โดย...อัจฉรา พุ่มจันทร์ มจษ.
“รอบคอบ รู้คิด มีจิตสาธารณะ” คือ คำขวัญที่ “นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” นายกรัฐมนตรี มอบให้เยาวชนไทย เนื่องในโอกาสวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2554 หวังเพื่อเห็นพวกเขานำไปประพฤติปฏิบัติเพื่อให้เกิดผลดีต่อตนเอง สังคม และประเทศชาติ ในทางกลับกันเชื่อเหลือเกินว่าเหล่าเด็กๆ เองก็คงอยากสะท้อนปัญหา ข้อเสนอแนะในหลากหลายมิติ ที่ต้องการให้ “ผู้ใหญ่ใจดี” เข้ามาจัดการอย่างจริงจังเพื่อเป็นของขวัญในวันพิเศษนี้
** ขอพัฒนาการศึกษาเพื่อคุณภาพ
เริ่มที่ "แกน” - วรพงษ์ ศรีเชียงสา” ชั้น ม.5 ร.ร.ขามแก่นนคร จ.ขอนแก่น ในฐานะประธานสภานักเรียนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สะท้อนมุมมองปัญหาด้านการศึกษา ว่า อยากให้นายกรัฐมนตรี จัดการระบบการบริหารจัดการสื่อการเรียนการสอน โดยเฉพาะหนังสือเรียน เพราะแบบเรียนที่รัฐบาลจัดให้ตามโครงการเรียนฟรี 15 ปี นั้น บางวิชาแทบไม่ได้ใช้หนังสือเลย เนื่องจากเนื้อหาไม่ตรงตามที่ครูสอน มองว่าตรงนี้จะเป็นการเสียงบประมาณโดยเปล่าประโยชน์
“ผมอยากให้พัฒนาสื่อการเรียนการสอนด้านอิเล็กทรอนิกส์ เช่น คอมพิวเตอร์ โปรเจกเตอร์ เป็นต้น ต้องยอมรับว่า สิ่งเหล่านี้มีความจำเป็นต่อการเรียนการสอนมาก ซึ่งปัจจุบันบางโรงเรียนยังใช้กระดานชอล์กอยู่ ผมมองว่ายังมีความล้าหลัง อยากให้ทางผู้นำประเทศเล็งเห็นความสำคัญของเรื่องนี้ ทั้งนี้ อยากให้นายกฯ ผลักดันนโยบายที่มีอยู่ในมือ ขับเคลื่อนพาการศึกษาไทยสู่ระดับโลก และนำพานักเรียนสู่คุณภาพต่อไป” แกน เสนอ
** ขอ “นักการเมือง” ต้นแบบจริยธรรม
เช่นเดียวกับ “มิกซ์” - บรรพต กาญกมล ชั้น ม.5 ร.ร.ศรีวิชัยวิทยา จ.นครปฐม ประธานสภานักเรียนภาคกลาง ที่เสนอถึงสิ่งที่อยากให้ผู้นำประเทศเร่งแก้ไขอย่างเป็นรูปธรรม มีด้วยกัน 3 ประเด็น คือ 1.อยากให้การจัดตั้งศูนย์ หรือโรงเรียนเฉพาะสำหรับเด็กหรือเยาวชนที่ท้องก่อนวัยอันควร เมื่อคลอดแล้วให้สามารถกลับมาเรียนได้ เพื่อเปิดโอกาสให้กลุ่มคนเหล่านี้ เพราะหากคลอดแล้วให้กลับไปเรียนโรงเรียนเดิมเด็กจะอายแล้วไม่กล้าที่จะกลับมาเรียน จึงเป็นการตัดโอกาสทางอ้อม 2.การปราบปราบยาเสพติดอย่างจริงจัง และ 3.เรื่องคุณธรรมจริยธรรมของนักการเมือง ทั้งตัวนายกฯ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร(ส.ส.) หรือสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ควรเป็นต้นแบบแก่เด็กและเยาวชน ที่ต้องปฏิบัติตัวให้อยู่ในกรอบจริยธรรม
“ฝากให้ส่งเสริมเด็กและเยาวชนให้เข้ามามีบทบาทของการแสดงความคิดเห็นของการขับเคลื่อนประเทศไทยมากขึ้น พร้อมเปิดโอกาสให้เด็กในถิ่นทุรกันดารในพื้นที่ห่างไกล ได้มีโอกาสเรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัย รวมทั้งหางานให้กับเด็กพิการด้วย” มิกซ์ ฝากถึงรัฐบาล
