“มาร์ค” เปิดเวทีสิทธิเด็ก ครั้งที่ 20 สัญญา สานนโยบายรัฐปฏิบัติให้เป็นรูปธรรม เพื่อเด็กและเยาวชน เผยมุ่งเน้นด้านการศึกษา บริการ สาธารณสุข การคุ้มครองสิทธิ และการมีส่วนร่วม พร้อมรับ รางวัลทูตพิทักษ์สิทธิเด็ก สาขานักการเมือง
เมื่อเวลา 09.30 น.ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวเปิดเวทีสิทธิเด็ก หัวข้อเรื่อง “20ปีอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก สังคมไทยได้อะไร” ในตอนหนึ่ง ว่า การทำงานเรื่องเด็กและเยาวชนจำเป็นต้องอาศัยทุกภาคส่วนในสังคม ไม่ว่าจะเป็นชุมชน โรงเรียน สถาบันการศึกษา สถาบันศาสนา หน่วยงานด้านสุขภาพ และสวัสดิการ องค์กรระหว่างประเทศ ภาคธุรกิจ เอกชน และรัฐบาล รวมถึงบรรดาเด็กและเยาวชนที่ตั้งองค์กรขึ้นมาเป็นการเฉพาะเพื่อทำประโยชน์ให้ประเทศอย่างต่อเนื่อง และการทำงานที่ช่วยกำหนด นโยบายด้าน กฎหมาย และนโยบายที่ต้องนำไปสู่การปฏิบัติเป็นรูปธรรมชัดเจน
โดยนายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ในฐานะหัวหน้าฝ่ายบริหารมีความตั้งใจดูแลนโยบายที่เกี่ยวข้องกับสังคม เด็ก เยาวชนด้วยตัวเอง และพยายามขับเคลื่อนให้นโยบายที่เกี่ยวข้องกับทั้งเด็กและเยาวชนให้เป็นนโยบายที่เอื้อ และเป็นมิตรต่อสภาวะแวดล้อมในการพัฒนาเด็กและบุคคลากรของชาติต่อไป
ในโอกาสนี้ นายอภิสิทธิ์ยังได้ รับคัดเลือกเป็น “ทูตพิทักษ์สิทธิเด็ก ปี 2552” อีกด้วย และยังเป็นผู้มอบรางวัลทูตพิทักษ์สิทธิเด็กสาขาต่างๆ ให้แก่ผู้ได้รับรางวัลสาขาต่างๆ ได้แก่ สาขานักการเมือง นายมณเฑียร บุญตัน สาขาศาสนา พระปัญญานันทมุนี (สง่า สุภโร ณ ระนอง) บาทหลวงโจเซฟ เอช ไมเออร์ สาขาข้าราชการ นายจรัญ ภักดีธนากุล คุณหญิงกษมา วรวรรณ ณ อยุธยา สาขานักพัฒนาเอกชน นายเกื้อ แก้วเกต นางสุวรรณี วัดหนู สาขาสื่อมวลชน นางเกียรติสุดา ภิรมย์ นายสุริยนต์ จองลีพันธ์ สาขาประชาสังคม นายศุภชัย สถีรศิลปิน น.ส.ศิริพร ปัญญาเสน สาขาธุรกิจ คุณหญิงชดช้อย โสภณพนิช นายบัณฑูร ล่ำซำ
ต่อมาเมื่อเวลา 10.45 น. นายอภิสิทธิ์ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่เด็กสะท้อนให้รัฐบาลช่วยดูแลปัญหาเด็กเยาวชนในโอกาสที่นายกฯเป็นประธานพิธีเปิดโครงการเวทีสิทธิเด็ก ครั้งที่ 20 ว่า งานที่เกี่ยวข้องกับเด็กและเยาวชนจริงๆแล้วผลักดันคืบหน้าไปพอสมควร แต่ก็ยังมีปัญหาที่ทำให้ต้องทำงานหนักขึ้นด้วย ข้อเท็จจริงที่สภาพสังคมเปลี่ยนแปลงไปและทำให้ปัญหาหลายอย่างย้อนกลับเข้ามา ตั้งแต่เรื่องเด็กเล็กคือเรื่องความพร้อมของครอบครัวที่เกิดขึ้นใหม่อันนี้เป็นสิ่งที่ท้าทายที่สุด
สำหรับปัญหาอื่นๆ โดยเฉพาะการดูแลเรื่องการศึกษา บริการ สาธารณสุข การคุ้มครองสิทธิ การมีส่วนร่วมเรื่องหล่านี้ค่อนข้างมีความก้าวหน้าไปมาก มีเครื่องมือเครื่องไม้ มีเวที มีกลไกใหม่ๆ เยอะ แต่สิ่งที่ห่วงคือเด็กเล็กและครอบครัวใหม่