สธ.เตือนครีมหน้าขาวนำเข้าเวียดนามสุดอันตราย เหตุมีสารปรอทปนเปื้อน ระบุ หากพบลักลอบขายฝั่งไทย มีโทษจำคุก 1 ปี ปรับ 6 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ขณะที่หญิงเขมรแพ้รุนแรง ติดเชื้อในกระแสเลือดเสียชีวิต รอตรวจสอบอีกรอบ จากครีมหน้าขาวหรือไม่
(วันนี้) 8 มีนาคม นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงกรณีครีมหน้าขาวนำเข้าจากเวียดนาม ชื่อ เบ๋าดั๋ม ที่หญิงสาวกัมพูชาวัย 23 ปี นำไปใช้แล้วส่งผลให้เกิดการแพ้จนถึงขั้นเสียชีวิต ว่า จากการตรวจสอบครีมหน้าขาวดังกล่าว หญิงสาวรายนี้ซื้อครีมหน้าขาวนำเข้าจากประเทศเวียดนาม นำไปใช้ทาผิว จนทำให้เกิดการแพ้ และเกิดการติดเชื้อในกระแสเลือด และเข้าทำการรักษาที่โรงพยาบาลของกัมพูชา จากนั้นถูกส่งตัวมารักษายังโรงพยาบาลในฝั่งไทย จนสุดท้ายเสียชีวิตที่โรงพยาบาลสมเด็จยุพราช เมื่อวันที่ 7 มีนาคม ที่ผ่านมา แพทย์วินิจฉัยว่าเกิดจากการติดเชื้อในกระแสเลือดขั้นรุนแรง ซึ่งล่าสุดได้สั่งการให้สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ดำเนินการจับและปรับผู้ที่แอบลักลอบขายครีมดังกล่าวแล้ว
“ครีมดังกล่าวมีการห้ามขายอยู่แล้ว เพราะไม่มีฉลาก และถือว่าเป็นครีมฟอกผิวอันตราย โดยหากพบว่ามีการลักลอบจำหน่ายในฝั่งไทยจะถือว่าผิดกฎหมายละเมิดจำหน่ายสินค้าต้องห้าม มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 6 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ นอกจากนี้ ยังมีความผิดฐานติดฉลากไม่ถูกต้อง มีโทษจำคุก 6 เดือน ปรับ 3 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ” นายจุรินทร์ กล่าว
ด้านนพ.พิพัฒน์ ยิ่งเสรี เลขาธิการ อย.กล่าวว่า ปัญหาของครีมหน้าขาวที่เกิดขึ้นกับผู้บริโภค อย.ได้ประกาศเตือน และออกกฎหมายควบคุมเอาผิดอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากครีมหน้าขาวดังกล่าวเป็นครีมที่ลักลอบนำเข้า และไม่มี อย.รับรองในด้านความปลอดภัย ที่สำคัญ ครีมตัวนี้ยังพบสารไฮโดรควิโนน ซึ่งเป็นอนุพันธ์ของปรอทปนเปื้อนในครีมดังกล่าว หากนำไปใช้จะเกิดอาการแพ้ตั้งแต่ระดับน้อยไปจนถึงขั้นรุนแรง ซึ่งพบได้ 1 ในหมื่นราย
นพ.พิพัฒน์ กล่าวต่อว่า ยังไม่มีการยืนยันที่ชัดเจนว่า หญิงรายนี้เสียชีวิตจากครีมฟอกขาวจริงหรือไม่ เพราะจากการวินิจฉัยของแพทย์ ระบุว่า เสียชีวิตเพราะเกิดจากการติดเชื้อในกระแสเลือด ซึ่งการติดเชื้อลักษณะนี้หาสาเหตุลำบาก เพราะผู้ป่วยมีอาการหอบ ไม่รู้สึกตัว จนต้องนำเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล จากนั้นก็ไม่ทราบประวัติใดๆ เพิ่มเติม ดังนั้น จำเป็นต้องรอการตรวจสอบอีกครั้ง ว่า มีโรคแทรกซ้อนหรืออาการข้างเคียงที่ชัดเจนอย่างอื่นอีกหรือไม่
