“พราหมณ์ไพร่” แถทำอวิชชาเพื่อชาติ รับเหยียบเสาทำเนียบ “ของเข้าตัว”

“พราหมณ์ไพร่” อ้างบวชเป็นพราหมณ์ถูกต้องที่เมืองคอนแล้ว แถทำอวิชชามนต์ดำเพื่อชาติ รับโดนของตอนเหยียบเลือดทาเสาทำเนียบ แนะทางแก้เคราะห์กรรมชาติ “นช.แม้ว-มาร์ค-เทพเทือก-สนธิ-สามเกลอ” บวชล้างบาป 7 วัน

นายศักดิ์ระพี พรหมชาติ พราหมณ์ประจำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กล่าวยอมรับว่า ตนเป็นผู้เสนอให้ทำพิธีกรรมเท และสาดเลือดที่ทำเนียบรัฐบาล พรรคประชาธิปัตย์ และที่บ้านนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เนื่องจากหากไม่ทำเช่นนี้จะมีการเสียเลือดเนื้อครั้งใหญ่ ซึ่งก็ยอมรับว่าเป็นอวิชชา ไสยศาสตร์ ไม่เป็นผลดีต่อทั้งฝ่ายของผู้กระทำ และผู้ถูกกระทำ โดยตนได้รับผลกระทบทันที โดนต่อว่าเสียหายถึงต้นตระกูลที่สั่งสมความดีมานาน แต่นายอภิสิทธิ์เองได้รับผลกระทบเช่นกัน ทั้งการลงจากเฮลิปคอปเตอร์ไม่ได้ เข้าบ้านไม่ได้ และถูกนานาชาติมองว่าไม่เป็นธรรม และคาดว่าตราบาปจะติดตัวนายอภิสิทธิ์ในอนาคต

“ผมก็โดนของ ตอนที่เอาเท้าไปเหยียบเลือดทาที่เสาทำเนียบรัฐบาล มีของมาทำให้รู้สึกเจ็บเข้ากระดูก วันนี้มีนักการเมืองทั้งท้องถิ่น และระดับชาติ โทรศัพท์ไปด่าครอบครัวผม ผมเองไม่ใช่พราหมณ์เสื้อแดง ใส่เสื้อขาว แต่ต้องการทำเพื่อประเทศชาติ เพื่อความถูกต้อง” นายศักดิ์ระพี กล่าว

พราหมณ์ นปช.กล่าวอีกว่า การต่อสู้ระหว่างไพร่กับอำมาตยาธิปไตยนั้น ต้องสังเวยแม่ธรณีด้วยเลือด ไม่เช่นนั้นจะล้มตายกันจำนวนมาก แต่ไม่มีวิธีการที่เหนือกว่านี้แล้ว เป็นวิธีการที่สุดยอดของวิชาไสยเวทแล้ว และไม่มีใครที่จะแก้ได้ แม้แต่จะเอาน้ำมนต์ 7 วัด ตนเองยังแก้ไม่ได้ ความจริงการสังเวยเลือดนั้น ในทางพราหมณ์ก็ทำกันอยู่ แต่ไม่ปรากฏตามสื่อ ส่วนกรณีพระครูวามเทพมุนี หัวหน้าพราหมณ์แห่งเทวสถานโบสถ์พราหมณ์ ผู้นำคณะพราหมณ์ประจำสำนักพระราชวัง ระบุว่าไม่รู้จักตน และระบุด้วยว่าพ่อของตนเคยกระทำความผิดจนถูกไล่ออกจากราชสำนักนั้น นายศักดิ์ระพีกล่าวว่า ตนกับพระครูวามเทพมุนีโตมาด้วยกันที่โบสถ์พราหมณ์กรุงเทพมหานคร ชื่อเดิม คือ นายชวิน รังสีพราหมณกุล ชื่อเล่น อู๊ด การเป็นพราหมณ์นั้นสืบทอดมาจากครอบครัว ซึ่งบิดาของตนคือ พราหมณ์แจ้ง พรหมชาติ อดีตพราหมณ์ประจำสำนักราชวัง ส่วนที่มาอ้างว่าตนไม่ใช่พราหมณ์นั้นก็ไม่ใช่ เพราะการบวชพราหมณ์นั้นไม่จำเป็นต้องบวชที่กรุงเทพมหานครอย่างเดียว ที่นครศรีธรรมราชมีโบสถ์พราหมณ์ มีหอพระนารายณ์ หอพระอิศวร เป็นต้นตอของพราหมณ์ตั้งแต่สมัยยังมีชื่อ ตามพรลิงค์ ส่วนพราหมณ์ที่อยู่ในโบสถ์ กทม.นั้นเป็นพราหมณ์ที่รับราชการเท่านั้น แต่ตนไม่ใช่ ส่วนบิดาของตนนั้นอายุ 100 ปี เป็นโรคปวดเข่า จึงอยากกลับไปอยู่บ้านเกิด

“พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ดวงไม่ดี เพราะบุญเก่าไม่มี ทำแต่งาน ไม่ทำบุญ ดังนั้น จึงได้รับเคราะห์กรรมไปเรื่อยๆ ทางแก้นั้นก็ยาก เพราะคนที่ทำให้ท่านนั้น มีทั้งพราหมณ์ หมอดู โหรนับพันคน ยุ่งเหยิงไปหมด ถามว่ามีโอกาสกลับมั้ย มีโอกาสกลับในไม่ช้านี้ ทั้งนี้ ดวงเมืองปีนี้แรงสุดในรอบ 100 ปี ตกต่ำที่สุด ฉะนั้น ทางแก้มีอยู่ทางเดียว คือให้ทุกคนโดยเฉพาะนายอภิสิทธิ์ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง นายเนวิน ชิดชอบ แกนนำพรรคภูมิใจไทย นายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ นายวีระ มุสิกพงศ์ นายจตุพร พรหมพันธุ์ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำ นปช.มาเข้าวัดบวชประมาณ 7 วัน เพื่อล้างบาปและพูดคุยกันเพื่อทำให้ประเทศชาติสงบกลับมาเหมือนเดิม” นายศักดิ์ระพี กล่าว