มติสภา มรภ.รำไพพรรณี ถอด “บัญญัติ สุขศรีงาม” อธ.พ้นตำแหน่ง เหตุบกพร่องในหน้าที่ พร้อมตั้ง “สิริวัฒน์” รักษาการแทน นายกสภาฯ เผยให้โอกาสปรับปรุงแก้ไขแต่ผ่านไป 2 เดือนไม่ดีขึ้น แถมบกพร่องกว่าเดิมจึงมีมติถอดถอน ขณะที่คณบดีวิทย์นำทีมครูกว่า 50 คนแต่งดำประท้วง ลั่นหากไม่เป็นผลจะรวมตัวยื่นหนังสือหน่วยงานเกี่ยวข้อง ด้าน “สุเมธ” ชี้อดีตอธิการฯ มีสิทธิฟ้องศาลปกครองได้
วันนี้ (19 มิ.ย.) ดร.อาชว์ เตาลานนท์ นายกสภามหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี (มรภ.รำไพพรรณี) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการสภา มรภ.รำไพพรรณี ว่า ที่ประชุมสภาฯ ได้ลงมติถอดถอน รศ.บัญญัติ สุขศรีงาม ออกจากการเป็นอธิการบดี มรภ.รำไพพรรณี ด้วยคะแนนเสียงเห็นควรให้พ้นจากตำแหน่ง 13 เสียง และไม่ออกเสียง 4 เสียง โดยการลงมติดังกล่าวมีผลบังคับทันที สาเหตุที่มีมติถอดถอนเนื่องจากความบกพร่องในการบริหารงาน อันเป็นความผิดตามมาตรา 30 (3) แห่งพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยราชภัฏ พ.ศ. 2547 พร้อมกันนี้ที่ประชุมสภาฯ ได้มีมติแต่งตั้ง ศ.ดร.สิริวัฒน์ วงษ์ศิริ ทำหน้าที่รักษาการอธิการบดี และ ผศ.ไวกูณฑ์ ทองร่าม รศ.ทรงศักดิ์ มิ่มกระโทก รักษาการรองอธิการบดี
นายกสภาฯ กล่าวต่อว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 7 ม.ค. 2554 ได้มีผู้บริหารและคณาจารย์ทำหนังสือร้องเรียนมายังสภาฯ ว่า อธิการบดีทำผิดระเบียบและบกพร่องในการบริหารงาน สภาฯ จึงได้ตั้งคณะกรรมการสืบข้อเท็จจริงได้รายงานการสืบสวนข้อเท็จจริง พบว่ามีมูลตามที่มีผู้ร้องเรียน ในการประชุมคณะกรรมการสภาฯ วันที่ 4 ก.พ. จึงมีมติให้ส่งเรื่องความผิดทางวินัยของอธิการบดีไปให้สำนักงานคณะกรรมการอุดมศึกษาแห่งชาติ ดำเนินการตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัย ทั้งนี้เพราะอธิการบดีเป็นข้าราชการระดับสูง ในส่วนมูลความผิดด้านความบกพร่องในการบริหารงาน ให้อธิการบดีชี้แจงข้อกล่าวหาทั้งในรูปของเอกสารที่มีลายลักษณ์อักษรและทางวาจา ซึ่งในการประชุมคณะกรรมการครั้งต่อมาเมื่อวันที่ 10 ก.พ. 2554 อธิการบดีขอเลื่อนเวลาการส่งเอกสาร โดยที่ประชุมมีมติเห็นชอบการขอเลื่อนส่งเอกสารฯเป็นภายในวันที่ 11 มี.ค. 2554 ต่อมาในการประชุมคณะกรรมการสภาฯ วันที่ 1 เม.ย. 2554 ได้พิจารณาข้อบกพร่องในการบริหารงานของอธิการบดี ลงมติว่าอธิการบดีมีความบกพร่องในการบริหารงาน ด้วยคะแนนเสียงเห็นว่าอธิการบดีมีความบกพร่อง 16 เสียง และเห็นว่าไม่บกพร่อง 2 เสียง ในการประชุมคณะกรรมการสภาฯครั้งต่อมาในวันที่ 7 เม.ย. 2554 ได้พิจารณากรณีอธิการบดีบกพร่องต่อหน้าที่