(วันนี้) 8 มีนาคม นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงกรณีครีมหน้าขาวนำเข้าจากเวียดนาม ชื่อ เบ๋าดั๋ม ที่หญิงสาวกัมพูชาวัย 23 ปี นำไปใช้แล้วส่งผลให้เกิดการแพ้จนถึงขั้นเสียชีวิต ว่า จากการตรวจสอบครีมหน้าขาวดังกล่าว หญิงสาวรายนี้ซื้อครีมหน้าขาวนำเข้าจากประเทศเวียดนาม นำไปใช้ทาผิว จนทำให้เกิดการแพ้ และเกิดการติดเชื้อในกระแสเลือด และเข้าทำการรักษาที่โรงพยาบาลของกัมพูชา จากนั้นถูกส่งตัวมารักษายังโรงพยาบาลในฝั่งไทย จนสุดท้ายเสียชีวิตที่โรงพยาบาลสมเด็จยุพราช เมื่อวันที่ 7 มีนาคม ที่ผ่านมา แพทย์วินิจฉัยว่าเกิดจากการติดเชื้อในกระแสเลือดขั้นรุนแรง ซึ่งล่าสุดได้สั่งการให้สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ดำเนินการจับและปรับผู้ที่แอบลักลอบขายครีมดังกล่าวแล้ว
“ครีมดังกล่าวมีการห้ามขายอยู่แล้ว เพราะไม่มีฉลาก และถือว่าเป็นครีมฟอกผิวอันตราย โดยหากพบว่ามีการลักลอบจำหน่ายในฝั่งไทยจะถือว่าผิดกฎหมายละเมิดจำหน่ายสินค้าต้องห้าม มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 6 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ นอกจากนี้ ยังมีความผิดฐานติดฉลากไม่ถูกต้อง มีโทษจำคุก 6 เดือน ปรับ 3 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ” นายจุรินทร์ กล่าว
ด้านนพ.พิพัฒน์ ยิ่งเสรี เลขาธิการ อย.กล่าวว่า ปัญหาของครีมหน้าขาวที่เกิดขึ้นกับผู้บริโภค อย.ได้ประกาศเตือน และออกกฎหมายควบคุมเอาผิดอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากครีมหน้าขาวดังกล่าวเป็นครีมที่ลักลอบนำเข้า และไม่มี อย.รับรองในด้านความปลอดภัย ที่สำคัญ ครีมตัวนี้ยังพบสารไฮโดรควิโนน ซึ่งเป็นอนุพันธ์ของปรอทปนเปื้อนในครีมดังกล่าว หากนำไปใช้จะเกิดอาการแพ้ตั้งแต่ระดับน้อยไปจนถึงขั้นรุนแรง ซึ่งพบได้ 1 ในหมื่นราย
นพ.พิพัฒน์ กล่าวต่อว่า ยังไม่มีการยืนยันที่ชัดเจนว่า หญิงรายนี้เสียชีวิตจากครีมฟอกขาวจริงหรือไม่ เพราะจากการวินิจฉัยของแพทย์ ระบุว่า เสียชีวิตเพราะเกิดจากการติดเชื้อในกระแสเลือด ซึ่งการติดเชื้อลักษณะนี้หาสาเหตุลำบาก เพราะผู้ป่วยมีอาการหอบ ไม่รู้สึกตัว จนต้องนำเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล จากนั้นก็ไม่ทราบประวัติใดๆ เพิ่มเติม ดังนั้น จำเป็นต้องรอการตรวจสอบอีกครั้ง ว่า มีโรคแทรกซ้อนหรืออาการข้างเคียงที่ชัดเจนอย่างอื่นอีกหรือไม่