กทม. จับมือหอการค้าไทย ชวนคนกรุงเทพฯ ย้อนรำลึกถึงประวัติศาสตร์ 227 ปีกรุงรัตนโกสินทร์ใต้ร่มเงา 9 รัชกาล ชมความงดงามของร้านค้าและบ้านเมืองที่ยังตราตรึงอยู่ในความทรงจำ ในงาน “ย้อนยุครัตนโกสินทร์ 2552” ระหว่างวันที่ 23-27 ธ.ค.นี้ ที่ลานคนเมือง หวังบรรจุเป็นกิจกรรมท่องเที่ยวประจำปี "สุขุมพันธุ์" ไม่หวั่นหากมีชุมนุมม็อบแดง
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร(กทม.) เป็นประธานแถลงข่าวการจัดงาน “ย้อนยุครัตนโกสินทร์ 2552” โดยมีนายดุสิต นนทะนาคร ประธานกรรมการหอการค้าไทย และนายฉัตรชัย บุญรัตน์ ประธานคณะกรรมการอำนวยการจัดงาน ร่วมงาน ณ ห้องรัตนโกสินทร์ ศาลาว่าการกทม. โดยม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวว่า กทม. ร่วมกับ หอการค้าไทย ซึ่งถือเป็นตัวแทนของภาคเอกชนที่สำคัญ จัดงาน “ย้อนยุครัตนโกสินทร์ 2552” ขึ้นระหว่างวันที่ 23 - 27 ธ.ค.2552 บริเวณลานคนเมือง ศาลาว่าการกทม. ตั้งแต่เวลา 16.00 – 23.00 น. ทั้งนี้ในโอกาสครบรอบ 227 ปี ใต้ร่มพระบรมโพธิสมภารแห่งราชวงศ์จักรีทั้ง 9 รัชกาล สื่อถึงการเปลี่ยนแปลงของเมืองหลวงสยามประเทศในอดีต ทั้งด้านศิลปวัฒนธรรม ความเป็นอยู่ วิถีชีวิต และธุรกิจการค้า โดยจำลองบรรยากาศในอดีต จัดแสดงแสงสีเสียงอย่างสวยงาม เพื่อย้อนรำลึกถึงความเจริญของบ้านเมือง ความงดงามของห้างร้านที่ยังคงอยู่ในความทรงจำของคนไทยไม่เสื่อมคลาย และให้ชาวไทยได้ย้อนรำลึกถึงประวัติศาสตร์ ขนบธรรมเนียมประเพณีอันดีงาม ซึ่งปีนี้ถือเป็นปีแรก โดยตั้งใจให้เป็นงานประจำปีที่ส่งเสริมการท่องเที่ยวกรุงเทพฯ เพื่อประชาสัมพันธ์กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นเมืองหลวงที่เก่าแก่และมีวัฒนธรรม ขนบธรรมเนียมประเพณีที่งดงาม จนได้รับเลือกให้เป็นเมืองท่องเที่ยวที่ดีที่สุดในทวีปเอเชีย และเป็นเมืองน่าท่องเที่ยวอันดับ3 ของโลก ทั้งนี้ เพื่อให้การจัดงานดังกล่าวเป็นที่สนใจของคนทั่วโลก กทม.จึงมีแนวคิดจะบรรจุกิจกรรมนี้ไว้ในปฏิทินกิจกรรมประจำปี เพื่อให้ผู้คนจากทั่วทุกมุมโลกมาเยี่ยมชมทุกปี
สำหรับการจัดงานแบ่งเป็น 6 โซน ได้แก่ โซนที่ 1 ตำนานคู่แผ่นดิน Hall of Fameร่วม ชื่นชมประวัติศาสตร์อันยาวนานของบริษัท ห้างร้านต่างๆ ที่ตั้งอยู่ในกรุงรัตนโกสินทร์ โดยจะนำสินค้าที่มีในประวัติศาสตร์ที่เติบโตมาพร้อมกับความเจริญของบ้านเมืองมาจัดแสดง อาทิ บริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด (มหาชน) บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) โรงพยาบาลศิครินทร์ บริษัท สหพัฒนพิบูล จำกัด (มหาชน) และบริษัท มาลี สามพราน จำกัด เป็นต้น โซนที่ 2 การจัดแสดงรถยนต์โบราณ โดยจัดแสดงรถยนต์โบราณหลากหลายรุ่น หลากหลายแบบ เพื่อให้ผู้เข้าชมงานได้ร่วมถ่ายภาพเป็นที่ระลึก โซนที่ 3 กรุงเก่าเล่าเรื่อง ร่วมรำลึกถึงอดีตอันน่าประทับใจของกทม.