อย.ร่วมกับบก.ปคบ.บุกทลายโรงงานผลิตอาหารเสริมปลอมรายใหญ่ ยึดของกลางมูลค่ากว่า20 ล้านบาท ตั้ง 3 ข้อหา ทั้งโรงงานเถื่อน ผลิตอาหารปลอม และโฆษณาอวดอ้าง โทษทั้งจำคุกและปรับ
วันที่ 28 ธ.ค.ที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา(อย.)นายวิทยา แก้วภราดัย รมว.สาธารณสุข พร้อมด้วยนพ.พิพัฒน์ ยิ่งเสรี เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา และ พล.ต.ต.จตุรงค์ ภุมรินทร์ ผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (ผบก.ปคบ.) แถลงข่าวการจับกุมโรงงานลักลอบผลิตอาหารเสริมรายใหญ่ มูลค่า กว่า 20 ล้านบาท
นายวิทยา กล่าวว่า สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้รับการร้องเรียน แจ้งเบาะแสจากผู้บริโภค ว่า มีโรงงานต้องสงสัยลักลอบผลิตผลิตภัณฑ์เสริมอาหารปลอม จึงได้ประสานงานกับตำรวจบก.ปคบ. สืบสวนข้อเท็จจริงในสถานที่ตามที่ได้รับแจ้งจนได้หลักฐานชัดเจนว่า มีการกระทำที่ผิดกฎหมายคือลักลอบผลิตผลิตภัณฑ์เสริมอาหารปลอมจริง จากนั้นในวันที่ 25 ธ.ค. 2552 อย.พร้อมกับตำรวจ บก.ปคบ. จึงได้นำหมายค้นศาลแขวงสมุทรปราการที่ 139/2552 ไปยังอาคารโรงงาน บริษัท แอ๊ดวานซ์ ไบโอโปรดักส์ จำกัด เลขที่ 50/13 หมู่ 20 ซอยบุญมีทรัพย์ ถนนบางพลี-ตำหรุ ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ พบสิ่งที่ผิดกฎหมายทั้งสิ้น 34 รายการ มูลค่ากว่า 20 ล้าน บาท
นายวิทยา กล่าวต่อว่า จากการตรวจสอบพบเป็นสถานที่ผลิตเข้าข่ายโรงงาน โดยพบวัตถุดิบสำหรับใช้ผลิตและบรรจุผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร วัตถุดิบสำหรับใช้ผลิตและบรรจุผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเช่น L- Glutathione (แอล-กลูตาไทโอน), L- Carnitine (แอล - คาร์นิทีน) โดยมีลักษณะเป็นผง ภาชนะบรรจุ กล่อง ฝา ฟอยด์ รวมทั้งผลิตภัณฑ์เสริมอาหารสำเร็จรูปที่มีลักษณะเป็นแคปซูล และบรรจุเป็นผลิตภัณฑ์สำเร็จรูป พร้อมจำหน่าย ในลักษณะขวด มีทั้งที่ไม่มียี่ห้อและมียี่ห้อ เช่น ยี่ห้อ เอชทีพี-คาร์บ 1 , ยี่ห้อ เอชพีที - คาร์บ 3 ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารดังกล่าวเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีการแสดงข้อความ บนฉลากโอ้อวดสรรพคุณเกินจริงว่า ลดความอ้วน กระชับสัดส่วน ลดการอักเสบของสิว ลดรอยดำด่างจากสิว ฝ้า กระ ริ้วรอย ทำให้ผิวขาวใส นอกจากนี้ยังพบผลิตภัณฑ์ยาแผนโบราณ ชื่อ อูชิง แคปซูล
"มีผู้ผลิตรายใหญ่อีก 1-2 รายที่อย.คอยเฝ้าระวังอยู่ หากยังดำเนินการผิดกฎหมายก็จะมีการกวาดล้างครั้งใหญ่ช่วงปีใหม่อย่างแน่นอน จึงขอแจ้งเตือนผู้ผลิตทุกรายที่ไม่แก้ไขปรับปรุงกระทำผิดอยู่ต้องถูกดำเนินคดีซึ่งการบุกทลายแหล่งผลิตและบรรจุผลิตภัณฑ์ผิดกฎหมายดังกล่าว จัดเป็นของขวัญปีใหม่ให้ แก่ผู้บริโภค มิให้มีผลิตภัณฑ์ที่ผิดกฎหมาย ไม่ปลอดภัย และหลอกลวงผู้บริโภควางจำหน่าย"นายวิทยากล่าว
