หัวหน้าผู้ตรวจ วธ.เผย ร้านคาราโอเกะทั่วประเทศ ส่วนใหญ่กำลังอาศัยช่องว่างกฎหมายในการยื่นขอใบอนุญาต โดยตอนขอขึ้นต่างระบุว่า ไม่มีหญิงขายบริการ และขายสุรา แต่พบว่าเมื่อได้ใบอนุญาตแล้ว ก็ทำผิดกฎหมายทุกประการ พบขณะนี้มีร้านคาราโอเกะทำผิดไม่ต่ำกว่า 3,000 แห่งทั่วประเทศ
นายปรีชา กันธิยะ หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) เปิดเผยว่า ในการประชุมผู้บริหารระดับสูง วธ.เร็วๆ นี้ ตนได้เสนอความเห็นให้ วธ.เร่งแก้ปัญหาความซ้ำซ้อนและช่องว่างของ พ.ร.บ.ภาพยนตร์และวีดิทัศน์ พ.ศ.2551 กับ พ.ร.บ.สถานบริการ พ.ศ.2509 ซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลของกระทรวงมหาดไทย (มท.) เรื่องการออกใบอนุญาตร้านคาราโอเกะ เพราะจากการลงพื้นที่ตรวจราชการตามจังหวัดต่างๆ และการรายงานของผู้ตรวจราชการ วธ.แต่ละราย พบว่า ขณะนี้มีร้านคาราโอเกะกำลังหลีกเลี่ยงข้อกฎหมายจำนวนมากในการยื่นขอใบอนุญาตร้านคาราโอเกะ โดยอาศัยช่องว่างของ พ.ร.บ.ภาพยนตร์ฯ ที่กำหนดให้ผู้ประกอบการสามารถยื่นขอใบอนุญาต วธ.ได้ด้วย แต่รูปแบบการบริการของร้านคาราโอเกะ ต้องไม่มีหญิงบริการและขายสุรา แต่หากมีหญิงบริการและขายสุราต้องยื่นขอกับ มท.
“ปรากฏว่า จากการตรวจสอบพบว่าร้านคาราโอเกะที่ยื่นขอใบอนุญาตกับ วธ.ซึ่งปัจจุบันในเขตกรุงเทพฯ มีจำนวน 548 ร้าน และต่างจังหวัด 6, 674 ร้าน รวมทั่วประเทศ 7,222 ร้าน ส่วนใหญ่ทำกฎหมายและอาศัยช่องว่างกฎหมาย เนื่องจากการขอใบอนุญาตร้านคาราโอเกะตาม พ.ร.บ.สถานบริการ พ.ศ.2509 ของ มท.มีความเข้มงวดและควบคุมปริมาณของร้านคาราโอเกะ ดังนั้น ส่วนใหญ่มักจะมาขอใบอนุญาตกับ วธ.โดยตอนยื่นขอใบอนุญาต ระบุว่า ไม่มีหญิงบริการและขายสุรา แต่ปรากฏว่า เมื่อได้รับใบอนุญาตแล้วผิดกฎหมาย มีทั้งหญิงบริการ ขายสุรา บางร้านขายบริการทางเพศด้วย ทั้งนี้ พบว่า ร้านคาราโอเกะที่ทำผิดขณะนี้มีไม่ต่ำกว่า 3, 000 แห่งทั่วประเทศ” นายปรีชา กล่าว
หัวหน้าผู้ตรวจ วธ.กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ วธ.เมื่อออกใบอนุญาตร้านคาราโอเกะไปแล้ว ส่วนใหญ่ไม่ได้ออกตรวจสอบภายหลัง ว่า แต่ละร้านทำผิดกฎหมายหรือไม่ ส่งผลให้มีการทำผิดกฎหมายจำนวนมาก ที่สำคัญ ผู้ประกอบการบางรายข่มขู่เจ้าหน้าที่หากไม่ออกใบอนุญาตให้จะฟ้องในละเว้นปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่กลัวว่าจะถูกฟ้องเลยออกให้และไม่เข้มงวด ทั้งนี้ สาเหตุที่จำนวนร้านคาราโอเกะที่ยื่นขอกับ วธ.เพิ่มขึ้นทุกปี เพราะถ้ายื่นขอจาก มท. ต้องถูกตรวจสอบละเอียดและยุ่งยาก ดังนั้น มองว่า วธ.ต้องอุดช่องว่างของ พ.ร.บ.ภาพยนตร์ฯ โดยต้องเข้มงวดการออกใบอนุญาต ส่งเจ้าหน้าที่ออกตรวจ หากพบร้านใดทำผิดให้ยึดใบอนุญาตและส่งฟ้องศาล โดยมีโทษปรับ 2 แสนบาท นอกจากนี้ คิดว่า ต้องหารือว่าจะเป็นไปได้หรือไม่ในการแก้กฎหมายโดยตัดเรื่องขอใบอนุญาตร้านคาราโอเกะออกจาก พ.ร.บ.ภาพยนตร์ฯ และให้ยื่นขอจาก มท.อย่างเดียว