โดย...ทิติยา เถาธรรมพิทักษ์
เป็นที่ทราบกันว่า วันที่ “14 เมษายน” ของทุกปี นอกจากจะตรงกับวันสงกรานต์แล้ว ยังเป็นวันแห่งครอบครัวอีกด้วย ซึ่งส่วนใหญ่ในวันนี้เป็นวันที่สมาชิกในครอบครัวจะได้มีโอกาสมาเจอ ทำกิจกรรมร่วมกัน
ถึงแม้แต่ละบ้านแต่ละครอบครัวอาจจะมีวิถีชีวิต กิจกรรมที่ทำร่วมกัน หรือการอบรมเลี้ยงดูบุตรหลานที่แตกต่างกัน แต่ที่ไม่ต่างกัน คือ ความรักความเอาใจใส่ที่สมาชิกทุกคนในครอบครัวมีต่อกัน เช่นเดียวกับศิลปินแห่งชาติหลายท่านที่บอกว่าครอบครัวคือสิ่งสำคัญที่สุดในการหล่อหลอมทุกคนให้เป็นคนดี และประสบความสำเร็จและต่างก็มีวิธีแสดงความรักกับคนในครอบครัวแบบฉบับของตนเอง
เริ่มจากพ่ออี๊ด-สุประวัติ ปัทมสูต ศิลปินแห่งชาติสาขาศิลปะการแสดง (ภาพยนตร์และละครโทรทัศน์-ผู้กำกับ-นักแสดง) ปี 2553 ที่ได้บอกเล่าความสำคัญของสถาบันครอบครัว ว่า ครอบครัวเป็นจุดเริ่มต้นของทุกอย่าง ถ้าครอบครัวแข็งแรง ก็จะช่วยให้ประเทศชาติเจริญตามไปด้วย ประเทศไทยมีจุดเด่นที่มีสถาบันครอบครัวที่อบอุ่น มีวัฒนธรรมประเพณีที่ดีงาม ในการที่จะช่วยกันปลูกฝังอบรมเลี้ยงดูลูกหลานให้เป็นคนดี แม้ที่ผ่านๆ มาลูกๆ คนหนุ่มสาวจะออกไปทำงานนอกบ้าน หรือต่างจังหวัดมากขึ้น แต่เมื่อมีโอกาสหรือวันหยุดยาวต่างก็กลับไปเยี่ยมบ้าน กราบพ่อแม่อยู่บ่อยครั้ง นับว่า คนไทยยังเห็นคุณค่าความสำคัญของครอบครัวไม่น้อย
“อย่างความสัมพันธ์ในครอบครัวของผม ผมคิดว่า ยังแข็งแรงอยู่มาก ทั้งการแสดงความรักเอาใจใส่ดูแลกัน เมื่อถึงวันปีใหม่ วันเกิด หรือวันหยุด ก็จะมาทานข้าว หรือไปเที่ยวด้วยกัน โดยจะกำหนดไว้คร่าวๆ ว่า ในหนึ่งปีจะไปเที่ยวต่างจังหวัดด้วยกัน 2-3 ครั้ง หรือไม่ว่าสมาชิกในครอบครัวจะมีปัญหาอะไร เราก็พร้อมที่จะรับฟังให้กำลังใจช่วยเหลือกัน ซึ่งเดี๋ยวนี้เราต่างก็คิดว่า เมื่อมีปัญหาก็หันไปพึ่งคนนอก โดยอาจจะลืมไปว่าครอบครัว คือ สิ่งที่จะช่วยรับฟังและแก้ปัญหาให้ยืนหยัดต่อไปได้ อย่างไรก็ตาม ก็อยากให้คิดว่าทุกคนในสังคมคือคนในครอบครัวเดียวกับเราและจะส่งผลให้เกิดแต่สิ่งดีๆ ต่อกัน”
ขณะที่ “ครอบครัวทาแปง” ของ ประนอม ทาแปง ศิลปินแห่งชาติสาขาทัศนศิลป์ (ประณีตศิลป์-ศิลปะผ้าทอ) ปี 2553 บอกว่า พ่อกับแม่จะสอนลูกๆ อยู่เสมอว่า พี่น้องให้รักกันมีอะไรก็ต้องช่วยเหลือกัน และให้มีน้ำใจแบ่งปันไปถึงญาติมิตรรวมถึงทุกคนที่เรารักด้วย ดังนั้น จึงได้นำคำสอนนี้ไปสอนลูก สอนหลานต่อ ส่วนการแสดงความรักต่อคนในครอบครัวเราก็ทำตามปกติและเป็นสิ่งที่ทำได้ไม่ยาก เช่น การกอด หอมแก้ม ประกอบอาหารและทานข้าวด้วยกันหรือหากิจกรรมมาทำด้วยกัน
