ผู้ว่าฯ กทม.เผยการเปิดรับฟังเสียงประชาชนตอบรับโครงการจัดทำแผนฟื้นฟูและพัฒนาเส้นทางเดินเรือย่านฝั่งธนบุรี เพื่อการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ โดยจะนำร่อง 2 โครงการในปี 2553 ได้แก่ ท่าเรือวังหลัง-พรานนก และท่าเรือตลิ่งชัน ใช้งบประมาณราว 60 ล้านบาท
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) นำคณะรองผู้ว่าฯ กทม. คณะที่ปรึกษาผู้ว่าฯกทม.และ ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ เขต 12 ลงเรือที่ท่าเรือบางกอกน้อย ก่อนล่องเรือตรวจสภาพคลอง และขึ้นไปร่วมเวทีประชาคมตลาดน้ำตลิ่งชัน ซึ่งเปิดรับฟังความคิดเห็นของประชาชนในโครงการจัดทำแผนฟื้นฟูและพัฒนาเส้นทางเดินเรือย่านฝั่งธนบุรีเพื่อการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ โดยเสียงของชาวบ้านส่วนใหญ่กล่าวสนับสนุนโครงการที่จะเป็นประโยชน์ด้านการจราจรและการท่องเที่ยวทางน้ำ แต่เป็นห่วงการพัฒนาจะทำแต่จุดใหญ่ๆ และทำให้พื้นที่บางจุดกลายเป็นที่ตาบอด การพัฒนาเข้าไปไม่ถึง
ผู้ว่าฯ กทม.กล่าวว่า การพัฒนาโครงการฯ จะมีการดำเนินการต่อเนื่อง แม้จะหมดวาระดำรงตำแหน่งไปแล้ว แต่แผนการพัฒนา ฟื้นฟูและปรับปรุงภูมิทัศน์ในจุดต่าง ๆ จะมีอยู่ เพียงแต่ในระยะแรกต้องทำในจุดใหญ่ ๆ ก่อน ซึ่งโรงการพัฒนานำร่อง ได้แก่ ท่าเรือวังหลัง-พรานนก โดยจะก่อสร้างอาคารท่าเรือ 2 ชั้น และจุดชมทิวทัศน์ พัฒนาถนนคนเดิน และทางเดินริมน้ำ เริ่มดำเนินการในปี 2553 ใช้งบประมาณ 45 ล้านบาท และท่าเรือตลิ่งชัน จัดโซนนิ่งริมน้ำใหม่ พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกบริเวณท่าเรือ ปรับปรุงถนนคนเดิน สร้างทางเดินริมน้ำ และปรับปรุงเรือนแพ งบประมาณ 15 ล้านบาท
ผู้ว่าฯ กทม.กล่าวด้วยว่า ในระหว่างนี้ สำนักการจราจรและขนส่ง กทม.ซึ่งเป็นหน่วยงานรับผิดชอบ ยังเปิดรับฟังความเห็นของประชาชนผ่านเว็บไซต์ www.smilefuncthon.com และทางไปรษณียบัตร โดยส่งผ่านตู้ ปณ.321 บางกอกน้อย กรุงเทพฯ 10700 เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่ศึกษา 6 เขตและต่อเนื่อง ได้แก่ เขตบางกอกน้อย บางกอกใหญ่ บางพลัด ตลิ่งชัน ทวีวัฒนา และเขตภาษีเจริญ ได้มีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็นต่อโครงการเป็นระยะ ๆ เพื่อนำไปประกอบการจัดทำแผนแม่บท ซึ่งเป็นที่ยอมรับของทุกฝ่าย.
