“ชินวรณ์” สั่งติดตามสถานการณ์รับสมัครนักเรียนใกล้ชิด ระบุหาก “ม็อบแดง” ยืดเยื้อเกินวันรับสมัคร 17 มี.ค.อาจพิจารณาขยายเวลาเพิ่ม “ชินภัทร” สั่งตั้งวอร์รูมตามติดการชุมนุม วอนผู้ปกครอง หลีกเลี่ยงนำนักเรียนสมัครเรียนช่วงวันที่ 13-14 มี.ค.นี้ ด้าน “นริศรา” สั่งคุมเข้มสำนักงาน สอศ. 24 ชม.หวั่นซ้ำรอย เม.ย.เลือด เจอปาระเบิดเพลิง
วันนี้ (9 มี.ค.) นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า หลังจากที่ ครม.ประกาศใช้ พ.ร.บ.รักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ในเขตพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ตั้งแต่วันที่ 11-23 มี.ค.นี้ เพื่อป้องกันเหตุการณ์ความรุนแรงจากการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงนั้น ในส่วนการรับสมัครนักเรียนชั้น ม.1 และ ม.4 ของโรงเรียนในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ที่จะมีขึ้นในระหว่างวันที่ 13-17 มี.ค.นี้ และเพื่อความปลอดภัยของนักเรียน ผู้ปกครอง ที่เกรงว่าจะได้รับผลกระทบจากการชุมนุม สพฐ.จึงเปิดโอกาสให้มีการสมัครผ่านทางเว็บไซต์ของโรงเรียน ทางไปรษณีย์ และการเพิ่มสถานที่รับสมัครเพื่อหลีกเลี่ยงการเดินทางเข้ามายังบริเวณพื้นที่ชุมนุม ทั้งนี้หากสถานการณ์ยังคงยืดเยื้อไปจนถึงวันที่ 17 มี.ค.ก็จะมีการพิจารณาขยายวันรับสมัครออกไป
อย่างไรก็ตาม หากนักเรียนไม่สามารถสมัครเรียนตามช่องทางหรือสถานที่ที่ สพฐ. กำหนดไว้ได้นั้น ก็จะพิจารณาเป็นกรณีไป ส่วนที่จะมีการเลื่อนกำหนดการในปฏิทินการรับนักเรียนสังกัด สพฐ.ประจำปี 2553 ทั้งหมดหรือไม่นั้น คงจะต้องรอประเมินสถานการณ์เป็นลำดับต่อไป
ดร.ชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) กล่าวว่า ตนอยากฝากเตือนไปยังนักเรียน ผู้ปกครอง ว่าหากไม่มีความจำเป็นก็ควรหลีกเลี่ยงการเดินทางมาสมัครเรียนในวันที่ 13-14 มี.ค.นี้ แต่หากมีความจำเป็นก็ขอให้รับฟังข่าวสาร พร้อมทั้งประเมินสถานการณ์ก่อน ทั้งนี้ สพฐ.จะนัดประชุมเพื่อติดตามสถานการณ์อีกครั้งในวันที่ 15 มี.ค.นี้
ด้าน น.ส.นริศรา ชวาลตันพิพัทธ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมช.ศธ.) กล่าวว่า สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) ที่มีที่ตั้งอยู่ภายในกระทรวงศึกษาธิการ และเป็นจุดที่คาดว่าจะมีผู้ชุมนุมเป็นจำนวนมากนั้น ตนจึงได้สั่งการให้นายพรหมสวัสดิ์ ทิพย์คงคา เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (กอศ.) เป็นผู้ควบคุมสถานการณ์และดูแลความเรียบร้อยของที่ทำการ โดยให้จัดเตรียมอุปกรณ์ดับเพลิง และจัดเวรยามดูแลความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง เนื่องจากในเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นเมื่อเดือน เม.ย.ปีที่แล้ว สอศ.เคยประสบเหตุที่มีการขว้างระเบิดเพลิงใส่อาคาร สอศ.ด้านที่อยู่ริมคลอง แต่เจ้าหน้าที่ดับไฟได้ทัน จึงไม่เกิดความเสียหายมากนัก ดังนั้นในคราวนี้จึงต้องมีการดูแล คุมเข้มอย่างเข้มข้นกว่าเดิม