โดยเชิญผู้ทรงคุณวุฒิต่างๆ มาเล่าเรื่องราวในอดีตที่น่าประทับใจระหว่างเวลา 16.00-18.00 น. ณ ห้องรัตนโกสินทร์ ศาลาว่าการกทม. โซนที่ 4 ตลาดโบราณ ตำนานแผ่นดิน ร่วมย้อนบรรยากาศตลาดโบราณที่สื่อให้เห็นถึงการค้าขายสินค้าต่างๆ อาทิ ร้านอาหาร เครื่องดื่ม ขนมโบราณ สมุนไพร เครื่องใช้สอย ของที่ระลึก และของตกแต่งบ้านต่างๆ โซนที่ 5 ลานการแสดงมหรสพ จะมีการจัดแสดงทั้งมหรสพหลวง และศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้าน รวมถึงการเดินพาเหรดในชุดแต่งกายตามยุคสมัยต่างๆ โซนที่ 6 สินค้าพื้นบ้านจากทุกเขตของกรุงเทพมหานคร เป็นโซนที่นำสินค้าที่มีชื่อเสียงของทุกเขตในกรุงเทพฯ มารวบรวมให้ผู้เข้าชมงานได้เที่ยวชมและจับจ่ายใช้สอย พร้อมเพลิดเพลินไปกับสินค้าที่มีให้คุณเลือกหลากหลายอีกมากมาย
นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมที่น่าสนใจอีกมากมาย อาทิ กิจกรรมเสวนากาแฟ “ย้อนยุครัตนโกสินทร์” อีกทั้งยังมีการแสดงจากศิลปิน นักร้อง นักแสดงมากมายบนเวทีใหญ่ที่มาร่วมให้ความบันเทิงในแต่ละวัน อาทิ คุณเศรษฐา ศิระฉายา, คุณวินัย พันธุรักษ์, คุณชมพู ฟรุตตี้, อ๊อฟ ปองศักดิ์ และหนิม Academy Fantasia, ศิลปินสยาม แกลอรี่ จากจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่, การแสดงโขนชุด “รามเกียรติ์” และ “พระอภัยมณี” สัมผัสบรรยากาศแสง สี เสียง และถ่ายภาพที่ระลึกได้ทุกค่ำคืน ร่วมชมนิทรรศการ ขบวนรถโบราณ และร้านค้าชื่อดังในอดีต พร้อมเลือกซื้ออาหาร ขนมโบราณ ของที่ระลึก และสินค้าพื้นบ้านจากทุกเขตของกรุงเทพมหานคร โดยจะมีพิธีเปิดอย่างเป็นทางการในวันพุธที่ 23 ธ.ค.52 เวลา 18.00 น. ณ ลานคนเมือง ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (เสาชิงช้า)
ผู้สื่อข่าวถามด้วยว่า หากในช่วงดังกล่าวมีการจัดชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดงจะมีการยกเลิกการจัดงานหรือไม่ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวว่า อย่ามองโลกในแง่ไม่ดี ต้องมองในแง่บวกซึ่งหากกิจกรรมดังกล่าวเป็นกิจกรรมที่ดีก็ต้องเดินหน้าต่อไปจึงอยากขอเชิญชวนให้ประชาชนชาวกทม.และที่มาจากต่างจังหวัดในช่วงดังกล่าวมาเที่ยวงานย้อนยุคในครั้งนี้ นอกจากนี้ ในวันพรุ่งนี้(4ธ.ค.) เวลา 18.00 น. อยากขอเชิญชวนพี่น้องชาวกทม.ทุกคนร่วมกันร้องเพลงชาติ ณ สนามศุภชลาศัยอย่างพร้อมเพรียงกัน