“มติที่ประชุมเห็นว่า เพื่อให้การปฏิบัติหน้าที่ของอธิการบดีเป็นไปด้วยความสง่างาม จึงเสนอให้อธิการบดียื่นหนังสือลาออกจากการดำรงตำแหน่งอธิการบดี ภายในวันที่ 11 เม.ย. 2554 โดยหนังสือดังกล่าวจะมีผลในวันที่ 1 ต.ค. 2554 แต่อธิการบดีไม่ยินดีในข้อเสนอดังกล่าว การประชุมครั้งต่อมาในวันที่ 12 เม.ย.54 ได้มีการพิจารณาถอดถอนอธิการบดีให้พ้นจากตำแหน่ง โดยมติที่ประชุมเห็นควรให้พ้นจากตำแหน่ง 13 เสียง ไม่เห็นควรให้พ้นจากตำแหน่ง 4 เสียง เนื่องจากคะแนนเสียงไม่ถึง 2 ใน 3 ของจำนวนกรรมการที่มีอยู่ทั้งหมดขาดไป 1 เสียงเนื่องจากเดินทางไปต่างประเทศ จึงไม่ได้มีการถอดถอน รศ.บัญญัติ ออกจากตำแหน่งอธิการบดี อย่างไรก็ตาม ได้ขอให้ปรับปรุงการบริหารงานของตัวเองและจัดทำแผนพัฒนาองค์กรเพื่อแก้ไขข้อบกพร่องต่างๆ จนถึงปัจจุบันผ่านมาเป็นเวลากว่า 2 เดือน จนกระทั่งวันที่ 9 มิ.ย. 2554 ที่ประชุมฯจึงได้ทบทวนปรากฏว่ายังไม่ได้รับการแก้ไขให้ดีขึ้น และกลับพบว่ามีความบกพร่องเพิ่มเติม สุดท้ายในการประชุมวันนี้ (19 มิ.ย.) จึงลงมติว่า รศ.บัญญัติ สุขศรีงาม ยังคงบกพร่องและให้มีการพิจารณาถอดถอนออกจากตำแหน่งอธิการบดี” ดร.อาชว์กล่าว
ด้าน รศ.บัญญัติ เปิดเผยว่า การถอดถอนตนเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้องและไม่เป็นธรรม ดังนั้นตนจะหารือกับฝ่ายกฎหมายเพื่อต่อสู้เพื่อความเป็นธรรม โดยอาจมีการฟ้องศาลปกครองต่อไป
ขณะที่ ดร.โชติ เนืองนันท์ คณบดีคณะวิทยาศาสตร์ มรภ.รำไพพรรณี พร้อมคณะครูกว่า 50 คน ร่วมกันแต่งชุดดำเดินทางมายังสโมรทหารบก ถนนวิภาวดี-รังสิต เพื่อยื่นหนังสือคัดค้านการพิจารณาของสภามหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี ในการถอดถอน รศ.บัญญัติ สุขศรีงาม อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี ข้อกล่าวหาบกพร่องต่อหน้าที่โดยไม่ให้โอกาสชี้แจง อันเป็นการปฏิบัติผิดขั้นตอนการปฏิบัติหน้าที่ทางราชการ ไม่เป็นไปตาม พ.ร.บ.วิธีปฏิบัติทางราชการทางปกครอง เนื่องจากได้มีการนำเรื่องการถอดถอนมาพิจารณาถึง 2 ครั้ง โดยมีระยะห่างไม่ถึง 2 เดือน ซึ่งการพิจารณาในครั้งแรกอธิการบดี มรภ.รำไพพรรณีสามารถชี้แจงจนไม่ถูกถอดถอน เพราะเสียงไม่ถึง 2 ใน 3 ตาม พ.ร.บ.มหาวิทยาลัยราชภัฏ พ.ศ. 2547 จึงทำให้เกิดการตั้งข้อสงสัยเกิดขึ้นว่า การพิจารณาครั้งล่าสุดเป็นการพิจารณาที่โปร่งใสหรือไม่ อย่างไรก็ตาม หากข้อเรียกร้องไม่เป็นผล ตนเองและคณะอาจารย์จะไปยื่นหนังสือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป
ดร.สุเมธ แย้มนุ่น เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (เลขาธิการ กกอ.) กล่าวว่า ตนทราบเพียงแต่ว่าทาง มรภ.รำไพพรรณี มีปัญหาภายในเกี่ยวกับการบริหารงานของ รศ.บัญญัติ แต่ไม่ทราบรายละเอียดว่าเป็นเช่นไร ซึ่งการตัดสินใจดำเนินการใดนั้นเป็นมติของสภา มรภ.รำไพรรณี เท่านั้น ส่วนกรณีของ รศ.บัญญัติ เมื่อถูกถอดถอนก็มีสิทธิไปฟ้องศาลปกครองได้ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วก็จะปฏิบัติในลักษณะนี้ทั้งสิ้น และหากศาลปกครองมีการไต่สวนและมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว รศ.บัญญัติก็สามารถปฏิบัติหน้าที่ในฐานะอธิการบดีได้ตามเดิม จนกว่าจะสิ่นสุดคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว แต่ทั้งนี้จะเป็นในแนวทางนี้หรือไม่ก็ขึ้นกับดุลพินิจของศาลปกครอง
