สกอ.พร้อมเข้าดูแลปัญหา “อุเทนฯ-ปทุมวัน” ดึงสภามหาวิทยาลัยแต่ละแห่งร่วมหาทางออกอย่างเร่งด่วนจริงจัง สั่งตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง ดูแลการสอนให้เป็นตามปกติ หากยากเกินคุมสั่งปิดเรียนชั่วคราวได้
นายสรรค์ วรอินทร์ รองเลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.) กล่าวถึงแนวทางแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย และสถาบันเทคโนโลยีปทุมวันว่า เรื่องดังกล่าวที่เกิดขึ้น สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) จะเข้าช่วยดูแลแก้ไขปัญหาทั้ง 2 สถาบัน โดยขอความร่วมมือจากสภามหาวิทยาลัย ให้เข้ามามีบทบาทในการแก้ไขปัญหามากขึ้น เนื่องจากที่ผ่านมา สภามหาวิทยาลัยทั้ง 2 แห่ง ไม่ได้เข้ามาร่วมแก้ปัญหาในเรื่องนี้ ทั้งๆ ที่ตามอำนาจหน้าที่แล้ว สภามหาวิทยาลัยมีอำนาจหน้าที่เต็มที่ ซึ่งหลังจากนี้ สภามหาวิทยาลัยทั้ง 2 แห่งต้องนำเรื่องความขัดแย้งที่เกิดขึ้นประชุมหารือแนวทางแก้ไขร่วมกัน เช่น แต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริง ถึงเหตุของปัญหาที่เกิดขึ้น ว่าใครเป็นฝ่ายผิดฝ่ายถูก โดยการแต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมานั้น หากให้ สกอ.เข้าร่วมด้วยก็ยินดี
“สภามหาวิทยาลัยต้องเข้ามาบริหารจัดการให้ดำเนินการเรียนการสอนเป็นไปอย่างปกติ แต่หากสภามหาวิทยาลัยไม่สามารถแก้ไขปัญหาตามที่ได้ดำเนินการไว้ได้ ตามอำนาจสามารถสั่งปิดมหาวิทยาลัยชั่วคราว เพื่อไม่ให้กระทบต่อนักศึกษาผู้ที่ไม่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ สกอ.ได้มีการหารือร่วมกับสภามหาวิทยาลัยในการแก้ปัญหาแล้ว แต่การดำเนินการค่อนข้างล่าช้า ซึ่งการขอความร่วมมือในครั้งนี้ จะเป็นการเร่งรัดให้สภามหาวิทยาลัยตื่นตัว และแก้ปัญหาเรื่องนี้อย่างจริงจัง ตามอำนาจหน้าที่ของสภามหาวิทยาลัยที่สามารถกระทำได้” นายสรรค์กล่าว
รองเลขาฯ กกอ.กล่าวด้วยว่า ในการการแก้ไขปัญหาต้องแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนของการบริหารจัดการภายในมหาวิทยาลัย การดูแลนักศึกษา ดูแลนักศึกษาที่ไม่เกี่ยวข้องไม่ให้เกิดอันตราย ได้เรียนตามปกติ ซึ่งทาง สกอ. สภามหาวิทยาลัย อธิการบดี และคณาจารย์ จะต้องร่วมกันเข้าไปบริหารจัดการ เพื่อให้เป็นไปตามระเบียบ วินัยของมหาวิทยาลัย และตามมาตรการที่วางไว้ อาทิ ช่วยสอดส่องดูแลนักศึกษาทั้งหมด ปิดมหาวิทยาลัยหลังเลิกเรียน เพื่อไม่ให้นักศึกษากลุ่มหัวโจกเข้าไปใช้สถานที่ได้ เป็นต้น
ส่วนเรื่องของการใช้อาวุธความรุนแรงที่เกิดขึ้น จะขอความร่วมมือจากเจ้าหน้าที่ตำรวจในการดำเนินการติดตาม และจับกุมให้เป็นไปตามกฎหมาย เพื่อจับผู้ที่กระทำผิดมาลงโทษ และเกิดความสงบเรียบร้อย