กทม.เฝ้าระวังเข้มหวัด 2009 หลังพบนักข่าวทีวี ติดเชื้อขณะทำข่าว “ม็อบแดง” เผยอาการปลอดภัยแล้ว เตรียมดูเส้นทางติดเชื้อมาจากกลุ่มเสื้อแดงหรือไม่ ชี้หากมีผู้ป่วยเพิ่ม แสดงชัดเชื้อกระจายพื้นที่ชุมนุม ฝากสาวกแดงช่วยกันดูแล ระบุสู้เพื่อ “แม้ว” จนป่วยแล้ว 158 ราย ส่วนใหญ่ไข้หวัด ด้าน “หมอเหวง” เสียงแข็งไม่มีใครติดหวัด 2009 พบแต่เพลียแดด ท้องร่วง ทำปากเก่งไม่แจ้งเตือน หวั่นสาวกตื่นตระหนก
วันนี้ (21 มี.ค.) พญ.มาลินี สุขเวชชวรกิจ รองผู้ว่าฯ กทม. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการปฏิบัติเจ้าหน้าที่ของหน่วยแพทย์เคลื่อนที่จากสำนักอนามัยและสำนัการแพทย์ กทม.จำนวน 6 จุด โดยรอบพื้นที่การชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง ภายหลังที่มีผู้สื่อข่าวจากสถานีโทรทัศน์แห่งหนึ่งติดเชื้อไข้หวัด 2009 ขณะทำข่าวการชุมนุมกลุ่มคนเสื้อแดง
พญ.มาลินี กล่าวว่า ขณะนี้เป็นที่แน่นอนแล้วว่า ผู้สื่อข่าวคนดังกล่าวป่วยเป็นไข้หวัด 2009 จริง แต่ขณะนี้อาการปลอดภัยแล้ว โดยทาง กทม.กำลังสืบสวนโรคว่า มีการติดเชื้อมาจากที่ใด ซึ่งอาจจะมาจากสถานที่ชุมนุมก็ได้หรืออาจจะไม่ได้ติดจากพื้นที่ชุมนุม เนื่องจากผู้สื่อข่าวคนดังกล่าวได้เดินทางไปติดตามทำข่าวหลายที่ จึงยังไม่สามารถบ่งชี้ได้ว่า ติดเชื้อมาจากที่ใด อย่างไรก็ตาม กทม.จะเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด ซึ่งหากพบว่ามีเปอร์เซ็นต์ของผู้ป่วยเพิ่มมากขึ้นกว่า 1 ราย จึงจะเป็นที่ชัดเจนว่า มีการติดเชื้อจากพื้นที่ชุมนุม
พญ.มาลินี กล่าวต่อว่า ทั้งนี้เมื่อมีการพิสูจน์ชัดเจนแล้วว่าเชื้อมีการแพร่ระบาดในพื้นที่ชุมนุมทาง กทม.ก็จะดำเนินการตามมาตราการป้องกัน กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ รวมทั้งให้ผู้ชุมนุมมีการใช้หน้ากากอนามัย นอกจากนี้อยากเตือนไม่ให้ผู้ชุมนุมอยู่กันอย่างหนาแน่น เพราะจะมีการติดเชื้อมากขึ้น อย่างไรก็ตามขณะนี้ กทม.ได้ส่งสัญญาณไปยังญาติพี่น้องของผู้ชุมนุมให้ตักเตือนกันเอง ซึ่งจะไม่ประสานไปยังแกนนำผุ้ชุมนุม เพราะ กทม.อาจถูกกล่าวหาว่าปล่อยข่าวสลายผู้ชุมนุมได้ ซึ่งกลุ่มคนเเสื้อแดงก็มีแพทย์ประจำอยู่แล้ว ประกอบกับยังมีแกนนำที่เป็นแพทย์ คือ นพ.เหวง โตจิราการ ซึ่งคาดว่าจะเข้าใจและสื่อสารกับแกนนำคนอื่นได้