วันนี้ (19 มิ.ย.) ดร.อาชว์ เตาลานนท์ นายกสภามหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี (มรภ.รำไพพรรณี) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการสภา มรภ.รำไพพรรณี ว่า ที่ประชุมสภาฯ ได้ลงมติถอดถอน รศ.บัญญัติ สุขศรีงาม ออกจากการเป็นอธิการบดี มรภ.รำไพพรรณี ด้วยคะแนนเสียงเห็นควรให้พ้นจากตำแหน่ง 13 เสียง และไม่ออกเสียง 4 เสียง โดยการลงมติดังกล่าวมีผลบังคับทันที สาเหตุที่มีมติถอดถอนเนื่องจากความบกพร่องในการบริหารงาน อันเป็นความผิดตามมาตรา 30 (3) แห่งพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยราชภัฏ พ.ศ. 2547 พร้อมกันนี้ที่ประชุมสภาฯ ได้มีมติแต่งตั้ง ศ.ดร.สิริวัฒน์ วงษ์ศิริ ทำหน้าที่รักษาการอธิการบดี และ ผศ.ไวกูณฑ์ ทองร่าม รศ.ทรงศักดิ์ มิ่มกระโทก รักษาการรองอธิการบดี
นายกสภาฯ กล่าวต่อว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 7 ม.ค. 2554 ได้มีผู้บริหารและคณาจารย์ทำหนังสือร้องเรียนมายังสภาฯ ว่า อธิการบดีทำผิดระเบียบและบกพร่องในการบริหารงาน สภาฯ จึงได้ตั้งคณะกรรมการสืบข้อเท็จจริงได้รายงานการสืบสวนข้อเท็จจริง พบว่ามีมูลตามที่มีผู้ร้องเรียน ในการประชุมคณะกรรมการสภาฯ วันที่ 4 ก.พ. จึงมีมติให้ส่งเรื่องความผิดทางวินัยของอธิการบดีไปให้สำนักงานคณะกรรมการอุดมศึกษาแห่งชาติ ดำเนินการตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัย ทั้งนี้เพราะอธิการบดีเป็นข้าราชการระดับสูง ในส่วนมูลความผิดด้านความบกพร่องในการบริหารงาน ให้อธิการบดีชี้แจงข้อกล่าวหาทั้งในรูปของเอกสารที่มีลายลักษณ์อักษรและทางวาจา ซึ่งในการประชุมคณะกรรมการครั้งต่อมาเมื่อวันที่ 10 ก.พ. 2554 อธิการบดีขอเลื่อนเวลาการส่งเอกสาร โดยที่ประชุมมีมติเห็นชอบการขอเลื่อนส่งเอกสารฯเป็นภายในวันที่ 11 มี.ค. 2554 ต่อมาในการประชุมคณะกรรมการสภาฯ วันที่ 1 เม.ย. 2554 ได้พิจารณาข้อบกพร่องในการบริหารงานของอธิการบดี ลงมติว่าอธิการบดีมีความบกพร่องในการบริหารงาน ด้วยคะแนนเสียงเห็นว่าอธิการบดีมีความบกพร่อง 16 เสียง และเห็นว่าไม่บกพร่อง 2 เสียง ในการประชุมคณะกรรมการสภาฯครั้งต่อมาในวันที่ 7 เม.ย. 2554 ได้พิจารณากรณีอธิการบดีบกพร่องต่อหน้าที่
“มติที่ประชุมเห็นว่า เพื่อให้การปฏิบัติหน้าที่ของอธิการบดีเป็นไปด้วยความสง่างาม จึงเสนอให้อธิการบดียื่นหนังสือลาออกจากการดำรงตำแหน่งอธิการบดี ภายในวันที่ 11 เม.ย. 2554 โดยหนังสือดังกล่าวจะมีผลในวันที่ 1 ต.ค. 2554 แต่อธิการบดีไม่ยินดีในข้อเสนอดังกล่าว การประชุมครั้งต่อมาในวันที่ 12 เม.