“ชินวรณ์” เดินสายตรวจเยี่ยมรับสมัครนักเรียน ม.1 , ม.4 วันแรกหลังเลื่อนหนี “ม็อบแดง” เผยแจ้งแกนนำเข้าใจปฏิทินการรับสมัคร พร้อมประสาน ผบช.น. อำนวยความสะดวก ร.ร.ใกล้พื้นที่ชุมนุม “ผอ.สตรีวิทยา” เผยเด็กสมัครผ่านเว็บอื้อ คาด 3 ยอดกว่า 2,000 คน เตรียมสถานที่สอบสำรองแล้ว หากชุมนุมใหญ่ 27 มี.ค.ยืดเยื้อ กระทบวันสอบ 28 มี.ค. ขณะที่ผู้ปกครอง ขอม็อบเว้นวรรค 1 วัน ขอให้เด็กได้สอบ
วันนี้ (24 มี.ค.) เมื่อเวลาประมาณ 10.30 น. ที่โรงเรียนสตรีวิทยา นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาการ (ศธ.) กล่าวภายหลังการตรวจเยี่ยมการรับสมัครนักเรียนชั้นม. 1 และ ม.4 ว่า ร.ร.สตรีวิทยา เป็นโรงเรียนหนึ่งที่อยู่ในพื้นที่การชุมนุม ตนจึงเดินทางมาให้กำลังใจผู้ปกครอง นักเรียน และครู ที่ทำหน้าที่ในการเปิดรับสมัครนักเรียน ตามที่ ศธ.ได้ประกาศเลื่อนวันรับสมัครออกมาจากเดิม 10 วัน เนื่องจากเหตุการณ์การชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง นอกจากนี้ ตนได้ประสานและแจ้งปฏิทินกำหนดการรับสมัคร การสอบดังกล่าวไปยังแกนนำผู้ชุมนุมรับทราบแล้ว ซึ่งก็หวังว่าทุกฝ่ายจะให้ความร่วมมือ เพราะเป็นผลประโยชน์ของนักเรียนทุกคน
นายชินวรณ์กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ตนได้ประสานกับทาง พล.ต.ท.สัณฐาน ชยนนท์ ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) เพื่อขอให้อำนวยความสะดวกในการเดินทางให้แก่นักเรียนในพื้นที่เป้าหมายในโรงเรียนทั้ง 12 แห่ง ทั้งนี้ จากข้อมูลเบื้องต้น แต่ละโรงเรียนก็ได้มีศูนย์การรับสมัครสำรองที่จะสามารถให้นักเรียนไปสมัครได้เช่นกัน เพื่อหลีกเลี่ยงการเดินทางเข้าสู่พื้นที่การชุมนุม ในส่วนที่จะมีการชุมนุมใหญ่ในวันที่ 27 มี.ค. โดยหลายฝ่ายเกรงว่าอาจส่งผลต่อวันสอบที่จะมีขึ้นในวันที่ 28 มี.ค. นั้น ทางผู้อำนวยการโรงเรียนที่อยู่ในเขตพื้นที่การชุมนุมได้เตรียมการติดตามประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิดแล้ว
นางพัชรา ทิพยทัศน์ ผู้อำนวยการ ร.ร.สตรีวิทยา กล่าวว่า จากการเปิดรับสมัครวันแรกมีนักเรียนมาสมัครแล้วกว่า 1,000 คน แบ่งเป็นสมัครทางอินเตอร์เน็ต 700 คน มาสมัครที่โรงเรียนทั้งในส่วนของนักเรียนในเขตและนอกเขต ประมาณ 400 คน โดยคาดว่าจะมีผู้สมัครทั้งสิ้น 2,000 คน ในขณะที่รับได้ 328 คน ส่วนการเตรียมความพร้อมในวันที่ 28 มี.ค.ซึ่งเป็นวันสอบนั้น ทางโรงเรียนได้ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจประสานกับผู้ชุมนุมให้ลดการใช้เสียงเพื่อไม่ให้รบกวนเด็ก และหากการชุมนุมใหญ่ในวันที่ 27 มี.ค.