นักวิจัยในอิสราเอลแนะว่า อาหาร 3 ประเภท คือ อาหารแบบเมดิเตอร์เรเนียน อาหารไขมันต่ำ และอาหารคาร์โบไฮเดรตต่ำ ช่วยลดไขมันสะสมในหลอดเลือดหัวใจได้ผลใกล้เคียงกัน
มหาวิทยาลัยเบนกูเรียน ในเมืองเบียร์เชวา ทางตอนใต้ของอิสราเอล เผยในวารสารเซอร์คูเลชันว่า จากการให้อาสาสมัครน้ำหนักตัวเกิน 140 คน อายุ 40-65 ปี ส่วนใหญ่เป็นผู้ชาย เลือกรับประทานอาหารประเภทใดประเภทหนึ่งต่อเนื่องนาน 2 ปี ได้แก่ อาหารเมดิเตอร์เรเนียนที่เน้นผักผลไม้และใช้น้ำมันมะกอกเป็นแหล่งไขมันหลัก อาหารไขมันต่ำ และอาหารคาร์โบไฮเดรตต่ำ
นักวิจัยใช้เครื่องสร้างภาพ 3 มิติ วัดความหนาของผนังหลอดเลือดแดงใหญ่บริเวณลำคอที่นำเลือดไปเลี้ยงสมอง เปรียบเทียบภาพที่วัดตอนเริ่มการศึกษาและหลังผ่านไป 2 ปี พบว่าอาหารทั้งสามประเภทช่วยลดไขมันสะสมในหลอดเลือดได้คล้ายกัน ไม่เหมือนการศึกษาบางชิ้นที่ระบุว่าอาหารคาร์โบไฮเดรตต่ำทำให้หลอดเลือดเสี่ยงอุดตัน สันนิษฐานว่าอาจเป็นเพราะอาหารทั้งสามประเภทช่วยลดความดันโลหิต
ด้าน ดร.ชาร์ลส์ ไนท์ จากสมาคมหัวใจและหลอดเลือดหัวใจอังกฤษ ให้ความเห็นว่า แม้ผลการศึกษานี้ใช้กลุ่มตัวอย่างค่อนข้างน้อย และไม่ได้ติดตามศึกษาว่าในที่สุดแล้วมีอาสาสมัครเป็นโรคหัวใจหรือโรคหลอดเลือดสมองหรือไม่ แต่ผลที่ได้ถือว่าน่าสนใจ ช่วยเพิ่มน้ำหนักให้กับงานวิจัยที่ชี้ว่าไขมันสะสมในหลอดเลือดหัวใจเป็นโรคที่แก้ไขได้โดยไม่ต้องใช้ยา จากที่เคยเชื่อกันเมื่อ 10-15 ปีก่อนว่าแก้ไขไม่ได้ อย่างไรก็ดี เขาเตือนว่าการปรับเปลี่ยนอาหารแม้ช่วยได้แต่ก็ไม่ใช่ยาวิเศษ จึงต้องคอยดูแลสุขภาพควบคู่ไปด้วย
มหาวิทยาลัยเบนกูเรียน ในเมืองเบียร์เชวา ทางตอนใต้ของอิสราเอล เผยในวารสารเซอร์คูเลชันว่า จากการให้อาสาสมัครน้ำหนักตัวเกิน 140 คน อายุ 40-65 ปี ส่วนใหญ่เป็นผู้ชาย เลือกรับประทานอาหารประเภทใดประเภทหนึ่งต่อเนื่องนาน 2 ปี ได้แก่ อาหารเมดิเตอร์เรเนียนที่เน้นผักผลไม้และใช้น้ำมันมะกอกเป็นแหล่งไขมันหลัก อาหารไขมันต่ำ และอาหารคาร์โบไฮเดรตต่ำ
นักวิจัยใช้เครื่องสร้างภาพ 3 มิติ วัดความหนาของผนังหลอดเลือดแดงใหญ่บริเวณลำคอที่นำเลือดไปเลี้ยงสมอง เปรียบเทียบภาพที่วัดตอนเริ่มการศึกษาและหลังผ่านไป 2 ปี พบว่าอาหารทั้งสามประเภทช่วยลดไขมันสะสมในหลอดเลือดได้คล้ายกัน ไม่เหมือนการศึกษาบางชิ้นที่ระบุว่าอาหารคาร์โบไฮเดรตต่ำทำให้หลอดเลือดเสี่ยงอุดตัน สันนิษฐานว่าอาจเป็นเพราะอาหารทั้งสามประเภทช่วยลดความดันโลหิต
ด้าน ดร.ชาร์ลส์ ไนท์ จากสมาคมหัวใจและหลอดเลือดหัวใจอังกฤษ ให้ความเห็นว่า แม้ผลการศึกษานี้ใช้กลุ่มตัวอย่างค่อนข้างน้อย และไม่ได้ติดตามศึกษาว่าในที่สุดแล้วมีอาสาสมัครเป็นโรคหัวใจหรือโรคหลอดเลือดสมองหรือไม่ แต่ผลที่ได้ถือว่าน่าสนใจ ช่วยเพิ่มน้ำหนักให้กับงานวิจัยที่ชี้ว่าไขมันสะสมในหลอดเลือดหัวใจเป็นโรคที่แก้ไขได้โดยไม่ต้องใช้ยา จากที่เคยเชื่อกันเมื่อ 10-15 ปีก่อนว่าแก้ไขไม่ได้ อย่างไรก็ดี เขาเตือนว่าการปรับเปลี่ยนอาหารแม้ช่วยได้แต่ก็ไม่ใช่ยาวิเศษ จึงต้องคอยดูแลสุขภาพควบคู่ไปด้วย
