รมว.พม.ยกย่องบทบาท อพม.ผู้มีจิตอาสาช่วยให้ผลงานกระทรวงเป็นที่ยอมรับอันดับ 2 ของประเทศจากผลงานเด่น เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุและผู้พิการ เตรียมขอค่าตอบแทนให้ผู้ทำงานที่มีทั่วประเทศ 78,000 คน
นายอิสสระ สมชัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงมนุษย์ (พม.) กล่าวในงานการประชุมเชิงปฏิบัติเสริมสร้างศักยภาพอาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (อพม.) ว่า อายุการทำงานในรอบปีของตนได้รับคำชมจากนายกรัฐมนตรี และมีผลสำรวจการทำงานของ พม.เป็นอันดับ 2 ของประเทศ เนื่องจากมี อพม.เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ผลงานเป็นที่ยอมรับ โดยยอมรับว่าก่อนรับตำแหน่งผู้บริหารไม่มั่นใจว่าตนจะทำงานได้เพียงใด แต่หลังจาก 1 ปี ผลงาน พม.มีกำไรต่อสังคม นั่นหมายถึงมากเกินความคาดหวัง ผลงานที่ทำให้ พม.ได้รับคำชมเป็นอันดับ 2 เช่น งานด้านหลักประกันสังคม เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ผู้พิการ เป็นต้น ซึ่งนายกรัฐมนตรีย้ำให้เน้นงานคุณภาพอื่น ๆ เช่น งานบ้านมั่นคง การจัดตั้งสภาเด็กและเยาวชนให้เต็มที่ ขจัดความรุนแรงต่อเด็ก สตรี งานยาเสพติด การแก้ปัญหาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน เป็นต้น
นอกจากนี้ ภายในงานตัวแทน อพม.ได้อ่านแถลงการณ์ต่อนายกรัฐมนตรี โดยสนับสนุนการปฏิบัติงานและเป็นกำลังให้นายกรัฐมนตรี รัฐบาล ที่มีนโยบายช่วยเหลือประชาชนกลุ่มต่างๆ คือ 1.ให้จัดสวัสดิการแก่ประชาชนกลุ่มเป้าหมาย ผู้สูงอายุ ผู้พิการอย่างต่อเนื่อง 2.ให้แก้ปัญหาสังคมเพื่อผู้ด้อยโอกาส ดูแลผู้ยากจนในทุกท้องถิ่น 3.นำความสงบสามัคคีสู่สังคมโดยเร็ว เชื่อมั่นด้วยความจริงใจที่นายกรัฐมนตรีมีต่อประชาชนไทย
ด้าน น.ส.สมรักษ์ รักธัญการ อพม.เทศบาลด่านสำโรง ชุมชนจัดสรรใหม่ จ.สมุทรปราการ กล่าวว่า ทาง อพม.แตกต่างจาก อสม.เพราะไม่มีค่าตอบแทน ผู้ทำงานจะทำด้วยจิตอาสาจริง ๆ เช่น คอยสอดส่องดูแลสมาชิกในชุมชน หากมีใครได้รับเดือดร้อนทั้งผู้พิการ ผู้สูงอายุ ทำหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกให้ ดีใจที่รัฐมนตรีได้กล่าวว่าจะพยายามหาวิธีให้การทำงาน อพม.เป็นระบบ และจะมีค่าตอบแทนเช่นเดียวกับ อสม. แต่ทุกวันนี้ทำงานแม้ไม่ได้ค่าตอบแทน แต่เชื่อว่าเกิดผลดีต่อตน ทำให้ครอบครัวมีความสุข
ทั้งนี้ ทาง พม.เปิดโอกาสให้ประชาชนในชุมชนมีส่วนร่วมในการเป็น อพม.ตั้งแต่ปี 2546 ปัจจุบันมีประมาณ 78,000 คน ซึ่งในวันที่ 28-31 มีนาคม มีตัวแทน อพม.ทั่วประเทศ 1,500 คนร่วมประชุมเพื่อเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจพัฒนาศักยภาพ ให้สามารถนำไปใช้ปฏิบัติงานและถ่ายทอดสู่กลุ่มเป้าหมายในชุมชนเพื่อพัฒนาประเทศให้มีความเจริญมั่นคง
