กทม.จัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 82 พรรษา 5 ธ.ค.ระหว่างวันที่ 3-7 ธ.ค.นี้ ณ บริเวณลานพลับพลามหาเจษฎาบดินทร์ ร่วมชื่นชมพระบารมีผ่านนิทรรศการ มัลติมีเดียเทิดพระเกียรติ และการแสดง เพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณที่มีต่อประชาชนชาวไทยอย่างหาที่สุดมิได้ พร้อมร่วมลงนามถวายพระพรและรับโปสการ์ดที่ระลึกวันละ 10,000 ฉบับ
วันนี้ (26 พ.ย.) ณ ห้องเจ้าพระยา ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯกทม.เป็นประธานแถลงข่าวการจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 82 พรรษา 5 ธันวาคม 2552 อย่างยิ่งใหญ่ ทั้งนิทรรศการ มัลติมีเดียเทิดพระเกียรติ และการแสดงแสง สี เสียง ตระการตา ภายใต้ชื่องาน “พระบารมีจรัสหล้า” ระหว่างวันที่ 3-7 ธันวาคม 2552 ณ ลานพลับพลามหาเจษฎาบดินทร์ ถนนราชดำเนินกลาง เพื่อให้ประชาชนได้ร่วมเฉลิมพระเกียรติ และรวมใจ รวมพลัง ถวายพระพร
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวว่า กิจกรรมสำคัญภายในงาน ประกอบด้วย นิทรรศการพระราชประวัติและพระราชกรณียกิจพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มัลติมีเดียเฉลิมพระเกียรติ การแสดงแสง เสียง และสื่อผสม โดยนิทรรศการจะแบ่งออกเป็น 9 โซน ประกอบด้วย โซนที่ 1 ซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ “กรุงเทพนคราสดุดี” บริเวณทางเข้างานซึ่งประดับตกแต่งอย่างสวยงามยิ่งใหญ่ พร้อมอัญเชิญ พระมหาพิชัยมงกุฎมาประดิษฐานอยู่เหนือสุดของซุ้ม โซนที่ 2 เรียกว่า “ผลึกบารมีนิรมิต” ตั้งอยู่บริเวณเวทีหน้าลาน พลับพลามหาเจษฎาบดินทร์ ซึ่งจัดทำเป็นผลึกแก้วขนาดใหญ่ โปร่งใส หมุนได้รอบทิศทาง สัญลักษณ์อันแสดงถึงความเจิดจรัสแห่งพระบารมีของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยภายในผลึกแก้ว จะฉายภาพพระบรมฉายาลักษณ์ ภาพพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และรางวัลแห่งเกียรติยศที่แสดงถึงการแซ่ซ้องสดุดีจากทั่วโลกให้ประชาชนได้ชื่นชมตลอดงาน โซนที่ 3 “ศาลาส่องใจราษฎร์” เป็นศาลาแห่ง “พระมหากรุณาธิคุณ” จะประมวลภาพแห่งความผูกพันของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงมีต่อสมเด็จพระบรมราชชนนี สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ โดยจัดแสดงในศาลารายทั้ง 3 หลัง โซนที่ 4 ใช้ชื่อว่า “พลับพลาประกายจรัสหล้า” แสดงการประกาศเกียรติคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ไปทั่วโลก แสดงภาพรางวัลและเหรียญเฉลิมพระเกียรติ ที่องค์กรระหว่างประเทศทูลเกล้าฯ ถวาย พร้อมทั้งประมวลภาพเหตุการณ์ฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี
โซนที่ 5 “ลานฉายพลังแห่งแผ่นดิน” ประดิษฐานพระบรมฉายาลักษณ์ขนาดใหญ่ กว้าง 1.8 เมตร สูง 5 เมตร และสวนโดยรอบจัดเป็นนิทรรศการบนเหลี่ยมเพชร ประมวลภาพพระราชกรณียกิจ 5 เรื่อง รวม 108 ภาพ โซนที่ 6 “ทรงเป็นแรงบันดาลใจ” จัดแสดงนิทรรศการโครงการและกิจกรรมอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ที่กรุงเทพมหานคร ได้น้อมนำ มาเป็นแนวทางการแก้ไขปัญหาและการพัฒนาเมืองในด้านต่างๆ โซนที่ 7 เป็น “หอภาพยนตร์เฉลิมพระเกียรติ” ฉายมัลติมีเดียเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เรื่อง “ในดวงใจไทยนิรันดร์” โดยจะฉายวันละ 9 รอบๆ 10 นาที ตั้งแต่เวลาประมาณ 15.00 น.เป็นต้นไป โซนที่ 8 เป็นการแสดงแสง เสียง และสื่อผสม เรื่อง “ฉายพลังแห่งแผ่นดิน” บริเวณ “ผลึกบารมีนิรมิต” นำเสนอเรื่องราวพระราชกรณียกิจที่ทรงคุณไพศาลแก่แผ่นดินไทย จัดแสดงเพียง 2 รอบ ในวันที่ 3 และ 5 ธ.ค.เวลา 18.30 น.และ โซนที่ 9 “จุดรวมใจถวายพระพร” เปิดให้ประชาชนรับบัตรเขียนคำถวายพระพร รูป“ดอกไม้เงิน-ดอกไม้ทอง” โดยสามารถนำไปประทับตราเพื่อรับโปสการ์ดที่ระลึก ซึ่งจัดพิมพ์เป็น 5 รูปแบบๆ ละ 10,000 ฉบับ รวม 50,000 ฉบับ เพื่อมอบให้แก่ผู้เขียนคำถวายพระพรวันละ 1 รูปแบบ นอกจากนี้ บริเวณลานพลับพลมหาเจษฎาบดินทร์ ยังมีการแสดงดนตรีเพลงพระราชนิพนธ์ และการแสดงศิลปวัฒนธรรมไทยหลากหลายรูปแบบ ระหว่างเวลา 17.00-22.00 น.ของทุกวัน เพื่อเทิดพระเกียรติและสร้างประทับใจให้กับผู้เข้าชมงานด้วย โอกาสนี้ตนขอเชิญชวนพสกนิกรชาวไทยทุกคนร่วมถวายพระพระและแสดงความจงรักภักดีเนื่องในโอกาสมหามงคลนี้