ด้านนพ.พิพัฒน์ ยิ่งเสรี เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา(อย.) กล่าวว่า ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารดังกล่าว เป็นผลิตภัณฑ์ที่ อย.เคยร่วมมือกับตำรวจ บุกตรวจจับตามร้านค้าย่อยในห้างสรรพสินค้ามาแล้ว อีกทั้งได้ติดตามและสืบหาแหล่งผลิตมาเป็นเวลานาน จนจับได้แหล่งผลิต/บรรจุรายใหญ่นี้ โดยผู้ประกอบการดังกล่าว จะมีความผิดตามพระราชบัญญัติอาหาร และพระราชบัญญัติยา คือ 1. ข้อหาตั้งโรงงานผลิตอาหารเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 30,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ 2. ข้อหาไม่แสดงฉลากอาหารหรือแสดงฉลากอาหารไม่ถูกต้อง มีโทษปรับไม่เกิน 30,000 บาท 3. ข้อหาผลิตอาหารเพื่อจำหน่ายอาหารปลอม มีโทษจำคุกตั้งแต่ 6 เดือนถึง 10 ปี และปรับ ตั้งแต่ 5,000 - 100,000 บาท4. ข้อหาผลิตยาแผนโบราณโดยไม่ได้รับอนุญาต มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี และปรับไม่เกิน 5,000 บาท
เลขาธิการอย. กล่าวอีกว่า อย. จะนำตัวอย่างผลิตภัณฑ์ที่ผิดกฎหมายดัง ส่งตรวจวิเคราะห์ หากผลวิเคราะห์ปรากฏว่า ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวมีอันตรายอย่างอื่นอีก ผู้ประกอบการก็จะมีความผิดมากขึ้น เช่น กรณีผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร หากพบสิ่งที่เป็นอันตรายปนเปื้อน ก็จะถูกจัดเป็นอาหารไม่บริสุทธิ์ มีโทษเพิ่มขึ้น โดยต้องโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ทั้งนี้ อย.จะร่วมมือกับตำรวจ บก.ปคบ. ในการตรวจจับและดำเนินคดีตามกฎหมายกับผู้กระทำผิด อย่างไรก็ตาม ขอเตือนผู้บริโภคให้ระมัดระวังในการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์สุขภาพ โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มีการโฆษณาหรือมีการแสดงข้อความบนฉลากอวดอ้างสรรพคุณเกินจริง เช่น อ้างว่าทำให้ผิวขาวใส หรืออ้างว่า สามารถลดความอ้วนได้ อย่าได้หลงเชื่อซื้อมาบริโภคเป็นอันขาด เพราะนอกจากสิ้นเปลือง เงินทองโดยเปล่าประโยชน์แล้ว ยังอาจได้รับอันตรายจากส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์นั้น ซึ่งยังไม่ได้ผ่านการขออนุญาตจาก อย. โดยขอให้ผู้บริโภคเลือกซื้อผลิตภัณฑ์อาหารจากการ สังเกตรายละเอียดบนฉลากซึ่งต้องมีครบถ้วน โดยเฉพาะชื่อที่อยู่ของผู้ผลิต และมีเลขสารบบ อาหารในกรอบเครื่องหมาย อย.
ทั้งนี้ ขอความร่วมมือจากผู้บริโภคในการแจ้งเบาะแส เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์สุขภาพที่ผิดกฎหมาย หรือการพบเห็นโฆษณาผลิตภัณฑ์สุขภาพที่หลอกลวงผู้บริโภค โดยร้องเรียนแจ้งเบาะแสมายังสายด่วน อย. โทร 1556., โทร 0 2590 1556, อี เมล์ 1556@fda.moph.go.th, ตู้ปณ. 1556 ปณฝ. กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี 11004 หรือร้องเรียนที่ บก.ปคบ. ตู้ปณ. 459 ปณศ. สามเสนใน พญาไท กทม. 10400 เพื่อ อย. และ บก.ปคบ. จะได้ติดตามตรวจสอบและเฝ้าระวังอย่าง เข้มงวด รวมทั้งลงโทษสถานหนักแก่ผู้กระทำผิดกฎหมายต่อไป
