สภาการพยาบาลออกข้อบังคับป้องกันสถานศึกษาลอยแพ นศ.ย้ำชัดต้องมีสถาบันการศึกษา “พี่เลี้ยง” คอยดูแล จึงเปิดหลักสูตรได้
ศ.เกียรติคุณ ดร.วิจิตร ศรีสุพรรณ นายกสภาการพยาบาล กล่าวว่า ตามที่ในช่วงปลายปี 2553 ได้เกิดกรณีนักศึกษาพยาบาลของสถาบันการศึกษาบางแห่งที่เปิดสอนวิชาการพยาบาลและการผดุงครรภ์ แต่การเปิดการเรียนการสอนนี้ยังไม่มีการรับรองหลักสูตรจากสภาการพยาบาล ส่งผลให้นักศึกษาที่กำลังจะสำเร็จการศึกษาไม่สามารถนำวุฒิการศึกษาไปขอรับใบใบอนุญาตประกอบวิชาชีพจากสภาการพยาบาลได้ ซึ่งกระทรวงศึกษาการ (ศธ.) กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ได้ให้การช่วยเหลือไปแล้วนั้น แต่เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาดังกล่าวขึ้นมาอีก นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ในฐานะสภานายกพิเศษของสภาการพยาบาลจึงได้ลงนามในข้อบังคับข้อบังคับสภาการพยาบาล ว่าด้วยหลักเกณฑ์การรับรองสถาบันการศึกษาวิชาการพยาบาลและการผดุงครรภ์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2553 เพื่อกำหนดให้สถาบันการศึกษาที่จะเปิดใหม่โดยจะมีการสอนหลักสูตรวิชาการพยาบาลและการผดุงครรภ์ด้วยนั้น จะต้องมีสถาบันการศึกษาที่มีการสอนในหลักสูตรเดียวกันคอยเป็นพี่เลี้ยง โดยเมื่อหากเกิดปัญหาอะไรขึ้นมาสถาบันการศึกษาที่เป็นพี่เลี้ยงจะต้องเข้าไปให้ความช่วยเหลือทันที เช่น หากเรียนอยู่แล้วเกิดไม่มีอาจารย์สอน ทางสถาบันการศึกษาที่เป็นพี่เลี้ยงก็จะต้องมีการส่งอาจารย์เข้าไปช่วยสอน เป็นต้น โดยขณะนี้ข้อบังคับดังกล่าวได้มีผลบังคับใช้อย่างเป็นทางการแล้ว
นายกสภาการพยาบาล กล่าวต่อไปว่า ในส่วนการดูแลสถาบันการศึกษาที่มีการสอนวิชาการพยาบาลและการผดุงครรภ์นั้น หากเป็นสถาบันการศึกษาที่เปิดใหม่ ทางสภาการพยาบาลจะลงพื้นที่ไปตรวจสอบหลักสูตรทุกปี โดยจะตรวจสอบไปจนกว่าสถาบันการศึกษาดังกล่าวจะมีนักศึกษาจบหลักสูตร โดยขณะนี้มีสถาบันการศึกษาที่มีการสอนวิชาการพยาบาลและการผดุงครรภ์อยู่ 79 แห่ง ในจำนวนนี้เป็นสถาบันการศึกษาที่เปิดใหม่อยู่ประมาณ 3-4 แห่ง ที่ทางสภาการพยาบาลจะต้องลงพื้นที่ตรวจสอบอยู่เป็นประจำ ทั้งนี้ สำหรับสถาบันการศึกษาที่มีนักศึกษาจบการศึกษารุ่นแรกไปแล้ว ทางสภาการพยาบาลก็จะลงพื้นที่ตรวจสอบเช่นกัน แต่ความเข้มข้นจะน้อยกว่าสถาบันการศึกษาที่เปิดใหม่