สธ.ลงพื้นที่อยุธยา ตรวจเยี่ยมส้วมปั๊มน้ำมันสายหลัก ตามโครงการ “ส้วมสะอาด...ชาติเจริญ” ตั้งเป้าพัฒนา 8 เส้นทางหลัก ผ่านเกณฑ์ HAS ร้อยละ 80 พร้อมรองรับการเดินทางและการท่องเที่ยวของทั้งไทยและต่างชาติ
วันนี้ (3 มีนาคม) นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมส้วมปั๊มน้ำมัน ปตท.สาขาบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อกระตุ้นการพัฒนาส้วมสาธารณะบนถนนสายหลัก 8 เส้นทางผ่านเกณฑ์ HAS ร้อยละ 80 โดยกระทรวงสาธารณสุขได้ให้ความสำคัญในเรื่องของการมีและใช้ส้วมในครัวเรือนของประชาชน โดยเริ่มดำเนินการตั้งแต่ปี 2503 มาอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ปัจจุบันมีส้วมครอบคลุม ร้อยละ 98.1 ของครัวเรือนทั่วประเทศ แต่ด้วยการดำเนินชีวิตที่เปลี่ยนไป ทำให้การใช้ส้วมสาธารณะเป็นสิ่งจำเป็นในชีวิตประจำวันมากขึ้น ซึ่งส้วมสาธารณะเป็นบริการพื้นฐานที่สำคัญ เพราะส้วมนอกจากใช้ป้องกันการแพร่ระบาดของโรคแล้ว ส้วมยังเป็นตัวบ่งชี้ความเจริญของคนหรือประเทศนั้นๆ ด้วย
ทั้งนี้ จากการทำอนามัยโพลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนต่อการพัฒนาส้วมสาธารณะ จำนวน 1,000 คน ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนธันวาคม 2552 พบว่า 5 อันดับแรกของสถานที่ที่ประชาชนใช้บริการส้วมสาธารณะ คือ ห้างสรรพสินค้า ร้อยละ 50.6 ปั๊มน้ำมัน ร้อยละ 47.5 แหล่งท่องเที่ยว ร้อยละ 25.3 โรงพยาบาล ร้อยละ 19.5 และสถานที่ราชการ ร้อยละ 17.3 ตามลำดับ โดยสถานที่ที่ประชาชนเห็นว่าควรปรับปรุงมากที่สุดคือ ส้วมของปั๊มน้ำมัน ร้อยละ 26 และสิ่งที่ควรปรับปรุงคือเรื่องกลิ่นเหม็น ร้อยละ 76.5 รองลงมาคือ เรื่องความไม่สะอาด ร้อยละ 66.7 เพราะเรื่องความสะอาดเป็นปัจจัยในการเลือกใช้บริการ ร้อยละ 86.3
นายจุรินทร์กล่าวว่า สำหรับ ในปี 2554 นี้ กระทรวงสาธารณสุขจึงได้ประกาศนโยบายส้วมสะอาด...ชาติเจริญ ซึ่งเน้นพัฒนา ส้วมปั๊มน้ำมัน จำนวน 1,578 แห่ง บนเส้นทางสายหลัก 8 เส้นทาง ได้แก่ ทางหลวงหมายเลข 1 เส้นทาง กรุงเทพฯ-เชียงราย ทางหลวงหมายเลข 2 เส้นทางสระบุรี-หนองคายและอุบลราชธานี ทางหลวงหมายเลข 23 เส้นทาง ขอนแก่น-อุบลราชธานี ทางหลวงหมายเลข 226 เส้นทางนครราชสีมา-อุบลราชธานี ทางหลวงหมายเลข 3 เส้นทาง กรุงเทพฯ-ตราด ทางหลวงหมายเลข 4 เส้นทางนครปฐม-นราธิวาส ทางหลวงเอเชีย เส้นทางพระนครศรีอยุธยา-เชียงใหม่ และทางหลวงเอเชียพระรามที่ 2 กรุงเทพฯ-ราชบุรี ให้ได้มาตรฐาน HAS สะอาด เพียงพอ ปลอดภัย ร้อยละ 80 ทั้งนี้ เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย กระทรวงสาธารณสุขได้ลงนามบันทึกความเข้าใจร่วมกันระหว่างหน่วยงานพันธมิตรเพื่อพัฒนาส้วมสาธารณะไทย