ยืดเยื้อส่งผลให้เด็กมาสอบไม่ได้ ทางโรงเรียนได้เตรียมสถานที่สอบสำรองไว้ 2 แห่งได้แก่ ร.ร.วัดสังเวช เป็นสถานที่สอบสำรองสำหรับเด็กในเขตพื้นที่บริการ และ ร.ร.มหรรณภาราม สำหรับเด็กนอกเขตพื้นที่ แต่อย่างไรก็ตามก็ยังใช้สถานที่สอบเดิมอยู่ แต่หากมีการเปลี่ยนสถานที่สอบ ทางโรงเรียนจะแจ้งให้ผู้ปกครองทราบทันทีอีกครั้ง ทั้งนี้ขอให้ผู้ปกครองไม่ต้องห่วงทางโรงเรียนพร้อมที่จะยืดหยุ่นให้ หากใครมาสายไม่ทันสอบเพราะมีปัญหาการเดินทาง ได้มีการเตรียมข้อสอบคู่ขนานสำรองไว้ให้สอบต่างหาก
นายสมเกียรติ ชอบผล รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) กล่าวว่า สำหรับการเตรียมแผนรองรับผลกระทบที่มีต่อการในวันที่ 28 มี.ค.นั้นในเบื้องต้นโรงเรียนต้องมีการเตรียมแผนสำรองไว้ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นโรงเรียนที่อยู่ในเขตพื้นที่การชุมนุม อาทิ ร.ร.ราชวินิต มัธยม, ร.ร.เบญจมราชาลัย, ร.ร.สตรีวิทยา อย่างไรก็ตาม ได้มอบให้รองผู้อำนวยการเขตพื้นที่การศึกษา ประชุมหารือและวางแผนรองรับต่อสถานการณ์ไว้ด้วย
จากนั้นในเวลาประมาณ 11.30 น. นายชินวรณ์ได้กล่าวภายหลังตรวจเยี่ยมสถานที่รับสมัคร ร.ร.ชิโนรสวิทยาลัย ซึ่งเป็นจุดรับสมัครเพิ่มเติมของ ร.ร.สวนกุหลาบวิทยาลัย, ร.ร. มัธยมวัดมกฎกษัตริย์, ร.ร.สันติราษฎร์วิทยาลัย และ ร.ร.ศรีอยุธยา ว่า นักเรียนที่มาสมัครสอบในพื้นที่สมัครสำรองนี้มีอยู่ประมาณ 20-30 คน ซึ่งสาเหตุส่วนใหญ่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการเดินทาง แต่เนื่องจากเข้าใจผิดคิดว่าโรงเรียนเดิมไม่เปิดรับสมัคร ฉะนั้นอยากย้ำให้ผู้ปกครองตรวจสอบข้อมูลข่าวสารจากโรงเรียนที่สมัครด้วย หากเห็นแล้วว่าสามารถเดินทางไปสมัครที่โรงเรียนเดิมได้ มีความสะดวกก็ให้เดินทางไปสมัครได้ทุกแห่ง
“ผู้ปกครองและนักเรียนที่สมัครผ่านอินเตอร์เน็ตได้ก็ถือเป็นเรื่องที่ดี ซึ่งถือเป็นการลดค่าใช้จ่ายและต่อไปก็จะเป็นการสร้างระบบในการรับนักเรียนที่ดีขึ้นด้วย ซึ่งตนเองคิดว่าเป็นการสร้างวิกฤตให้เป็นโอกาส” รมว.ศธ.กล่าว
ด้าน นางสุภาณี สุริยจันทราทอง อายุ 47 ปี ผู้ปกครองซึ่งนำลูกมาสมัครสอบเข้าชั้น ม.1 กล่าวว่า ในวันสอบที่ 28 มี.ค.นี้ คงต้องเตรียมการวางแผนการเดินทางล่วงหน้าเป็นอย่างดี และอยากฝากถึงผู้ชุมนุมให้ช่วยเว้นวรรคการชุมนุมสัก 1 วัน ในวันที่เด็กทำการสอบ เพื่อให้เห็นแก่เยาวชนซึ่งเป็นอนาคตของชาติ ให้มองว่าเด็กๆ ก็เหมือนลูกหลานของกลุ่มผู้ชุมนุมเอง อย่างไรก็ตาม ในช่วงเวลาที่ผ่านมาก็เลื่อนกำหนดการมามากแล้ว จึงไม่อยากให้เสียเวลาอีก ทั้งนี้เมื่อสอบได้แล้วก็ไม่ใช่ว่าจะจบเพราะเด็กต้องการเวลาในการปรับพื้นฐานความรู้ด้วย