พญ.มาลินี กล่าวอีกว่า สำหรับการประสานงานกับหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ในพื้นที่ชุมนุมพบว่า ในแต่ละวันมีผู้ป่วยประมาณ 60-70 ราย โดยในวันนี้มีผู้ป่วยเพิ่มมาจำนวน 5 ราย ซึ่งส่วนใหญ่จะป่วยเป็นไข้หวัด โดยขณะนี้มียอดผู้ป่วยสะสม 158 ราย และมีผู้ป่วยเข้าพักรักษาตัวที่โรงพยาบาล 30 ราย ซึ่งบางส่วนได้กลับไปพักรักษาตัวที่บ้าน และเหลือพักรักษาที่โรงพยาบาล 13 ราย ได้แก่ รพ.พระมงกุฎฯ 2 ราย ซึ่งเป็นทหารที่ได้รับบาดเจ็บจากการยิงอาวุธเอ็ม 79 ที่ พล.ม.2 รอ. รพ.กลาง 5 ราย ร.พ.วชิรพยาบาล 4 ราย ร.พ.ราชวิถี 1 ราย และรพ.ตำรวจ 1 ราย
“ขณะนี้ยังไม่พบการแพร่กระจายหรือติดไข้หวัด 2009 ในพื้นที่การชุมนุม ซึ่งทางการแพทย์จะเฝ้าระวังผู้ป่วยที่มาขอรับการรักษาในระหว่างการุชุมนุมแต่ละวัน” รองผู้ว่าฯ กทม.กล่าว
ขณะที่ นพ.เหวงกล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า ตนยืนยันว่าในกลุ่มผู้ชุมนุมยังไม่มีการติดเชื้อไข้หวัด 2009 แต่อย่างใด แต่ตนก็ยินดีหากทาง กทม.จะเข้าสุ่มตรวจผู้ชุมนุม แต่ขอให้มีการประสานงานมาอย่างเป็นทางการ อย่างไรก็ตามตั้งแต่เริ่มการชุมนุมมาพบว่าผู้ชุมนุมส่วนใหญ่จะอาการเพลียแดด และอาการท้องร่วงเท่านั้น ส่วนเรื่องไข้หวัด 2009 นั้นยังไม่มีปรากฎแต่อย่างใด เพราะมาตรการดูแลของ นปช.หากพบผู้ชุมนุมมีอาการป่วย รุนแรงจะส่งโรงพยาบาลใกล้เคียง ซึ่งเท่าที่ส่งตัวไปรับการรักษายังไม่มีการแจ้งผลกลับมาว่ามีติดเชื้อไข้หวัด 2009
นพ.เหวง กล่าวอีกว่า ส่วนจะมีการเฝ้าระวัง หรือแจ้งเตือนกลุ่มผู้ชุมนุมหรือไม่นั้นตอนนี้ ผู้ชุมนุมอาจจะได้รับผลกระทบจากสภาพอากาศที่ร้อนจัด รวมถึงในเรื่องอาหารและน้ำมากกว่า ดังนั้นจึงจะยังไม่มีการแจ้งเตือนกลุ่มผู้ชุมนุมให้ระวังการแพร่ระบาดไข้หวัด 2009 เพราะเกรงว่าจะทำให้เกิดความตื่นตระหนกในกลุ่มผู้ชุมนุมได้
วันนี้ (21 มี.ค.) พญ.มาลินี สุขเวชชวรกิจ รองผู้ว่าฯ กทม. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการปฏิบัติเจ้าหน้าที่ของหน่วยแพทย์เคลื่อนที่จากสำนักอนามัยและสำนัการแพทย์ กทม.จำนวน 6 จุด โดยรอบพื้นที่การชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง ภายหลังที่มีผู้สื่อข่าวจากสถานีโทรทัศน์แห่งหนึ่งติดเชื้อไข้หวัด 2009 ขณะทำข่าวการชุมนุมกลุ่มคนเสื้อแดง
พญ.มาลินี กล่าวว่า ขณะนี้เป็นที่แน่นอนแล้วว่า ผู้สื่อข่าวคนดังกล่าวป่วยเป็นไข้หวัด 2009 จริง แต่ขณะนี้อาการปลอดภัยแล้ว โดยทาง กทม.กำลังสืบสวนโรคว่า มีการติดเชื้อมาจากที่ใด ซึ่งอาจจะมาจากสถานที่ชุมนุมก็ได้หรืออาจจะไม่ได้ติดจากพื้นที่ชุมนุม เนื่องจากผู้สื่อข่าวคนดังกล่าวได้เดินทางไปติดตามทำข่าวหลายที่ จึงยังไม่สามารถบ่งชี้ได้ว่า ติดเชื้อมาจากที่ใด อย่างไรก็ตาม กทม.จะเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด ซึ่งหากพบว่ามีเปอร์เซ็นต์ของผู้ป่วยเพิ่มมากขึ้นกว่า 1 ราย จึงจะเป็นที่ชัดเจนว่า มีการติดเชื้อจากพื้นที่ชุมนุม
