“พรหมสวัสดิ์” เผยขอยืดเวลาส่งข้อมูลสเปกครุภัณฑ์อาชีวะให้สำนักงบฯ ถึงม.ค.53 พร้อมเร่งปรับครุภัณฑ์ให้เหมาะสม เน้นโปร่งใส ไม่มียัดเยียด ระบุแม่ข่ายระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ ต้องจัดซื้อจากส่วนกลาง ส่วนปลายทางให้วิทยาลัยจัดซื้อเอง ลั่นไม่มีร้านค้านำของค้างสต็อกมาขายให้ เตรียมส่งทีมลงติดตาม หากซื้อไปไม่ได้ใช้วิทยาลัยต้องรับผิดชอบ
นายพรหมสวัสดิ์ ทิพย์คงคา เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (กอศ.) เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ ได้หารือกับสำนักงบประมาณเกี่ยวกับการกำหนดสเปกครุภัณฑ์ตามโครงการภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง แผนฟื้นฟูเศรษฐกิจระยะที่ 2 หรือ SP2 ของวิทยาลัยในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา(สอศ.) โดยได้ขอยืดระยะเวลาการส่งข้อมูลไปเป็นกลางเดือนมกราคม 2553 เช่นเดียวกับกระทรวงอื่นๆ ที่รัฐมนตรีที่กำกับดูแลไปขอมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยในระหว่างนี้จะมีการปรับปรุงสเปกให้มีความเหมาะสมอีกครั้งตามที่นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รมว.ศึกษาธิการกำชับ ว่าจะต้องดำเนินการด้วยความโปร่งใส อะไรที่ไม่ใช่ความต้องการของวิทยาลัยก็ไม่ต้องยัดเยียดให้ และเมื่อดำเนินการเสร็จแล้วก็จะนำข้อมูลลงเผยแพร่ทางเว็บไซต์เพื่อให้ร้านค้า บริษัท และเอกชนต่างๆ เข้ามาวิจารณ์ จากนี้นก็จะเปิดให้เคาะราคาประมูลต่อไป
นายพรหมสวัสดิ์ กล่าวต่อว่า สำหรับการจัดซื้อจะให้ไปดำเนินการที่วิทยาลัย แต่จะมีบางรายการที่เป็นรายการขนาดใหญ่ เช่น รายการที่เกี่ยวกับเทคโนโลยีสารสนเทศที่แม่ข่ายจะต้องจัดซื้อจากส่วนกลาง ขณะที่ลูกข่ายจะซื้อที่วิทยาลัย แต่ทั้งนี้หากจัดซื้อแยกแล้วไม่ได้ตามคุณลักษณะที่ต้องการก็อาจต้องมาซื้อรวมที่ส่วนกลาง ส่วนที่ รมว.ศึกษาธิการกำชับว่าจะต้องไม่ยัดเยียดสิ่งที่วิทยาลัยไม่ต้องการนั้น ส่วนหนึ่งยืนยันว่าตรงความต้องการของวิทยาลัย แต่อีกส่วนหนึ่งจำเป็นต้องจัดให้ แม้วิทยาลัยไม่ต้องการ เพราะขณะนี้อาชีวะได้แบ่งกลุ่มสถาบันออกเป็น 19 กลุ่มสถาบัน ดังนั้นจึงจำเป็นต้องจัดสรรครุภัณฑ์ไปให้ เพื่อพัฒนาศักยภาพของแต่ละกลุ่มให้บรรลุวัตถุประสงค์
“จากข่าวที่บอกว่าร้านค้าบางแห่งเตรียมที่จะนำสินค้าค้างสต็อกมาจำหน่ายให้กับวิทยาลัยนั้น ผมจะไม่ยอมให้มีการจัดซื้อสินค้าที่ค้างสต็อกที่ไม่ตรงกับความต้องการของวิทยาลัย และเมื่อจัดซื้อแล้วจะมีการตั้งคณะกรรมการออกไปติดตามด้วยว่าวิทยาลัยได้ใช้ครุภัณฑ์เหล่านั้นหรือไม่ ซึ่งถ้าไม่ใช้วิทยาลัยก็ต้องรับผิดชอบ ทั้งนี้ในเรื่องดังกล่าวจะมีการจับตาเป็นพิเศษเนื่องจากในครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่ สอศ.ได้รับงบประมาณเกือบหมื่นล้านบาท ซึ่งที่ผ่านมาได้รับเพียงไม่กี่พันล้านบาท ทั้งนี้หากฝ่ายค้านจะหยิบยกประเด็นนี้มาอภิปรายเชื่อว่าทางอาชีวะจะสามารถอธิบายได้” เลขาฯ กอศ.กล่าว