ประชุม ก.ค.ศ.ตั้งคณะทำงานศึกษา หลังครูนับพันคน ร้องเหตุเสียสิทธิ์การรับเงินเพิ่มตำแหน่ง คศ.3 เป็น คศ.4 และ คศ. 4 เป็น คศ.5 ภายหลังมีการปรับเพดานเงินเดือนใหม่ พร้อมเตรียมจัดประชุมคัดกรองรางวัลดีเด่นระดับชาติเหลือ 300 รายการจากที่มีหน่วยงานแจ้งมาทั้งสิ้น 356 รายการ ก่อนเสนออนุ ก.ค.ศ.วิสามัญฯ ประกาศใช้และเปิดให้ผู้บังคับบัญชาและครูเสนอชื่อเพื่อขอรับประเมินวิทยฐานะผลงานเชิงประจักษ์ กลางเดือน ก.ค.นี้
นายอภิชาติ จีระวุฒิ ปลัดกระทรวงศึกษาธการ (ศธ.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ได้รายงานความคืบหน้าการใช้หลักเกณฑ์และวิธีการให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาผู้มีผลงานดีเด่นที่ประสบความสำเร็จเป็นที่ประจักษ์ มีวิทยฐานะหรือเลื่อนวิทยฐานะชำนาญการพิเศษและวิทยฐานะเชี่ยวชาญ โดย ในวันที่ 30 มิ.ย.นี้ จะมีการประชุมคณะทำงานพิจารณาคัดกรองรางวัลที่เป็นรางวัลดีเด่นระดับชาติเพื่อใช้ในการประเมินเชิงประจักษ์ มีคุณหญิงกษมา วรวรรณ ณ อยุธยา เป็นประธาน ซึ่งขณะนี้ สำนักงาน ก.ค.ศ.ได้รับรายงานว่ามีราลวัลจำนวน 356 รายการที่หน่วยงานต่าง ๆ ทั่วประเทศที่มีการมอบแก่ครูผู้มีผลงานดีเด่น
อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นจะคัดเลือกรางวัลเหลือเพียง 300 รายการเพื่อเสนอให้คณะทำงานพิจารณาคัดกรองอีกชั้นว่าสมควรจะให้เป็นรางวัลดีเด่นระดับชาติหรือไม่ จากนั้นนำเสนอคณะอนุกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (อ.ก.ค.ศ.) วิสามัญตำแหน่ง และประกาศใช้ ในท้ายที่สุดจึงจะเปิดให้ผู้บังคับบัญชาเสนอชื่อรวมทั้งจะเปิดโอกาสให้ครูได้แสดงตนเพื่อขอรับการประเมินผลงานเชิงประจักษ์ได้ ประมาณกลางเดือน ก.ค.นี้
“ที่ผ่านมาการพิจารณาผลงานเชิงประจักษ์ของครูคนส่วนใหญ่มักจะมุ่งไปที่ผลคะแนนแบบทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติขั้นพื้นฐาน (โอเน็ต) แต่การพิจารณาเชิงประจักษ์ตามหลักเกณฑ์และวิธีการใหม่จะดูที่ผลผลิตของนักเรียนที่ครูสอนมาว่าเป็นอย่างไรบ้าง หากใครคิดว่าตัวเองมีคุณสมบัติตามหลักเกณฑ์ก็ให้เสนอตัวเองมา อย่างไรก็ตามในขั้นต้นต้องผ่านการคัดกรองจากหน่วยงานต้นสังกัดว่ามีคุณสมบัติเป็นไปตามหลักเกณฑ์หรือไม่” นายอภิชาติกล่าว
ปลัด ศธ.กล่าวอีกว่า ที่ประชุมได้ติดตามการเบิกจ่ายเงินเดือนของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาที่มีการปรับขึ้นเงินเดือน 8% ขณะนี้ทุกหน่วยงานได้ตั้งเรื่องเบิกจ่ายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จะมีเพียงสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) ที่รอการยืนยันจากกรมบัญชีกลาง คาดว่าจะได้รับคำตอบภายในสัปดาห์นี้ ส่วนกรณีที่มีผู้ร้องเรียนว่าการปรับเงินเดือนตามเพดานเงินเดือนใหม่ ตาม พ.ร.บ.เงินเดือน เงินประจำตำแหน่งและเงินวิทยฐานะ ทำให้เสียสิทธิในการได้รับเงินเพิ่มจาก คศ.3 เป็นคศ.4 และ คศ.4 เป็น คศ.5 นั้น ที่ประชุมได้ตั้งคณะทำงานขึ้นมาศึกษาเรื่องนี้ว่ามีข้าราชการครูได้รับผลกระทบเรื่องนี้จริงหรือไม่ เพื่อจะได้เข้าไปช่วยแก้ปัญหา หากจะต้องมีการปรับแก้กฏหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องก็จะดำเนินการให้ อย่างไรก็ตาม ในเบื้องต้นมีข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ประมาณ 1,000 คน ที่ได้รับผลกระทบดังกล่าว