พญ.มาลินี กล่าวต่อว่า ทั้งนี้เมื่อมีการพิสูจน์ชัดเจนแล้วว่าเชื้อมีการแพร่ระบาดในพื้นที่ชุมนุมทาง กทม.ก็จะดำเนินการตามมาตราการป้องกัน กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ รวมทั้งให้ผู้ชุมนุมมีการใช้หน้ากากอนามัย นอกจากนี้อยากเตือนไม่ให้ผู้ชุมนุมอยู่กันอย่างหนาแน่น เพราะจะมีการติดเชื้อมากขึ้น อย่างไรก็ตามขณะนี้ กทม.ได้ส่งสัญญาณไปยังญาติพี่น้องของผู้ชุมนุมให้ตักเตือนกันเอง ซึ่งจะไม่ประสานไปยังแกนนำผุ้ชุมนุม เพราะ กทม.อาจถูกกล่าวหาว่าปล่อยข่าวสลายผู้ชุมนุมได้ ซึ่งกลุ่มคนเเสื้อแดงก็มีแพทย์ประจำอยู่แล้ว ประกอบกับยังมีแกนนำที่เป็นแพทย์ คือ นพ.เหวง โตจิราการ ซึ่งคาดว่าจะเข้าใจและสื่อสารกับแกนนำคนอื่นได้
พญ.มาลินี กล่าวอีกว่า สำหรับการประสานงานกับหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ในพื้นที่ชุมนุมพบว่า ในแต่ละวันมีผู้ป่วยประมาณ 60-70 ราย โดยในวันนี้มีผู้ป่วยเพิ่มมาจำนวน 5 ราย ซึ่งส่วนใหญ่จะป่วยเป็นไข้หวัด โดยขณะนี้มียอดผู้ป่วยสะสม 158 ราย และมีผู้ป่วยเข้าพักรักษาตัวที่โรงพยาบาล 30 ราย ซึ่งบางส่วนได้กลับไปพักรักษาตัวที่บ้าน และเหลือพักรักษาที่โรงพยาบาล 13 ราย ได้แก่ รพ.พระมงกุฎฯ 2 ราย ซึ่งเป็นทหารที่ได้รับบาดเจ็บจากการยิงอาวุธเอ็ม 79 ที่ พล.ม.2 รอ. รพ.กลาง 5 ราย ร.พ.วชิรพยาบาล 4 ราย ร.พ.ราชวิถี 1 ราย และรพ.ตำรวจ 1 ราย
“ขณะนี้ยังไม่พบการแพร่กระจายหรือติดไข้หวัด 2009 ในพื้นที่การชุมนุม ซึ่งทางการแพทย์จะเฝ้าระวังผู้ป่วยที่มาขอรับการรักษาในระหว่างการุชุมนุมแต่ละวัน” รองผู้ว่าฯ กทม.กล่าว
ขณะที่ นพ.เหวงกล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า ตนยืนยันว่าในกลุ่มผู้ชุมนุมยังไม่มีการติดเชื้อไข้หวัด 2009 แต่อย่างใด แต่ตนก็ยินดีหากทาง กทม.จะเข้าสุ่มตรวจผู้ชุมนุม แต่ขอให้มีการประสานงานมาอย่างเป็นทางการ อย่างไรก็ตามตั้งแต่เริ่มการชุมนุมมาพบว่าผู้ชุมนุมส่วนใหญ่จะอาการเพลียแดด และอาการท้องร่วงเท่านั้น ส่วนเรื่องไข้หวัด 2009 นั้นยังไม่มีปรากฎแต่อย่างใด เพราะมาตรการดูแลของ นปช.หากพบผู้ชุมนุมมีอาการป่วย รุนแรงจะส่งโรงพยาบาลใกล้เคียง ซึ่งเท่าที่ส่งตัวไปรับการรักษายังไม่มีการแจ้งผลกลับมาว่ามีติดเชื้อไข้หวัด 2009
นพ.เหวง กล่าวอีกว่า ส่วนจะมีการเฝ้าระวัง หรือแจ้งเตือนกลุ่มผู้ชุมนุมหรือไม่นั้นตอนนี้ ผู้ชุมนุมอาจจะได้รับผลกระทบจากสภาพอากาศที่ร้อนจัด รวมถึงในเรื่องอาหารและน้ำมากกว่า ดังนั้นจึงจะยังไม่มีการแจ้งเตือนกลุ่มผู้ชุมนุมให้ระวังการแพร่ระบาดไข้หวัด 2009 เพราะเกรงว่าจะทำให้เกิดความตื่นตระหนกในกลุ่มผู้ชุมนุมได้