“จุรินทร์” อนุมัติงบประมาณพัฒนาศูนย์เด็กเล็กในชุมชน เล็งทำทั่วประเทศ ราว 20,000 แห่ง วางแผนระยะสั้น 3 ปี
วันนี้ (24 มี.ค.) ที่กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขให้สัมภาษณ์ว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวานนี้ (23 มี.ค.) ให้ความเห็นชอบ อนุมัติโครงการพัฒนาศูนย์เด็กเล็กในชุมชนทั่วประเทศด้านสุขภาพอนามัยและพัฒนาการของเด็ก โดยอนุมัติงบกลางจำนวน 265 ล้านบาท ในปี 2553 ใช้งบ 94 ล้านบาท และในปี 2554และ 2555ให้ตั้งงบประมาณปกติ
นายจุรินทร์กล่าวว่า โครงการดังกล่าวเกิดจากกระทรวงสาธารณสุขได้พบปัญหาเด็กประถมวัยเจริญเติบโตไม่สมวัยทั้งทางร่างกายและสมอง จึงต้องพัฒนาศูนย์เด็กเล็กในชุมชน ตามโครงการนี้ มีแผนดำเนินการ 3 แผนใหญ่ แผนแรกการมอบหนังสือเล่มแรกหรือบุ๊ค สตาร์ท (Book start) จำนวน 3 เล่มให้พ่อแม่ นำไปเป็นสื่อพัฒนาเด็กตั้งแต่แรกเกิดทั่วประเทศ เล่มแรกชื่อว่า “ตั้งไข่ล้ม” จะมอบให้กับแม่ทุกคนที่คลอดบุตรตั้งแต่วันที่ 10 ธันวาคม 2552 - 10 ธันวาคม 2553 และเมื่อเด็กอายุ 6 เดือน จะมอบเล่มที่ 2 ชื่อหนังสือ “ติ๊กต่อก” ซึ่งจะมอบในวันที่มาฉีดวัคซีน และเล่มที่ 3 มอบหนังสือ “นิทานอีสป” ให้เมื่ออายุครบ 1 ขวบในวันที่มาฉีดวัคซีนเช่นกัน
แผนที่ 2 คือ การอบรม อสม. โดยในปี 2553 กรมอนามัยได้จัดทำหลักสูตรอบรม อสม.และเจ้าหน้าที่ให้มีความรู้ในการเล่านิทาน สามารถแนะนำวิธีการเล่านิทาน การอ่านหนังสือให้เด็กเล็กฟัง แก่พ่อแม่ ผู้เลี้ยงดูเด็ก เพื่อที่จะได้นำหนังสือทั้ง 3 เล่ม ไปอ่านให้ลูกฟังอย่างถูกต้อง ซึ่งผลจากการวิจัย พบว่าเด็กที่ฟังการอ่านหนังสือตั้งแต่แรกคลอด จะมีพัฒนาการทางร่างกายและสมองดีกว่าเด็กที่ปล่อยไปตามยถากรรมหรือปล่อยไปตามปกติหลายเท่าตัว และแผนที่3. จะอบรมพัฒนาศักยภาพครูพี่เลี้ยงที่ปฏิบัติงานศูนย์เด็กเล็ก 375 แห่งให้มีความรู้ ทักษะในการเล่านิทาน ขณะนี้กรมอนามัยดำเนินการเสร็จแล้ว โดยได้รับการสนับสนุนจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
นายจุรินทร์กล่าวต่อไปว่า ได้ให้กรมอนามัยเดินหน้าแผนพัฒนาคุณภาพศูนย์เด็กเล็กทั่วประเทศประมาณ 20,000 แห่ง แต่มีศูนย์เด็กที่ยังไม่ผ่านเกณฑ์อยู่จำนวนหนึ่ง จึงต้องเร่งรัดดำเนินการให้ผ่านเกณฑ์ในระดับดีและดีมาก โดยกำหนดเป้าหมายไว้ 3 ปี คือปี 2553-2555 ต้องผ่านตามเกณฑ์ชี้วัดชัดเจน เช่น ด้านกายภาพ เครื่องมือของศูนย์ ผลสัมฤทธิ์ที่เกิดกับเด็ก เช่น น้ำหนักตัว ส่วนสูง และพัฒนาการที่จะต้องสอดคล้องกับอายุ รวมทั้งยังได้เตรียมแผนงานโครงการในอนาคต คือ จะให้หญิงตั้งครรภ์กินไอโอดีน เพื่อช่วยเสริมให้เด็กมีพัฒนาการทางด้านสมองและร่างกายตามวัย
สำหรับบทบาทของ อสม.ที่จะเข้ามาร่วมทำงานกับชุมชน เพื่อร่วมการพัฒนาศูนย์เด็กเล็กนั้น ประกอบด้วย โครงการเยี่ยมบ้านที่มีเด็กแรกเกิดจนกระทั่งถึง 5 ขวบ รวมทั้งการจัดกิจกรรมต่างๆ ส่วนแผนงานในการบริหารจัดการพัฒนาศูนย์เด็กเล็ก จะมีคณะกรรมการขับเคลื่อนเชื่อมโยงเป็นเครือข่ายระดับชาติ ระดับจังหวัด และระดับชุมชน มีโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำตำบล เข้ามามีบทบาทในเรื่องนี้มากขึ้น ซึ่งคณะกรรมการขับเคลื่อนโครงการนี้ มีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเป็นประธาน กรมอนามัยเป็นหน่วยงานหลักในการดำเนินการ จะนัดประชุมคณะกรรมการโดยเร็ว