เอแบคโพลล์ เผย “อภิสิทธิ์” ได้รับการโหวตจากกลุ่มตัวอย่างในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ให้เป็นพ่อตัวอย่างกลุ่มนักการเมืองมากที่สุด ขณะที่ในกลุ่มของดาราพบว่า “เคน ธีรเดช” นำลิ่วอันดับหนึ่ง สำหรับสิ่งที่ต้องการให้รัฐบาลส่งเสริมบทบาทความเป็นพ่อพบว่า ร้อยละ 42.4 ต้องการให้ส่งเสริมกิจกรรมที่ทำให้ครอบครัวได้มีเวลาอยู่ร่วมกันมากสุด
นางฐาณิชชา ลิ้มพานิช ผู้จัดการมูลนิธิเครือข่ายครอบครัว ร่วมกับ นายนพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการศูนย์เครือข่ายวิชาการเพื่อสังเกตการณ์และวิจัยความสุขชุมชน หรือศูนย์วิจัยความสุขชุมชน มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ เปิดเผยผลวิจัยเชิงสำรวจเรื่อง การรณรงค์ส่งเสริมสถาบันครอบครัวและคุณพ่อตัวอย่าง กรณีศึกษาตัวอย่างประชาชนอายุ 12-30 ปี ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และปริมณฑล จำนวนทั้งสิ้น 1,320 ครัวเรือน ดำเนินการสำรวจระหว่างวันที่ 5-13 เมษายน 2554
ผลการประเมินความคิดเห็นการรับรู้ต่อการรณรงค์ส่งเสริมสถาบันครอบครัวพบว่า มีเพียง 3 หัวข้อเท่านั้นที่ได้รับการประเมินเกินครึ่ง ได้แก่ การป้องกันแก้ไขความรุนแรงในครอบครัว ร้อยละ 67.4 การรณรงค์ให้พ่อลดละเลิกอบายมุข ร้อยละ 62.8 และการรณรงค์ให้คนในครอบครัวใช้เวลาทำกิจกรรมร่วมกัน ร้อยละ 58.8 แต่ที่เหลือได้รับการประเมินไม่ถึงครึ่ง ได้แก่ การรณรงค์ให้พ่อให้ความรัก/ความอบอุ่นแก่ครอบครัว ร้อยละ 49.7 การรณรงค์ให้ลูกรักและเอาใจใส่ต่อพ่อ ร้อยละ 44.6 การรณรงค์พ่อตัวอย่าง ร้อยละ 44.2 การรณรงค์ให้พ่อใช้เวลากับลูกมากขึ้น ร้อยละ 39.4 และการรณรงค์ให้พ่อช่วยภรรยาดูแลลูก ร้อยละ 35.0
เมื่อให้กลุ่มตัวอย่างประเมินผลการรณรงค์ส่งเสริมครอบครัวพบว่า ตัวอย่างให้ผลการประเมินในระดับปานกลางหรือแค่สอบผ่าน โดยพบว่า ตัวอย่างร้อยละ 56.8 ให้ผลการประเมินอยู่ในระดับปานกลาง ร้อยละ 18.0 อยู่ในระดับมาก-มากที่สุด และร้อยละ 25.2 อยู่ในระดับน้อยถึงน้อยที่สุด
ในส่วนของพ่อตัวอย่างในกลุ่ม “นักการเมือง” พบว่า อันดับหนึ่ง หรือร้อยละ 47.3 ให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นพ่อตัวอย่าง รองลงมา หรือร้อยละ 24.3 ให้นายชวน หลีกภัย และร้อยละ 8.8 ให้ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง
ขณะที่ในกลุ่มของ “ดารา” พบว่า อันดับหนึ่ง หรือร้อยละ 66.1 ให้ เคน-ธีรเดช วงศ์พัวพันธ์ เป็นพ่อตัวอย่าง รองลงมาหรือร้อยละ 6.0 ให้นายสมบัติ เมทะนี และร้อยละ 4.0 ให้ นก-ฉัตรชัย เปล่งพานิช
สำหรับสิ่งที่กลุ่มตัวอย่างต้องการให้รัฐบาลส่งเสริมบทบาทความเป็นพ่อ พบว่า ตัวอย่างส่วนใหญ่ หรือร้อยละ 42.4 ต้องการให้ส่งเสริมกิจกรรมที่ทำให้ครอบครัวได้มีเวลาอยู่ร่วมกัน เช่น กิจกรรมสานสัมพันธ์พ่อลูก จัดทัวร์ท่องเที่ยวสำหรับครอบครัว ร้อยละ 21.8 ต้องการให้ความสำคัญในการจัดกิจกรรมในวันพ่อให้มากขึ้น ร้อยละ 19.9 ต้องการให้จัดอบรมเพื่อให้พ่อมีความรับผิดชอบมากขึ้น ร้อยละ 13.4 ต้องการให้รณรงค์ให้พ่อลดละเลิกอบายมุข ร้อยละ 11.7 ต้องการให้รณรงค์ให้พ่อช่วยแม่เลี้ยงดูลูก ร้อยละ 10.7 ต้องการให้รณรงค์เรื่องความรุนแรงในครอบครัว/ป้องกันความรุนแรงในครอบครัว และร้อยละ 5.5 อื่นๆ อาทิ ต้องการให้มีวันหยุดในวันทำงานเพิ่มขึ้น เพื่อครอบครัวจะได้มีเวลาอยู่ร่วมกันมากขึ้น