล้า กล่าวโดยไม่ลังเลขณะถูกเพื่อนชวนไปดื่มเหล้าหลังจากสามารถเลิกเหล้าอย่างเด็ดขาดมาได้ราว 1 ปี
ต่อ เล่าย้อนอดีตว่า ตัวเองเริ่มดื่มเหล้าตั้งแต่เรียนชั้นมัธยม ส่วนหนึ่งเป็นเพราะนิสัยของตนเองที่รักอิสระและชอบเที่ยวเวลาไกลบ้าน ส่วนหนึ่งเป็นเพราะแคร์เพื่อน และแคร์สังคมรอบข้าง เพราะลืมคิดไปว่าตัวเองจน ไม่ได้รวยเหมือนเพื่อนจะใช้ชีวิตด้วยเงินแบบสุรุ่ยสุร่ายไม่ได้ แต่แล้วด้วยความเป็นวัยคึกคะนอง ก็พยายามจะใช้ชีวิตแบบเต็มเหนี่ยว แรกๆ ดื่มเย็นหลังเลิกเรียน พอเวลาผ่านไปเริ่มซื้อเหล้า ซื้อเบียร์มาเก็บในห้องพักแล้วดื่ม แม้ช่วงที่ต้องออกไปเรียน ชีวิตติดลบแบบนี้ประจำจนกระทั่งเข้าเรียนมหาวิทยาลัยก็ยังทำตัวแย่เหมือนเดิม จนติดเหล้าขั้นรุนแรง จนไม่สามารถแบ่งเงินไว้จ่ายค่าข้าวได้
ต่อ เล่าต่อว่า เมื่อเข้าสู่ชั้นปีที่ 3 การเรียนเริ่มแย่ลงสอบไม่ผ่าน เงินก็ไม่มีเก็บ เริ่มคิดได้ และพยายามเลิกเหล้าแบบหักดิบ แต่ทำไม่ได้ ขณะที่สุขภาพก็แย่ลงเรื่อยๆ บังเอิญโชคดีเจอตัวแทนอาสาสมัครของเครือข่ายงดเหล้า และได้มีโอกาสเข้าปรึกษากับแพทย์ที่เชี่ยวชาญเรื่องการบำบัดผู้ติดเหล้าและค่อยๆ เลิกตามขั้นตอนที่ถูกต้องจนทุกวันนี้สามารถปฏิเสธเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิดได้
ต่อ ทิ้งท้ายถึงนักดื่มทุกคน ว่า หากคุณกำลังติดเหล้ามากๆ ให้ตั้งคำกับตัวเองว่า “รักครอบครัว รักเพื่อน รักแฟน หรือเปล่า ถ้ารักก็เลิกเหล้าเพื่อทุกคน และจำไว้ว่า คำปฏิเสธที่ถูกชวนดื่มเหล้าไม่ใช่อาวุธร้าย มันไม่ฆ่าใคร จะใช้มันทั้งชีวิตก็ยังได้”
เช่นเดียวกับอดีตนักดื่มรุ่นใหญ่ อย่าง นายปิ่นทอง ฤทธิธรรม อายุ 40 ปี เครือข่ายชุมชนไทยเกรียง สมุทรปราการ เล่าว่า พิษสุราเรื้อรัง ทำให้ชีวิตเขาติดลบ ภรรยาขอแยกทาง ถูกไล่ออกจากงานมีภาระหนี้สินเพิ่มพูเรื่อยๆ เมื่อชีวิตไม่เหลืออะไรแล้ว กระทั่งวันหนึ่งยังเห็นว่ามีลูกๆ ที่อยู่ในสภาพของเด็กซึ่งมีพ่อเป็นคนขี้เหล้า และต้องอับอายผู้อื่นทุกครั้งที่ตัวเองเมาอย่างคุ้มคลั่ง จึงเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้ตนตัดสินใจเลิกดื่มเหล้าโดยเด็ดขาด ซึ่งเขาพยายามทำอยู่เป็นร้อยครั้ง จนสำเร็จและกลับมาเป็นพ่อที่ดีนอกจากทำงานประจำในโรงงานเพื่อส่งเสียลูกแล้ว ยังแบ่งเวลามาเป็นอาสาสมัครในเครือข่ายฯ เพื่อช่วยเหลือผู้ที่ต้องการเลิกเหล้า และสามารถพัฒนาคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้นเหมือนอย่างตนและบุคคลอื่นที่ทำได้ โดยมีหลักคิดง่ายๆ สำหรับสิงห์สุราคือ ตั้งคำถามกับตัวเองด้วยหลัก 3 ก.คือ กินเพื่อใคร กินแล้วได้อะไร กินแล้วสูญเสียอะไร หากตอบคำถามนี้ได้ก็ชั่งน้ำหนักดูว่า ดื่มเหล้ากับไม่ดื่มแบบใดทำให้ชีวิตคุ้มค่ากว่ากัน
สองอดีตคอสุราถ่ายทอดประสบการณ์ชีวิตที่ผ่านมา พร้อมเชิญชวนให้คอเหล้าทั้งหลายตัดใจเลิกเหล้า โดยเข้าร่วมกิจกรรม ประกวดสุดยอดเซียนเลิกเหล้า (No Alcohol Reality) ตั้งแต่ช่วงวันเข้าพรรษา 16 ก.ค.-12 ต.ค.54 สำหรับกิจกรรมดังกล่าวเปิดโอกาสให้นักดื่มแอลกอฮอล์ที่ต้องการเลิกดื่ม โดยผู้เข้าประกวดทุกคนต้องอัปเดตวิธี หรือเทคนิคการเลิกเหล้าผ่านสถานะของตนเองอย่างต่อเนื่องกันอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง สถานะของผู้ใดมีคนมากดถูกใจ (like) มากที่สุด ถือเป็นผู้ชนะและเป็นสุดยอดเซียนเลิกเหล้า และจะได้รางวัลโล่เชิดชูเกียรติบุคคลต้นแบบเลิกเหล้าเข้าพรรษาปี 2554 พร้อมบันทึกเรื่องราวรวมเล่มเป็นหนังสือ สนใจดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://www.facebook.com/Noalcoholreality สมัครร่วมกิจกรรมได้แล้วตั้งแต่วันนี้ถึง 15 ก.ค.ผ่านทางเฟซบุ๊ก