ผลสำรวจ กกจ.เผย เด็กอาชีวะเรียนจบอยากทำงานน้อยสุด ชี้เห่อเรียนต่อปริญญาตรีตามค่านิยมผู้ปกครอง เร่งแนะแนวตามโรงเรียน พร้อมปรับโฉมเว็บไซต์ จัดทำหนังสือการ์ตูนแนะอาชีพช่าง จี้เอกชนปรับเงินเดือนวุฒิ ปวช.-ปวส.จูงใจเข้าตลาดแรงงานแก้ขาดแคลน
นางสุทัศนี สืบวงศ์แพทย์ อธิบดีกรมการจัดหางาน (กกจ.) กระทรวงแรงงาน (รง.) เปิดเผยว่า กกจ.ได้สำรวจผู้สำเร็จการศึกษาที่ประสงค์จะทำงานปี พ.ศ.2554 จากผู้ที่จบชั้นม.ต้นไปจนถึงปริญญาตรีกว่า 3 แสนคนทั่วประเทศ พบว่า มีผู้ประสงค์จะทำงานทั้งสิ้น 56,382 คน แยกเป็นชั้น ม.3 จำนวน 9,308 คน คิดเป็น 16.51% ชั้น ม.6 จำนวน 5,750 คน คิดเป็น 10.20% ปวช.จำนวน 4,964 คน คิดเป็น 8.80% ปวส./อนุปริญญา จำนวน 12,224 คน คิดเป็น 21.68% ปริญญาตรี 24,136 คิดเป็น 42.81%
อธิบดี กกจ.กล่าวอีกว่า ส่วนการสนับสนุนให้ผู้ที่ประสงค์จะทำงานเข้าสู่ตลาดแรงงานนั้น ผู้จบชั้น ม.ต้น และ ม.ปลาย ได้ประสานกับกรมพัฒนาฝีมือแรงงานนำคนกลุ่มนี้ไปอบรมทักษะวิชาชีพเพิ่มเติมแล้วให้เข้าสู่ตลาดแรงงาน ส่วนผู้จบ ปวช.ไปจนถึงปริญญาตรีได้จัดงานนัดพบแรงงานขึ้นในกรุงเทพฯและต่างจังหวัดโดยคัดเลือกบริษัทที่มีตำแหน่งงานว่างแน่นอนและขอให้ส่งบุคลากรที่มีอำนาจตัดสินใจได้ในเบื้องต้นในการรับลูกจ้างเข้าทำงานมาร่วมงาน อีกทั้งหลังจบงานแต่ละครั้งก็ได้ให้บริษัทที่เข้าร่วมงานส่งตัวเลขพนักงานที่รับเข้าทำงาน ทั้งนี้ โดยภาพรวมเฉลี่ยแล้วนักศึกษาและผู้ว่างงานที่มาร่วมงานได้งานทำกว่า 40%
“ที่น่าห่วงในขณะนี้ คือ เด็กที่จบอาชีวะระดับ ปวช.และปวส.เข้าสู่ตลาดแรงงานน้อย ทำให้ขาดแคลนแรงงานสายช่าง เนื่องจากผู้ปกครองมีค่านิยมให้ลูกหลานเรียนจบปริญญาตรีเพราะมองว่าจะทำให้ได้เงินเดือนสูง ทำงานสบายทั้งๆที่จริงแล้วเด็กสามารถเรียนต่อและทำงานควบคู่กันไปได้ในทางตรงกันข้ามเด็กไปเรียนต่อปริญญาตรี เช่น รัฐศาสตร์ จบมาแล้วก็ตกงาน เพราะมีตำแหน่งงานรองรับน้อย” นางสุทัศนี กล่าว
อธิบดี กกจ.กล่าวด้วยว่า กกจ.ได้จัดอบรมครูแนะแนวในสถานศึกษาทั่วประเทศ เพื่อให้มีความรู้เช่น ลักษณะงาน เงินเดือนและเส้นทางความก้าวหน้าของช่างแต่ละสาขา และช่วยแนะแนวการเรียนต่อสายอาชีพให้แก่นักเรียนชั้น ม.1 รวมทั้งได้ให้แรงงานจังหวัดแต่ละแห่งเข้าไปจัดกิจกรรมแนะแนวเรียนต่อสายอาชีพตามสถานศึกษาในพื้นที่ และให้เว็บไซต์ของแรงงานจังหวัดมีมุมโลกอาชีพเพื่อให้เด็กและครูเข้าไปหาความรู้
“กกจ.กำลังปรับปรุงเว็บไซต์ www.doe.go.th/vgnew ของกองส่งเสริมการมีงานทำ เพื่อเพิ่มเนื้อหา และเชื่อมโยงไปสู่สถานศึกษาต่างๆ รวมทั้งจัดทำหนังสือการ์ตูนเพื่อเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับช่างแต่ละสาขาด้วย ซึ่งหนังสือการ์ตูนนี้ คาดว่า จะแล้วเสร็จแจกจ่ายสถานศึกษาได้ในเดือนส.ค.นี้ อย่างไรก็ตาม อยากให้ภาคเอกชนปรับเงินเดือนแรงงานช่างที่มีวุฒิระดับ ปวช.และปวส.แต่ละสาขาด้วย เพื่อจูงใจให้ผู้ที่จบสายอาชีพเข้าสู่ตลาดแรงงานมากขึ้น” นางสุทัศนี กล่าว