** ขอพื้นที่เรียนต่อสำหรับเด็กกิจกรรม
ขณะที่ “ต้นฝ้าย” - ศศิกาญจน์ จิตตวะนา ชั้น ม.4 ร.ร.จักรคำคณาทร จ.ลำพูน ประธานสภานักเรียนภาคเหนือ สะท้อนว่า เนื่องจากตนเป็นเด็กกิจกรรม ต้องแบ่งเวลาเรียนส่วนหนึ่งไปทำกิจกรรม ส่งผลให้เกรดเฉลี่ยอยู่ในระดับปานกลาง ตรงนี้ส่งผลให้มีปัญหาเรื่องการศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัย ซึ่งมหาวิทยาลัยส่วนใหญ่จะรับเฉพาะนักเรียนที่มีเกรดเฉลี่ยสูง เด็กเรียนเก่ง เรียนดี จึงอยากให้นายกฯ จัดตั้งโครงการศึกษาต่อเข้ามหาวิทยาลัยสำหรับเด็กที่ทำกิจกรรม เพื่อเปิดโอกาสให้กับนักเรียนที่ทำคุณประโยชน์ให้แก่สถานศึกษา ทั้งยังเป็นการสร้างแรงบันดาลใจให้เด็กทำความดีด้วย
นอกจากนี้ ต้นฝ้าย ยังฝากทิ้งท้ายด้วยว่า อยากให้มีช่องทีวีเพื่อการศึกษา โดยเฉพาะการแนะแนวศึกษาต่อ หรือกิจกรรมทางการศึกษาที่สร้างสรรค์ แม้ว่าจะมีสถานีโทรทัศน์ทางการศึกษา หรือ ETV แล้ว แต่ก็ยังไม่ครอบคลุมทั่วประเทศ ครูและเด็กยังเข้าไม่ถึง หากเปิดให้เป็นฟรีทีวีได้จะดีมาก
นี่เป็นเพียงเสียงเล็กๆ จากปากอนาคตของชาติ ที่สะท้อนดังๆ ให้ผู้ใหญ่ทั้งหลายในประเทศนี้ได้ขบคิด หวังเพื่ออยากเห็นของขวัญที่อยากได้เหล่านี้ นำไปสู่การแก้ไขปัญหาอย่างเป็นรูปธรรมให้ได้...
“รอบคอบ รู้คิด มีจิตสาธารณะ” คือ คำขวัญที่ “นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” นายกรัฐมนตรี มอบให้เยาวชนไทย เนื่องในโอกาสวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2554 หวังเพื่อเห็นพวกเขานำไปประพฤติปฏิบัติเพื่อให้เกิดผลดีต่อตนเอง สังคม และประเทศชาติ ในทางกลับกันเชื่อเหลือเกินว่าเหล่าเด็กๆ เองก็คงอยากสะท้อนปัญหา ข้อเสนอแนะในหลากหลายมิติ ที่ต้องการให้ “ผู้ใหญ่ใจดี” เข้ามาจัดการอย่างจริงจังเพื่อเป็นของขวัญในวันพิเศษนี้
** ขอพัฒนาการศึกษาเพื่อคุณภาพ
เริ่มที่ "แกน” - วรพงษ์ ศรีเชียงสา” ชั้น ม.5 ร.ร.ขามแก่นนคร จ.ขอนแก่น ในฐานะประธานสภานักเรียนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สะท้อนมุมมองปัญหาด้านการศึกษา ว่า อยากให้นายกรัฐมนตรี จัดการระบบการบริหารจัดการสื่อการเรียนการสอน โดยเฉพาะหนังสือเรียน เพราะแบบเรียนที่รัฐบาลจัดให้ตามโครงการเรียนฟรี 15 ปี นั้น บางวิชาแทบไม่ได้ใช้หนังสือเลย เนื่องจากเนื้อหาไม่ตรงตามที่ครูสอน มองว่าตรงนี้จะเป็นการเสียงบประมาณโดยเปล่าประโยชน์
“ผมอยากให้พัฒนาสื่อการเรียนการสอนด้านอิเล็กทรอนิกส์ เช่น คอมพิวเตอร์ โปรเจกเตอร์ เป็นต้น ต้องยอมรับว่า สิ่งเหล่านี้มีความจำเป็นต่อการเรียนการสอนมาก ซึ่งปัจจุบันบางโรงเรียนยังใช้กระดานชอล์กอยู่ ผมมองว่ายังมีความล้าหลัง อยากให้ทางผู้นำประเทศเล็งเห็นความสำคัญของเรื่องนี้ ทั้งนี้ อยากให้นายกฯ ผลักดันนโยบายที่มีอยู่ในมือ ขับเคลื่อนพาการศึกษาไทยสู่ระดับโลก และนำพานักเรียนสู่คุณภาพต่อไป” แกน เสนอ
