กทม.ตั้งอนุกรรมการแก้ไขปัญหาชุมชนแออัด 2 ชุดแก้ชุมชนเพชรคลองจั่น และชุมชนหลัง สน.ทองหล่อ หลังมีปัญหาบุกรุกพื้นที่ พร้อมเตรียมเจรจานอกรอบ
นางเพียงใจ วิศรุตรัตน์ รองปลัดกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการพิจารณาแก้ไขปัญหาชุมชนแออัดในเขตพื้นที่ กทม. ซึ่งเป็นการประชุมครั้งแรกหลังเครือข่ายสลัม 4 ภาคมีหนังสือถึงผู้ว่าฯ กทม.เพื่อหารือแนวทางแก้ไขปัญหาตามนโยบายรัฐ เรื่องที่ทำกินและที่อยู่อาศัยของคนจนว่า ที่ประชุมได้มอบหมายให้สำนักพัฒนาสังคมแต่งตั้งคณะอนุกรรมการขึ้น 2 ชุด เพื่อแก้ไขปัญหาชุมชนแออัด 2 แห่งแรกที่กำลังมีปัญหาการบุกรุก ได้แก่ ชุมชนเพชรคลองจั่น เขตบึงกุ่ม และชุมชนหลัง สน.ทองหล่อ เขตวัฒนา โดยให้ผู้อำนวยการเขตของแต่ละเขตเป็นประธานอนุกรรมการ และผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตลอดจนตัวแทนชาวบ้านร่วมเป็นกรรมการ ทั้งนี้ ได้มอบหมายให้ร่วมกันหาแนวทางแก้ไขปัญหาการไล่รื้อชุมชนโดยเฉพาะชุมชนที่อาศัยในพื้นที่สาธารณะและที่ดินของเอกชนหรือนิติบุคคลให้สามารถอยู่ร่วมกันได้โดยไม่เกิดปัญหา อาทิ การขอเจรจากับเจ้าของที่ดิน การศึกษาวิธีใช้พื้นที่รองรับน้ำหรือแก้มลิงโดยละเอียดของสำนักการระบายน้ำที่เขตบึงกุ่ม ซึ่งเบื้องต้นมีความจำเป็นต้องใช้ เป็นต้น ซึ่งกำหนดให้เร่งสรุปและรายงานต่อที่ประชุมคณะกรรมการชุดใหญ่ในการประชุมครั้งหน้า อีก 2 เดือนหลังจากนี้
นางเพียงใจกล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตาม ในที่ประชุมมีตัวแทนชาวบ้านบางส่วนเรียกร้องให้ ทม.โดยเฉพาะทางผู้บริหารช่วยเหลือเจรจากับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและเจ้าของที่ดินเอกชน ซึ่งนางทยา ทีปสุวรรณ รองผู้ว่าฯ ได้รับปากว่าจะช่วยเจรจานอกรอบให้ ขณะที่ข้อเรียกร้องให้ กทม.พิจารณาปรับปรุงระเบียบเรื่องแนวถอยร่นที่สร้างปัญหาต่อการสร้างบ้านมั่นคงนั้นจำเป็นต้องรอกฎกระทรวงประกาศใช้อย่างเป็นทางการก่อน ส่วนเรื่องการออกโฉนดชุมชนนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างรอสำนักงานกฤษฎีกาตีความ กทม.ยังไม่สามารถดำเนินการใดๆ ได้
นางเพียงใจ วิศรุตรัตน์ รองปลัดกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการพิจารณาแก้ไขปัญหาชุมชนแออัดในเขตพื้นที่ กทม. ซึ่งเป็นการประชุมครั้งแรกหลังเครือข่ายสลัม 4 ภาคมีหนังสือถึงผู้ว่าฯ กทม.เพื่อหารือแนวทางแก้ไขปัญหาตามนโยบายรัฐ เรื่องที่ทำกินและที่อยู่อาศัยของคนจนว่า ที่ประชุมได้มอบหมายให้สำนักพัฒนาสังคมแต่งตั้งคณะอนุกรรมการขึ้น 2 ชุด เพื่อแก้ไขปัญหาชุมชนแออัด 2 แห่งแรกที่กำลังมีปัญหาการบุกรุก ได้แก่ ชุมชนเพชรคลองจั่น เขตบึงกุ่ม และชุมชนหลัง สน.ทองหล่อ เขตวัฒนา โดยให้ผู้อำนวยการเขตของแต่ละเขตเป็นประธานอนุกรรมการ และผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตลอดจนตัวแทนชาวบ้านร่วมเป็นกรรมการ ทั้งนี้ ได้มอบหมายให้ร่วมกันหาแนวทางแก้ไขปัญหาการไล่รื้อชุมชนโดยเฉพาะชุมชนที่อาศัยในพื้นที่สาธารณะและที่ดินของเอกชนหรือนิติบุคคลให้สามารถอยู่ร่วมกันได้โดยไม่เกิดปัญหา อาทิ การขอเจรจากับเจ้าของที่ดิน การศึกษาวิธีใช้พื้นที่รองรับน้ำหรือแก้มลิงโดยละเอียดของสำนักการระบายน้ำที่เขตบึงกุ่ม ซึ่งเบื้องต้นมีความจำเป็นต้องใช้ เป็นต้น ซึ่งกำหนดให้เร่งสรุปและรายงานต่อที่ประชุมคณะกรรมการชุดใหญ่ในการประชุมครั้งหน้า อีก 2 เดือนหลังจากนี้
นางเพียงใจกล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตาม ในที่ประชุมมีตัวแทนชาวบ้านบางส่วนเรียกร้องให้ ทม.โดยเฉพาะทางผู้บริหารช่วยเหลือเจรจากับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและเจ้าของที่ดินเอกชน ซึ่งนางทยา ทีปสุวรรณ รองผู้ว่าฯ ได้รับปากว่าจะช่วยเจรจานอกรอบให้ ขณะที่ข้อเรียกร้องให้ กทม.พิจารณาปรับปรุงระเบียบเรื่องแนวถอยร่นที่สร้างปัญหาต่อการสร้างบ้านมั่นคงนั้นจำเป็นต้องรอกฎกระทรวงประกาศใช้อย่างเป็นทางการก่อน ส่วนเรื่องการออกโฉนดชุมชนนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างรอสำนักงานกฤษฎีกาตีความ กทม.ยังไม่สามารถดำเนินการใดๆ ได้
