สธ. สั่งทุกจังหวัดเร่งรณรงค์ฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ 2009 ให้กลุ่มเสี่ยงหลังพบกลุ่มเสี่ยงมาฉีดเพียงหมื่นกว่าราย โดยในวันจันทร์นี้จะฉีดวัคซีนเป็นตัวอย่าง เพื่อสร้างความมั่นใจในความปลอดภัยของวัคซีนให้มากขึ้น พร้อมกำชับให้โรงพยาบาลทุกแห่งเปิดช่องทางพิเศษรักษาผู้ป่วยไข้หวัดทุกชนิด ลดการแพร่กระจายเชื้อในโรงพยาบาล หากพบผู้ป่วยให้การรักษาอย่างรวดเร็วเพื่อลดการเสียชีวิต
วันนี้ (21 ม.ค.) นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์กรณีบุคลากรทางการแพทย์ที่โรงพยาบาลชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่ 2009 ว่า หลังได้รับรายงานแล้วมีความเป็นห่วงว่าไข้หวัดใหญ่ 2009 จะแพร่กระจายระลอกใหม่ ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขได้เตรียมการมาตรการเพื่อป้องกันบุคลากรติดเชื้อแล้ว โดยในวันนี้ ได้มอบหมายให้นายแพทย์ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ทำหนังสือสั่งการให้หน่วยงานในสังกัดทั่วประเทศทั้งโรงพยาบาล สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด สำนักงานสาธารณสุขอำเภอ สถานีอนามัย สำนักงานป้องกันควบคุมโรค เร่งเฝ้าระวังโรค หากพบผู้ป่วยต้องให้การรักษาอย่างรวดเร็ว เพื่อลดการเสียชีวิต ซึ่งขณะนี้มียาต้านไวรัสโอเซลทามิเวียร์ กระจายทั่วประเทศแล้ว ขณะเดียวกัน ต้องเร่งรัดรณรงค์ให้ประชาชนมีความรู้ ความเข้าใจ และตระหนักในการดูแลตนเองให้มากขึ้น เนื่องจากช่วงนี้เป็นฤดูหนาว ทำให้เชื้อแพร่ระบาดง่ายขึ้น
นายจุรินทร์กล่าวต่อว่า หัวใจสำคัญในการป้องกันโรคอีกทางหนึ่ง คือ การฉีดวัคซีนป้องกันโรค โดยกระทรวงสาธารณสุขมีวัคซีน 2 ล้านโดส เพื่อฉีดให้กลุ่มเสี่ยงได้แก่ บุคลากรทางการแพทย์ หญิงตั้งครรภ์อายุครรภ์ 3 เดือนขึ้นไป คนอ้วนน้ำหนัก 100 กิโลกรัมขึ้นไป ผู้พิการที่ดูแลตัวเองไม่ได้ ผู้ป่วยโรคเรื้อรังอายุเกิน 6 เดือน-64 ปี ตั้งแต่ 11 มกราคม 2553 เป็นต้นมา จนถึงวันนี้ปรากฏว่ากลุ่มเสี่ยงดังกล่าวมาฉีดวัคซีนเพียง 10,000 กว่าโดส
“สาเหตุที่กลุ่มมาฉีดน้อยนั้นอาจมีความกังวลในเรื่องความปลอดภัยวัคซีน หรืออาจจะเคยชินกับโรคไข้หวัดใหญ่ 2009 จึงได้มอบให้ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เร่งรัดการประชาสัมพันธ์แจ้งกลุ่มเสี่ยงให้มาฉีดให้มากขึ้น โดยให้ อสม.ช่วยประชาชนสัมพันธ์ในหมู่บ้านที่รับผิดชอบ และในวันจันทร์ที่ 25 มกราคม 2553 ผมจะฉีดเป็นตัวอย่างที่สถาบันบำราศนราดูร ซึ่งผมไม่ใช่เป็นกลุ่มเสี่ยง และไม่ได้แย่งวัคซีนจากประชาชน แต่ต้องการรณรงค์ให้กลุ่มเสี่ยงที่มีความจำเป็นต้องฉีด ได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง มีความมั่นใจในความปลอดภัยของวัคซีนมากขึ้น” นายจุรินทร์กล่าว
ทางด้าน นายแพทย์ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงสาเหตุที่บุคลากรทางการแพทย์ในโรงพยาบาลติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ 2009 ว่า แพทย์ พยาบาลก็เหมือนประชาชนทั่วไป หากมีอาการป่วยเป็นไข้หวัด ขอให้หยุดพักอยู่ที่บ้าน อย่ามาทำงาน โดยในวันนี้ได้ทำหนังสือแจ้งไปยังสถานบริการสาธารณสุขทั่วประเทศ
หากมีเจ้าหน้าที่ป่วยเป็นไข้หวัด ขอให้หยุดงานเป็นเวลา 7 วัน มอบหมายให้ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข 19 เขต ลงไปติดตามกำกับในพื้นที่รับผิดชอบ และให้โรงพยาบาลทุกแห่งเปิดช่องทางพิเศษ ให้บริการตรวจรักษาผู้ป่วยที่มีอาการไข้หวัดทุกชนิดที่แผนกผู้ป่วยนอก แยกออกจากผู้ป่วยทั่วไปเหมือนระลอกแรก มีจุดตั้งเจลแอลกอฮอล์ล้างมือและคำแนะนำประชาชนในการป้องกันไข้หวัดใหญ่ 2009 ทั้งบุคลากรที่ให้บริการและผู้ป่วยจะต้องสวมหน้ากากอนามัย เพื่อลดการแพร่กระจายเชื้อ รวมทั้งหญิงตั้งครรภ์ที่ไปฝากครรภ์ที่โรงพยาบาล ก็ต้องคาดหน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันการติดเชื้อด้วย