** ขอ “นักการเมือง” ต้นแบบจริยธรรม
เช่นเดียวกับ “มิกซ์” - บรรพต กาญกมล ชั้น ม.5 ร.ร.ศรีวิชัยวิทยา จ.นครปฐม ประธานสภานักเรียนภาคกลาง ที่เสนอถึงสิ่งที่อยากให้ผู้นำประเทศเร่งแก้ไขอย่างเป็นรูปธรรม มีด้วยกัน 3 ประเด็น คือ 1.อยากให้การจัดตั้งศูนย์ หรือโรงเรียนเฉพาะสำหรับเด็กหรือเยาวชนที่ท้องก่อนวัยอันควร เมื่อคลอดแล้วให้สามารถกลับมาเรียนได้ เพื่อเปิดโอกาสให้กลุ่มคนเหล่านี้ เพราะหากคลอดแล้วให้กลับไปเรียนโรงเรียนเดิมเด็กจะอายแล้วไม่กล้าที่จะกลับมาเรียน จึงเป็นการตัดโอกาสทางอ้อม 2.การปราบปราบยาเสพติดอย่างจริงจัง และ 3.เรื่องคุณธรรมจริยธรรมของนักการเมือง ทั้งตัวนายกฯ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร(ส.ส.) หรือสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ควรเป็นต้นแบบแก่เด็กและเยาวชน ที่ต้องปฏิบัติตัวให้อยู่ในกรอบจริยธรรม
“ฝากให้ส่งเสริมเด็กและเยาวชนให้เข้ามามีบทบาทของการแสดงความคิดเห็นของการขับเคลื่อนประเทศไทยมากขึ้น พร้อมเปิดโอกาสให้เด็กในถิ่นทุรกันดารในพื้นที่ห่างไกล ได้มีโอกาสเรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัย รวมทั้งหางานให้กับเด็กพิการด้วย” มิกซ์ ฝากถึงรัฐบาล
** ขอพื้นที่เรียนต่อสำหรับเด็กกิจกรรม
ขณะที่ “ต้นฝ้าย” - ศศิกาญจน์ จิตตวะนา ชั้น ม.4 ร.ร.จักรคำคณาทร จ.ลำพูน ประธานสภานักเรียนภาคเหนือ สะท้อนว่า เนื่องจากตนเป็นเด็กกิจกรรม ต้องแบ่งเวลาเรียนส่วนหนึ่งไปทำกิจกรรม ส่งผลให้เกรดเฉลี่ยอยู่ในระดับปานกลาง ตรงนี้ส่งผลให้มีปัญหาเรื่องการศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัย ซึ่งมหาวิทยาลัยส่วนใหญ่จะรับเฉพาะนักเรียนที่มีเกรดเฉลี่ยสูง เด็กเรียนเก่ง เรียนดี จึงอยากให้นายกฯ จัดตั้งโครงการศึกษาต่อเข้ามหาวิทยาลัยสำหรับเด็กที่ทำกิจกรรม เพื่อเปิดโอกาสให้กับนักเรียนที่ทำคุณประโยชน์ให้แก่สถานศึกษา ทั้งยังเป็นการสร้างแรงบันดาลใจให้เด็กทำความดีด้วย
นอกจากนี้ ต้นฝ้าย ยังฝากทิ้งท้ายด้วยว่า อยากให้มีช่องทีวีเพื่อการศึกษา โดยเฉพาะการแนะแนวศึกษาต่อ หรือกิจกรรมทางการศึกษาที่สร้างสรรค์ แม้ว่าจะมีสถานีโทรทัศน์ทางการศึกษา หรือ ETV แล้ว แต่ก็ยังไม่ครอบคลุมทั่วประเทศ ครูและเด็กยังเข้าไม่ถึง หากเปิดให้เป็นฟรีทีวีได้จะดีมาก
นี่เป็นเพียงเสียงเล็กๆ จากปากอนาคตของชาติ ที่สะท้อนดังๆ ให้ผู้ใหญ่ทั้งหลายในประเทศนี้ได้ขบคิด หวังเพื่ออยากเห็นของขวัญที่อยากได้เหล่านี้ นำไปสู่การแก้ไขปัญหาอย่างเป็นรูปธรรมให้ได้...