“ในส่วนของข้าราชการ สอศ.ในช่วงนี้ก็ให้มาทำงานตามปกติ โดยให้ประเมินสถานการณ์วันต่อวัน ซึ่งหากไม่น่าไว้วางใจ ก็ให้ข้าราชการที่ไม่มีหน้าที่ใดๆ เดินทางกลับได้ทันที ขณะที่การจัดสัมมนาผู้บริหารสถานศึกษาอาชีวศึกษาในสังกัด สอศ.ที่จะมีขึ้นในวันที่ 11 มี.ค.นั้น ได้สั่งให้มีการเลื่อนไปจัดในวันที่ 25 มี.ค.แล้ว” รมช.ศธ.กล่าว
วันนี้ (9 มี.ค.) นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า หลังจากที่ ครม.ประกาศใช้ พ.ร.บ.รักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ในเขตพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ตั้งแต่วันที่ 11-23 มี.ค.นี้ เพื่อป้องกันเหตุการณ์ความรุนแรงจากการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงนั้น ในส่วนการรับสมัครนักเรียนชั้น ม.1 และ ม.4 ของโรงเรียนในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ที่จะมีขึ้นในระหว่างวันที่ 13-17 มี.ค.นี้ และเพื่อความปลอดภัยของนักเรียน ผู้ปกครอง ที่เกรงว่าจะได้รับผลกระทบจากการชุมนุม สพฐ.จึงเปิดโอกาสให้มีการสมัครผ่านทางเว็บไซต์ของโรงเรียน ทางไปรษณีย์ และการเพิ่มสถานที่รับสมัครเพื่อหลีกเลี่ยงการเดินทางเข้ามายังบริเวณพื้นที่ชุมนุม ทั้งนี้หากสถานการณ์ยังคงยืดเยื้อไปจนถึงวันที่ 17 มี.ค.ก็จะมีการพิจารณาขยายวันรับสมัครออกไป
อย่างไรก็ตาม หากนักเรียนไม่สามารถสมัครเรียนตามช่องทางหรือสถานที่ที่ สพฐ. กำหนดไว้ได้นั้น ก็จะพิจารณาเป็นกรณีไป ส่วนที่จะมีการเลื่อนกำหนดการในปฏิทินการรับนักเรียนสังกัด สพฐ.ประจำปี 2553 ทั้งหมดหรือไม่นั้น คงจะต้องรอประเมินสถานการณ์เป็นลำดับต่อไป
ดร.ชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) กล่าวว่า ตนอยากฝากเตือนไปยังนักเรียน ผู้ปกครอง ว่าหากไม่มีความจำเป็นก็ควรหลีกเลี่ยงการเดินทางมาสมัครเรียนในวันที่ 13-14 มี.ค.นี้ แต่หากมีความจำเป็นก็ขอให้รับฟังข่าวสาร พร้อมทั้งประเมินสถานการณ์ก่อน ทั้งนี้ สพฐ.จะนัดประชุมเพื่อติดตามสถานการณ์อีกครั้งในวันที่ 15 มี.ค.นี้
ด้าน น.ส.นริศรา ชวาลตันพิพัทธ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมช.ศธ.) กล่าวว่า สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) ที่มีที่ตั้งอยู่ภายในกระทรวงศึกษาธิการ และเป็นจุดที่คาดว่าจะมีผู้ชุมนุมเป็นจำนวนมากนั้น ตนจึงได้สั่งการให้นายพรหมสวัสดิ์ ทิพย์คงคา เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (กอศ.) เป็นผู้ควบคุมสถานการณ์และดูแลความเรียบร้อยของที่ทำการ โดยให้จัดเตรียมอุปกรณ์ดับเพลิง และจัดเวรยามดูแลความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง เนื่องจากในเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นเมื่อเดือน เม.ย.ปีที่แล้ว สอศ.เคยประสบเหตุที่มีการขว้างระเบิดเพลิงใส่อาคาร สอศ.ด้านที่อยู่ริมคลอง แต่เจ้าหน้าที่ดับไฟได้ทัน จึงไม่เกิดความเสียหายมากนัก ดังนั้นในคราวนี้จึงต้องมีการดูแล คุมเข้มอย่างเข้มข้นกว่าเดิม
“ในส่วนของข้าราชการ สอศ.ในช่วงนี้ก็ให้มาทำงานตามปกติ โดยให้ประเมินสถานการณ์วันต่อวัน ซึ่งหากไม่น่าไว้วางใจ ก็ให้ข้าราชการที่ไม่มีหน้าที่ใดๆ เดินทางกลับได้ทันที ขณะที่การจัดสัมมนาผู้บริหารสถานศึกษาอาชีวศึกษาในสังกัด สอศ.ที่จะมีขึ้นในวันที่ 11 มี.ค.นั้น ได้สั่งให้มีการเลื่อนไปจัดในวันที่ 25 มี.ค.แล้ว” รมช.ศธ.กล่าว