นายอภิชาติ จีระวุฒิ ปลัดกระทรวงศึกษาธการ (ศธ.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ได้รายงานความคืบหน้าการใช้หลักเกณฑ์และวิธีการให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาผู้มีผลงานดีเด่นที่ประสบความสำเร็จเป็นที่ประจักษ์ มีวิทยฐานะหรือเลื่อนวิทยฐานะชำนาญการพิเศษและวิทยฐานะเชี่ยวชาญ โดย ในวันที่ 30 มิ.ย.นี้ จะมีการประชุมคณะทำงานพิจารณาคัดกรองรางวัลที่เป็นรางวัลดีเด่นระดับชาติเพื่อใช้ในการประเมินเชิงประจักษ์ มีคุณหญิงกษมา วรวรรณ ณ อยุธยา เป็นประธาน ซึ่งขณะนี้ สำนักงาน ก.ค.ศ.ได้รับรายงานว่ามีราลวัลจำนวน 356 รายการที่หน่วยงานต่าง ๆ ทั่วประเทศที่มีการมอบแก่ครูผู้มีผลงานดีเด่น
อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นจะคัดเลือกรางวัลเหลือเพียง 300 รายการเพื่อเสนอให้คณะทำงานพิจารณาคัดกรองอีกชั้นว่าสมควรจะให้เป็นรางวัลดีเด่นระดับชาติหรือไม่ จากนั้นนำเสนอคณะอนุกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (อ.ก.ค.ศ.) วิสามัญตำแหน่ง และประกาศใช้ ในท้ายที่สุดจึงจะเปิดให้ผู้บังคับบัญชาเสนอชื่อรวมทั้งจะเปิดโอกาสให้ครูได้แสดงตนเพื่อขอรับการประเมินผลงานเชิงประจักษ์ได้ ประมาณกลางเดือน ก.ค.นี้
“ที่ผ่านมาการพิจารณาผลงานเชิงประจักษ์ของครูคนส่วนใหญ่มักจะมุ่งไปที่ผลคะแนนแบบทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติขั้นพื้นฐาน (โอเน็ต) แต่การพิจารณาเชิงประจักษ์ตามหลักเกณฑ์และวิธีการใหม่จะดูที่ผลผลิตของนักเรียนที่ครูสอนมาว่าเป็นอย่างไรบ้าง หากใครคิดว่าตัวเองมีคุณสมบัติตามหลักเกณฑ์ก็ให้เสนอตัวเองมา อย่างไรก็ตามในขั้นต้นต้องผ่านการคัดกรองจากหน่วยงานต้นสังกัดว่ามีคุณสมบัติเป็นไปตามหลักเกณฑ์หรือไม่” นายอภิชาติกล่าว
ปลัด ศธ.กล่าวอีกว่า ที่ประชุมได้ติดตามการเบิกจ่ายเงินเดือนของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาที่มีการปรับขึ้นเงินเดือน 8% ขณะนี้ทุกหน่วยงานได้ตั้งเรื่องเบิกจ่ายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จะมีเพียงสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) ที่รอการยืนยันจากกรมบัญชีกลาง คาดว่าจะได้รับคำตอบภายในสัปดาห์นี้ ส่วนกรณีที่มีผู้ร้องเรียนว่าการปรับเงินเดือนตามเพดานเงินเดือนใหม่ ตาม พ.ร.บ.เงินเดือน เงินประจำตำแหน่งและเงินวิทยฐานะ ทำให้เสียสิทธิในการได้รับเงินเพิ่มจาก คศ.3 เป็นคศ.4 และ คศ.4 เป็น คศ.5 นั้น ที่ประชุมได้ตั้งคณะทำงานขึ้นมาศึกษาเรื่องนี้ว่ามีข้าราชการครูได้รับผลกระทบเรื่องนี้จริงหรือไม่ เพื่อจะได้เข้าไปช่วยแก้ปัญหา หากจะต้องมีการปรับแก้กฏหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องก็จะดำเนินการให้ อย่างไรก็ตาม ในเบื้องต้นมีข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ประมาณ 1,000 คน ที่ได้รับผลกระทบดังกล่าว