วันนี้ (3 มีนาคม) นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมส้วมปั๊มน้ำมัน ปตท.สาขาบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อกระตุ้นการพัฒนาส้วมสาธารณะบนถนนสายหลัก 8 เส้นทางผ่านเกณฑ์ HAS ร้อยละ 80 โดยกระทรวงสาธารณสุขได้ให้ความสำคัญในเรื่องของการมีและใช้ส้วมในครัวเรือนของประชาชน โดยเริ่มดำเนินการตั้งแต่ปี 2503 มาอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ปัจจุบันมีส้วมครอบคลุม ร้อยละ 98.1 ของครัวเรือนทั่วประเทศ แต่ด้วยการดำเนินชีวิตที่เปลี่ยนไป ทำให้การใช้ส้วมสาธารณะเป็นสิ่งจำเป็นในชีวิตประจำวันมากขึ้น ซึ่งส้วมสาธารณะเป็นบริการพื้นฐานที่สำคัญ เพราะส้วมนอกจากใช้ป้องกันการแพร่ระบาดของโรคแล้ว ส้วมยังเป็นตัวบ่งชี้ความเจริญของคนหรือประเทศนั้นๆ ด้วย
ทั้งนี้ จากการทำอนามัยโพลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนต่อการพัฒนาส้วมสาธารณะ จำนวน 1,000 คน ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนธันวาคม 2552 พบว่า 5 อันดับแรกของสถานที่ที่ประชาชนใช้บริการส้วมสาธารณะ คือ ห้างสรรพสินค้า ร้อยละ 50.6 ปั๊มน้ำมัน ร้อยละ 47.5 แหล่งท่องเที่ยว ร้อยละ 25.3 โรงพยาบาล ร้อยละ 19.5 และสถานที่ราชการ ร้อยละ 17.3 ตามลำดับ โดยสถานที่ที่ประชาชนเห็นว่าควรปรับปรุงมากที่สุดคือ ส้วมของปั๊มน้ำมัน ร้อยละ 26 และสิ่งที่ควรปรับปรุงคือเรื่องกลิ่นเหม็น ร้อยละ 76.5 รองลงมาคือ เรื่องความไม่สะอาด ร้อยละ 66.7 เพราะเรื่องความสะอาดเป็นปัจจัยในการเลือกใช้บริการ ร้อยละ 86.3
นายจุรินทร์กล่าวว่า สำหรับ ในปี 2554 นี้ กระทรวงสาธารณสุขจึงได้ประกาศนโยบายส้วมสะอาด...ชาติเจริญ ซึ่งเน้นพัฒนา ส้วมปั๊มน้ำมัน จำนวน 1,578 แห่ง บนเส้นทางสายหลัก 8 เส้นทาง ได้แก่ ทางหลวงหมายเลข 1 เส้นทาง กรุงเทพฯ-เชียงราย ทางหลวงหมายเลข 2 เส้นทางสระบุรี-หนองคายและอุบลราชธานี ทางหลวงหมายเลข 23 เส้นทาง ขอนแก่น-อุบลราชธานี ทางหลวงหมายเลข 226 เส้นทางนครราชสีมา-อุบลราชธานี ทางหลวงหมายเลข 3 เส้นทาง กรุงเทพฯ-ตราด ทางหลวงหมายเลข 4 เส้นทางนครปฐม-นราธิวาส ทางหลวงเอเชีย เส้นทางพระนครศรีอยุธยา-เชียงใหม่ และทางหลวงเอเชียพระรามที่ 2 กรุงเทพฯ-ราชบุรี ให้ได้มาตรฐาน HAS สะอาด เพียงพอ ปลอดภัย ร้อยละ 80 ทั้งนี้ เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย กระทรวงสาธารณสุขได้ลงนามบันทึกความเข้าใจร่วมกันระหว่างหน่วยงานพันธมิตรเพื่อพัฒนาส้วมสาธารณะไทย