ศธ.ของขึ้น ออกโรงโต้ “เด็จพี่” ที่ก่อนหน้านี้ควงคู่ “ดร.สิงห์ทอง” ออกมาแถลงข่าวเท็จอ้างคณะทำงานติดตามงบไทยเข้มแข็ง ศธ.พบความไม่ชอบมาพากลและส่อใช้งบในทางทุจริต ระบุ 2 โครงการที่ถูกกล่าวหายังอยู่ในขั้นขอเสนออนุมัติงบฯ อัดยับอย่าแถลงแบบไม่มีหลักฐาน ถ้ามีให้ส่งมายังกระทรวง ซัด 2 หนแล้วที่แถลงเท็จ พยายามติดต่อขอหลักฐานไปที่พรรคก็ติดต่อไม่ได้
จากกรณีที่ นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย และ ดร.สิงห์ทอง บัวชุม ร่วมกันแถลงเมื่อวานนี้ (29 พ.ย.) ว่าคณะทำงานติดตามการใช้งบไทยเข้มแข็งพบว่าเกิดความไม่ชอบมาพากลของโครงการไทยเข้มแข็งของกระทรวงศึกษาธิการ ในการใช้งบประมาณจากโครงการส่อไปในทางทุจริตในการจัดซื้อครุภัณฑ์กว่า 282,090,000 บาท โดยเฉพาะโครงการพัฒนาครูทั้งระบบ ในการจัดซื้อครุภัณฑ์ เครื่องคอมพิวเตอร์พร้อมอุปกรณ์ จำนวน 200 ชุด งบประมาณ 8,250,000 และโครงการลงทุนด้านการศึกษาและการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์มีการจัดซื้อครุภัณฑ์วิทยาศาสตร์/คณิตศาสตร์ จำนวน 1,694 โรงเรียนงบประมาณ 37,200,000 บาท และห้องเรียนวิทยาศาสตร์จำนวน 1,911 โรงเรียน งบประมาณ 236,640,000 บาท รวมทั้งสิ้นงบประมาณ 282,090,000 บาท ซึ่งทั้ง 2 โครงการได้ลงนามสัญญาเมื่อไตรมาส 1 เดือนตุลาคม ที่ผ่านมา
นายบุณย์ธีร์ พานิชประไพ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ชี้แจงว่า ทั้ง 2 โครงการอยู่ระหว่างการเสนอขออนุมัติงบประมาณ ยังไม่ได้อนุมัติแต่อย่างใด ทั้งนี้ ตนได้โทรศัพท์ติดต่อไปยังนายพร้อมพงศ์ แต่ติดต่อไม่ได้ จึงฝากความข้อความ รวมทั้งได้ติดต่อไปยังสำนักงานโฆษกเพื่อไทย เพื่อขอข้อมูล หลักฐาน แต่เจ้าหน้าที่แจ้งว่าไม่มี มีอยู่ที่นายพร้อมพงศ์ ถ้าอย่างนั้นตนฝากผ่านสื่อมวลชนให้นำข้อมูลมาส่งให้กระทรวง จะได้ดำเนินการแก่ผู้กระทำผิดตามกฎหมาย
“2 ครั้งแล้วที่เปิดแถลงข่าวเรื่องทุจริตโครงการไทยเข้มแข็ง ตรงนี้สร้างความเสียหายให้แก่กระทรวงศึกษาธิการ และได้พยายามติดต่อนายพร้อมพงศ์หลายครั้งเพื่อขอข้อมูล แต่ไม่เคยติดต่อได้เลย วันนี้ขอหลักฐานผ่านสื่อมวลชนว่า ให้นำหลักฐานมาให้ด้วย ไม่ใช่แถลงกันลอยๆ โดยไม่มีหลักฐาน”
ต่อข้อซักถามที่ว่า การแถลงข่าวลักษณะดังกล่าวทำให้ภาพลักษณ์กระทรวงเสียหาย จะมีการฟ้องกลับหรือไม่ นายบุณย์ธีร์กล่าวว่า คงต้องหารือกันก่อน
ด้านนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า นายพร้อมพงศ์ มีการแถลงข่าวลักษณะนี้ 3 ครั้งแล้ว ทุกครั้งไม่เคยมีการส่งข้อมูลมาให้กระทรวง ทั้งๆ ที่ได้มีการประสานงานติดต่อข้อมูลไปทุกครั้ง ครั้งนี้มอบหมายให้ผู้แทนกระทรวงไปพบโฆษกเพื่อไทย เพื่อขอข้อมูล เพราะว่ามีการกล่าวหาว่ามีการทุจริต ตนถือว่าเป็นเรื่องใหญ่ กระทรวงต้องให้ความสนใจ ถ้าสมมติว่าสิ่งที่พูดเป็นจริง ขอให้ส่งข้อมูลมา หากมั่นใจว่ามีข้อมูลจริงแล้วไปเก็บไว้และไม่ส่งให้กระทรวง ถือว่าร่วมมือก่อการทุจริต จึงขอความกรุณาให้ข้อมูลด้วย ถ้าเป็นเรื่องจริงตนจะจัดการตามกฎหมาย เพราะมีนโยบายชัดเจน ไม่ต้องการเห็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง และที่ผ่านมาแม้ยังไม่มีกรณีที่สอบสวนได้ผลชัดเจน แค่ส่อทุจริต ได้มีการโยกย้าย 3 รายระดับเขตพื้นที่ ดังนั้นไม่ต้องห่วงว่าให้ข้อมูลแล้วไม่จัดการอะไร ขอให้เป็นข้อมูลจริงๆ เหตุผลที่ประสานงานขอข้อมูลเพราะไม่ต้องการให้กล่าวหาลอยๆ และสร้างความเสียหายให้กับกระทรวง และกลายเป็นเรื่องตีพิมพ์ทางการเมือง