นางสุทัศนี สืบวงศ์แพทย์ อธิบดีกรมการจัดหางาน (กกจ.) กระทรวงแรงงาน (รง.) เปิดเผยว่า กกจ.ได้สำรวจผู้สำเร็จการศึกษาที่ประสงค์จะทำงานปี พ.ศ.2554 จากผู้ที่จบชั้นม.ต้นไปจนถึงปริญญาตรีกว่า 3 แสนคนทั่วประเทศ พบว่า มีผู้ประสงค์จะทำงานทั้งสิ้น 56,382 คน แยกเป็นชั้น ม.3 จำนวน 9,308 คน คิดเป็น 16.51% ชั้น ม.6 จำนวน 5,750 คน คิดเป็น 10.20% ปวช.จำนวน 4,964 คน คิดเป็น 8.80% ปวส./อนุปริญญา จำนวน 12,224 คน คิดเป็น 21.68% ปริญญาตรี 24,136 คิดเป็น 42.81%
อธิบดี กกจ.กล่าวอีกว่า ส่วนการสนับสนุนให้ผู้ที่ประสงค์จะทำงานเข้าสู่ตลาดแรงงานนั้น ผู้จบชั้น ม.ต้น และ ม.ปลาย ได้ประสานกับกรมพัฒนาฝีมือแรงงานนำคนกลุ่มนี้ไปอบรมทักษะวิชาชีพเพิ่มเติมแล้วให้เข้าสู่ตลาดแรงงาน ส่วนผู้จบ ปวช.ไปจนถึงปริญญาตรีได้จัดงานนัดพบแรงงานขึ้นในกรุงเทพฯและต่างจังหวัดโดยคัดเลือกบริษัทที่มีตำแหน่งงานว่างแน่นอนและขอให้ส่งบุคลากรที่มีอำนาจตัดสินใจได้ในเบื้องต้นในการรับลูกจ้างเข้าทำงานมาร่วมงาน อีกทั้งหลังจบงานแต่ละครั้งก็ได้ให้บริษัทที่เข้าร่วมงานส่งตัวเลขพนักงานที่รับเข้าทำงาน ทั้งนี้ โดยภาพรวมเฉลี่ยแล้วนักศึกษาและผู้ว่างงานที่มาร่วมงานได้งานทำกว่า 40%
“ที่น่าห่วงในขณะนี้ คือ เด็กที่จบอาชีวะระดับ ปวช.และปวส.เข้าสู่ตลาดแรงงานน้อย ทำให้ขาดแคลนแรงงานสายช่าง เนื่องจากผู้ปกครองมีค่านิยมให้ลูกหลานเรียนจบปริญญาตรีเพราะมองว่าจะทำให้ได้เงินเดือนสูง ทำงานสบายทั้งๆที่จริงแล้วเด็กสามารถเรียนต่อและทำงานควบคู่กันไปได้ในทางตรงกันข้ามเด็กไปเรียนต่อปริญญาตรี เช่น รัฐศาสตร์ จบมาแล้วก็ตกงาน เพราะมีตำแหน่งงานรองรับน้อย” นางสุทัศนี กล่าว
อธิบดี กกจ.กล่าวด้วยว่า กกจ.ได้จัดอบรมครูแนะแนวในสถานศึกษาทั่วประเทศ เพื่อให้มีความรู้เช่น ลักษณะงาน เงินเดือนและเส้นทางความก้าวหน้าของช่างแต่ละสาขา และช่วยแนะแนวการเรียนต่อสายอาชีพให้แก่นักเรียนชั้น ม.1 รวมทั้งได้ให้แรงงานจังหวัดแต่ละแห่งเข้าไปจัดกิจกรรมแนะแนวเรียนต่อสายอาชีพตามสถานศึกษาในพื้นที่ และให้เว็บไซต์ของแรงงานจังหวัดมีมุมโลกอาชีพเพื่อให้เด็กและครูเข้าไปหาความรู้
“กกจ.กำลังปรับปรุงเว็บไซต์ www.doe.go.th/vgnew ของกองส่งเสริมการมีงานทำ เพื่อเพิ่มเนื้อหา และเชื่อมโยงไปสู่สถานศึกษาต่างๆ รวมทั้งจัดทำหนังสือการ์ตูนเพื่อเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับช่างแต่ละสาขาด้วย ซึ่งหนังสือการ์ตูนนี้ คาดว่า จะแล้วเสร็จแจกจ่ายสถานศึกษาได้ในเดือนส.ค.นี้ อย่างไรก็ตาม อยากให้ภาคเอกชนปรับเงินเดือนแรงงานช่างที่มีวุฒิระดับ ปวช.และปวส.แต่ละสาขาด้วย เพื่อจูงใจให้ผู้ที่จบสายอาชีพเข้าสู่ตลาดแรงงานมากขึ้น” นางสุทัศนี กล่าว