นายอิสสระ สมชัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงมนุษย์ (พม.) กล่าวในงานการประชุมเชิงปฏิบัติเสริมสร้างศักยภาพอาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (อพม.) ว่า อายุการทำงานในรอบปีของตนได้รับคำชมจากนายกรัฐมนตรี และมีผลสำรวจการทำงานของ พม.เป็นอันดับ 2 ของประเทศ เนื่องจากมี อพม.เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ผลงานเป็นที่ยอมรับ โดยยอมรับว่าก่อนรับตำแหน่งผู้บริหารไม่มั่นใจว่าตนจะทำงานได้เพียงใด แต่หลังจาก 1 ปี ผลงาน พม.มีกำไรต่อสังคม นั่นหมายถึงมากเกินความคาดหวัง ผลงานที่ทำให้ พม.ได้รับคำชมเป็นอันดับ 2 เช่น งานด้านหลักประกันสังคม เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ผู้พิการ เป็นต้น ซึ่งนายกรัฐมนตรีย้ำให้เน้นงานคุณภาพอื่น ๆ เช่น งานบ้านมั่นคง การจัดตั้งสภาเด็กและเยาวชนให้เต็มที่ ขจัดความรุนแรงต่อเด็ก สตรี งานยาเสพติด การแก้ปัญหาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน เป็นต้น
นอกจากนี้ ภายในงานตัวแทน อพม.ได้อ่านแถลงการณ์ต่อนายกรัฐมนตรี โดยสนับสนุนการปฏิบัติงานและเป็นกำลังให้นายกรัฐมนตรี รัฐบาล ที่มีนโยบายช่วยเหลือประชาชนกลุ่มต่างๆ คือ 1.ให้จัดสวัสดิการแก่ประชาชนกลุ่มเป้าหมาย ผู้สูงอายุ ผู้พิการอย่างต่อเนื่อง 2.ให้แก้ปัญหาสังคมเพื่อผู้ด้อยโอกาส ดูแลผู้ยากจนในทุกท้องถิ่น 3.นำความสงบสามัคคีสู่สังคมโดยเร็ว เชื่อมั่นด้วยความจริงใจที่นายกรัฐมนตรีมีต่อประชาชนไทย
ด้าน น.ส.สมรักษ์ รักธัญการ อพม.เทศบาลด่านสำโรง ชุมชนจัดสรรใหม่ จ.สมุทรปราการ กล่าวว่า ทาง อพม.แตกต่างจาก อสม.เพราะไม่มีค่าตอบแทน ผู้ทำงานจะทำด้วยจิตอาสาจริง ๆ เช่น คอยสอดส่องดูแลสมาชิกในชุมชน หากมีใครได้รับเดือดร้อนทั้งผู้พิการ ผู้สูงอายุ ทำหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกให้ ดีใจที่รัฐมนตรีได้กล่าวว่าจะพยายามหาวิธีให้การทำงาน อพม.เป็นระบบ และจะมีค่าตอบแทนเช่นเดียวกับ อสม. แต่ทุกวันนี้ทำงานแม้ไม่ได้ค่าตอบแทน แต่เชื่อว่าเกิดผลดีต่อตน ทำให้ครอบครัวมีความสุข
ทั้งนี้ ทาง พม.เปิดโอกาสให้ประชาชนในชุมชนมีส่วนร่วมในการเป็น อพม.ตั้งแต่ปี 2546 ปัจจุบันมีประมาณ 78,000 คน ซึ่งในวันที่ 28-31 มีนาคม มีตัวแทน อพม.ทั่วประเทศ 1,500 คนร่วมประชุมเพื่อเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจพัฒนาศักยภาพ ให้สามารถนำไปใช้ปฏิบัติงานและถ่ายทอดสู่กลุ่มเป้าหมายในชุมชนเพื่อพัฒนาประเทศให้มีความเจริญมั่นคง
