“พรหมสวัสดิ์” ชี้ข้อกฎหมายเปิดกว้างตั้งสถาบันการอาชีวะ ได้หลายแบบ พร้อมเร่งหาข้อสรุปโดยเร็ว ระบุความเห็นจากประชาพิจารณ์ส่วนใหญ่ไม่อยากเปลี่ยนเครื่องแบบใหม่ ชี้เหลือแค่ 2 เดือนหวั่นไม่ทันใช้เปิดเทอมนี้
จากการประชุมสัมมนารับนโยบายสำหรับการปฏิรูปการอาชีวศึกษา ที่โรงแรมฮอลิเดย์ อินน์ รีสอร์ท รีเจนท์ บีช ชะอำ จ.เพชรบุรี วานนี้ (25 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ส.นริศรา ชวาลตันพิพัทธ์ รมช.ศึกษาธิการ พร้อมด้วยทีมที่ปรึกษา ประกอบด้วย ดร.สรจักร เกษมสุวรรณ นายวีระศักดิ์ วงษ์สมบัติ และนายอกนิษฐ์ คลังแสง ผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ได้ร่วมกันชี้แจงถึงการจัดตั้งสถาบันอาชีวศึกษาตาม พ.ร.บ.อาชีวศึกษา พ.ศ.2551 ซึ่งภายหลังการชี้แจงก็ได้เปิดให้ผู้อำนวยการสถานศึกษาได้แสดงความคิดเห็นอย่างหลากหลาย โดยความเห็นส่วนใหญ่เห็นว่าให้มีการจัดตั้งสถาบันขึ้นมาโดยเร็ว แต่จะเป็นสถาบันการอาชีวศึกษาแบบรวมกลุ่มตามแนวคิดเดิม หรือจะเป็นสถาบันอาชีวศึกษาเฉพาะทางจะต้องมีการเจรจาให้ได้ข้อสรุปร่วมกันทั้ง 2 ฝ่าย
ด้านนายพรหมสวัสดิ์ ทิพคงคา เลขาธิการการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (กอศ.) กล่าวถึงการจัดตั้งสถาบันการชีวศึกษา ว่า ตามข้อกฎหมายเปิดโอกาสให้สามารถตั้งสถาบันการอาชีวศึกษาได้หลายแบบ ไม่ถือว่าผิด เพียงแต่ต้องมาช่วยกันดูว่าหากเป็นการรวมกลุ่มสถานศึกษาจะมีประโยชน์หรือข้อเสียอย่างไร และการเป็นสถาบันเฉพาะทางจะมีประโยชน์และข้อเสียอย่างไร ซึ่งจะต้องเร่งหาคำตอบให้ได้ว่าจะไปในทิศทางใดที่จะเร็วกว่ากัน เนื่องจากเกรงว่าสถาบันการอาชีวศึกษาจะเกิดขึ้นไม่ทันภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2553
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ที่ประชุมได้มีการแสดงความเห็นเกี่ยวกับการเปลี่ยนชุดนักเรียนนักศึกษาในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) ซึ่งส่วนใหญ่ต้องการให้คงใช้เครื่องแบบนักเรียนเหมือนเดิม โดยให้เหตุผลว่าหลังจากมีการประชาพิจารณ์แล้วส่วนใหญ่ไม่ต้องการเครื่องแบบใหม่ อีกทั้งขณะนี้เหลือเพียง 2 เดือนก็จะเปิดเทอมแล้ว ซึ่งคงดำเนินการไม่ทัน อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ น.ส.นริศรา ชวาลตันพิพัทธ์ รมช.ศึกษาธิการ รับที่จะนำไปหารือกับผู้เกี่ยวข้องอีกครั้งหนึ่ง เพราะเรื่องนี้ น.ส.นริศรา ไม่มีอำนาจสั่ง
จากการประชุมสัมมนารับนโยบายสำหรับการปฏิรูปการอาชีวศึกษา ที่โรงแรมฮอลิเดย์ อินน์ รีสอร์ท รีเจนท์ บีช ชะอำ จ.เพชรบุรี วานนี้ (25 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ส.นริศรา ชวาลตันพิพัทธ์ รมช.ศึกษาธิการ พร้อมด้วยทีมที่ปรึกษา ประกอบด้วย ดร.สรจักร เกษมสุวรรณ นายวีระศักดิ์ วงษ์สมบัติ และนายอกนิษฐ์ คลังแสง ผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ได้ร่วมกันชี้แจงถึงการจัดตั้งสถาบันอาชีวศึกษาตาม พ.ร.บ.อาชีวศึกษา พ.ศ.2551 ซึ่งภายหลังการชี้แจงก็ได้เปิดให้ผู้อำนวยการสถานศึกษาได้แสดงความคิดเห็นอย่างหลากหลาย โดยความเห็นส่วนใหญ่เห็นว่าให้มีการจัดตั้งสถาบันขึ้นมาโดยเร็ว แต่จะเป็นสถาบันการอาชีวศึกษาแบบรวมกลุ่มตามแนวคิดเดิม หรือจะเป็นสถาบันอาชีวศึกษาเฉพาะทางจะต้องมีการเจรจาให้ได้ข้อสรุปร่วมกันทั้ง 2 ฝ่าย
ด้านนายพรหมสวัสดิ์ ทิพคงคา เลขาธิการการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (กอศ.) กล่าวถึงการจัดตั้งสถาบันการชีวศึกษา ว่า ตามข้อกฎหมายเปิดโอกาสให้สามารถตั้งสถาบันการอาชีวศึกษาได้หลายแบบ ไม่ถือว่าผิด เพียงแต่ต้องมาช่วยกันดูว่าหากเป็นการรวมกลุ่มสถานศึกษาจะมีประโยชน์หรือข้อเสียอย่างไร และการเป็นสถาบันเฉพาะทางจะมีประโยชน์และข้อเสียอย่างไร ซึ่งจะต้องเร่งหาคำตอบให้ได้ว่าจะไปในทิศทางใดที่จะเร็วกว่ากัน เนื่องจากเกรงว่าสถาบันการอาชีวศึกษาจะเกิดขึ้นไม่ทันภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2553
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ที่ประชุมได้มีการแสดงความเห็นเกี่ยวกับการเปลี่ยนชุดนักเรียนนักศึกษาในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) ซึ่งส่วนใหญ่ต้องการให้คงใช้เครื่องแบบนักเรียนเหมือนเดิม โดยให้เหตุผลว่าหลังจากมีการประชาพิจารณ์แล้วส่วนใหญ่ไม่ต้องการเครื่องแบบใหม่ อีกทั้งขณะนี้เหลือเพียง 2 เดือนก็จะเปิดเทอมแล้ว ซึ่งคงดำเนินการไม่ทัน อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ น.ส.นริศรา ชวาลตันพิพัทธ์ รมช.ศึกษาธิการ รับที่จะนำไปหารือกับผู้เกี่ยวข้องอีกครั้งหนึ่ง เพราะเรื่องนี้ น.ส.นริศรา ไม่มีอำนาจสั่ง