ย.54 ได้มีการพิจารณาถอดถอนอธิการบดีให้พ้นจากตำแหน่ง โดยมติที่ประชุมเห็นควรให้พ้นจากตำแหน่ง 13 เสียง ไม่เห็นควรให้พ้นจากตำแหน่ง 4 เสียง เนื่องจากคะแนนเสียงไม่ถึง 2 ใน 3 ของจำนวนกรรมการที่มีอยู่ทั้งหมดขาดไป 1 เสียงเนื่องจากเดินทางไปต่างประเทศ จึงไม่ได้มีการถอดถอน รศ.บัญญัติ ออกจากตำแหน่งอธิการบดี อย่างไรก็ตาม ได้ขอให้ปรับปรุงการบริหารงานของตัวเองและจัดทำแผนพัฒนาองค์กรเพื่อแก้ไขข้อบกพร่องต่างๆ จนถึงปัจจุบันผ่านมาเป็นเวลากว่า 2 เดือน จนกระทั่งวันที่ 9 มิ.ย. 2554 ที่ประชุมฯจึงได้ทบทวนปรากฏว่ายังไม่ได้รับการแก้ไขให้ดีขึ้น และกลับพบว่ามีความบกพร่องเพิ่มเติม สุดท้ายในการประชุมวันนี้ (19 มิ.ย.) จึงลงมติว่า รศ.บัญญัติ สุขศรีงาม ยังคงบกพร่องและให้มีการพิจารณาถอดถอนออกจากตำแหน่งอธิการบดี” ดร.อาชว์กล่าว
ด้าน รศ.บัญญัติ เปิดเผยว่า การถอดถอนตนเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้องและไม่เป็นธรรม ดังนั้นตนจะหารือกับฝ่ายกฎหมายเพื่อต่อสู้เพื่อความเป็นธรรม โดยอาจมีการฟ้องศาลปกครองต่อไป
ขณะที่ ดร.โชติ เนืองนันท์ คณบดีคณะวิทยาศาสตร์ มรภ.รำไพพรรณี พร้อมคณะครูกว่า 50 คน ร่วมกันแต่งชุดดำเดินทางมายังสโมรทหารบก ถนนวิภาวดี-รังสิต เพื่อยื่นหนังสือคัดค้านการพิจารณาของสภามหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี ในการถอดถอน รศ.บัญญัติ สุขศรีงาม อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี ข้อกล่าวหาบกพร่องต่อหน้าที่โดยไม่ให้โอกาสชี้แจง อันเป็นการปฏิบัติผิดขั้นตอนการปฏิบัติหน้าที่ทางราชการ ไม่เป็นไปตาม พ.ร.บ.วิธีปฏิบัติทางราชการทางปกครอง เนื่องจากได้มีการนำเรื่องการถอดถอนมาพิจารณาถึง 2 ครั้ง โดยมีระยะห่างไม่ถึง 2 เดือน ซึ่งการพิจารณาในครั้งแรกอธิการบดี มรภ.รำไพพรรณีสามารถชี้แจงจนไม่ถูกถอดถอน เพราะเสียงไม่ถึง 2 ใน 3 ตาม พ.ร.บ.มหาวิทยาลัยราชภัฏ พ.ศ. 2547 จึงทำให้เกิดการตั้งข้อสงสัยเกิดขึ้นว่า การพิจารณาครั้งล่าสุดเป็นการพิจารณาที่โปร่งใสหรือไม่ อย่างไรก็ตาม หากข้อเรียกร้องไม่เป็นผล ตนเองและคณะอาจารย์จะไปยื่นหนังสือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป
ดร.สุเมธ แย้มนุ่น เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (เลขาธิการ กกอ.) กล่าวว่า ตนทราบเพียงแต่ว่าทาง มรภ.รำไพพรรณี มีปัญหาภายในเกี่ยวกับการบริหารงานของ รศ.บัญญัติ แต่ไม่ทราบรายละเอียดว่าเป็นเช่นไร ซึ่งการตัดสินใจดำเนินการใดนั้นเป็นมติของสภา มรภ.รำไพรรณี เท่านั้น ส่วนกรณีของ รศ.บัญญัติ เมื่อถูกถอดถอนก็มีสิทธิไปฟ้องศาลปกครองได้ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วก็จะปฏิบัติในลักษณะนี้ทั้งสิ้น และหากศาลปกครองมีการไต่สวนและมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว รศ.บัญญัติก็สามารถปฏิบัติหน้าที่ในฐานะอธิการบดีได้ตามเดิม จนกว่าจะสิ่นสุดคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว แต่ทั้งนี้จะเป็นในแนวทางนี้หรือไม่ก็ขึ้นกับดุลพินิจของศาลปกครอง