“สิ่งที่เราปฏิบัติต่อพ่อแม่ไม่เคยขาด คือ การกราบเท้าท่านในตอนเช้าและก่อนเข้านอน เพื่อแสดงความรักที่เรามีต่อท่านขอบคุณท่านที่ได้อบรมเลี้ยงดูเราให้มีจนถึงวันนี้ และเวลาจะไปไหนมาไหนก็จะบอกกล่าวให้ท่านรับรู้ และท่านก็จะให้พรว่าไปดีมาดีโชคดีมีชัยนะ แค่นี้ก็อบอุ่นในหัวใจแล้ว”
ขณะที่อาหรั่ง-ไพรัช สังวริบุตร ศิลปินแห่งชาติสาขาศิลปะการแสดง (ภาพยนตร์และละคร) ปี 2547 บอกว่า ครอบครัวของผมเป็นครอบครัวไทย หัวใจไทยถูกสั่งสอนมาแบบไทยๆ วิธีการเลี้ยงดูลูกก็จะเลี้ยงแบบไทยเช่นเดียวกัน คือ เมื่อเริ่มหัดเดินก็จะพาเข้าวัด ให้รู้จักการไหว้ การกราบพระที่จะแสดงถึงความเป็นคนไทย รู้จักนอบน้อมต่อผู้ใหญ่ผู้มีพระคุณ หรือเมื่อลูกดื้อก็จะดุ ตีหรือบางครั้งก็ดีดบ้าง
“ไม่ว่างานจะหนัก หรือยุ่งก็จะพยายามหาเวลาให้กับครอบครัวมากที่สุดและจะสอนลูกด้วยตนเอง อย่างเราไม่มีวันครอบครัว แต่จะทำให้ทุกวันเป็นวันครอบครัวคือ จะแสดงความรักคิดถึงกันตลอดทานข้าวด้วยกันบ้าง เชื่อว่าเมื่อครอบครัวดีมีความสุขก็จะส่งผลให้ทุกอย่างสำเร็จตามไปด้วย”
ด้านอาจารย์แม่-เพ็ญพรรณ สิทธิไตรย์ ศิลปินแห่งชาติสาขาทัศนศิลป์ (แกะสลักเครื่องสด) ปี 2552 ก็บอกว่า ครอบครัวเป็นสถานบันแรกที่จะอบรมเลี้ยงดูบุตรหลานก่อนจะเข้าโรงเรียน ดังนั้น จะต้องดูแลลูกให้ดีที่สุด ตั้งแต่เล็กๆ เช่นเดียวกับครอบครัวของเราที่จะดูแลลูกๆ อย่างใกล้ชิดรู้ว่าลูกแต่ละคนเป็นอย่างไร และใช้ชีวิตแบบเรียบง่ายไม่เคยบังคับว่าลูกจะต้องทำอย่างนั้นอย่างนี้ เมื่อมีปัญหาอะไรก็พร้อมที่จะรับฟังเสมอ
“มีลูก 6 คน ก็เลี้ยงดูเองทั้งหมด สอนการบ้าน สอนให้เขาเป็นคนดี เมื่อสามีต้องไปรับราชการที่ต่างจังหวัดเราก็จะพาไปกันทั้งครอบครัว ถึงแม้จะทำงานหนักแค่ไหน แต่ไม่เคยบกพร่องในการทำหน้าที่แม่และภรรยา โดยจะให้มีหนึ่งวันในสัปดาห์เป็นวันของครอบครัว และจะเอาผัก เช่น แครอทมาแกะสลักและสอนลูกทำร่วมกัน ทำเป็นรูปหัวใจนำไปต้มจืด และพูดประกอบด้วยว่านี่หัวใจพ่อ หัวใจแม่ และหัวใจลูกหลังจากนั้นก็มานั่งทานกันหน้าบ้าน ซึ่งการทำเช่นนี้จะช่วยเพิ่มความรักความอบอุ่นในครอบครัวได้ ถึงแม้ลูกๆ จะโตและแยกย้ายไปมีครอบครัวแต่ก็ยังติดต่อพูดคุยกันตลอดหรือก็มาทานข้าวด้วยกันบ้าง เมื่อเจอก็กอดหอมแก้มกันและดีใจที่ลูกๆ ต่างก็เป็นลูกที่ดีเจริญรอยตามพ่อแม่”
เพราะครอบครัวคือสถาบันที่มีความสำคัญยิ่งต่อมนุษย์และเป็นเสาหลักที่จะทำให้ทุกคนประสบความสำเร็จในชีวิต...วันนี้คุณแสดงความรักกับคนในครอบครัวแล้วหรือยัง...