วธ.ชวนประชาชนลอยกระทงอธิษฐานน้อมใจถวายพระพร “ในหลวง” ให้ทรงหายจากพระอาการประชวร พร้อมแนะ 12 ข้อควรทำในงานลอยกระทงในมิติวัฒนธรรมความปลอดภัย
วันนี้ (21 ต.ค.) ที่สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ (สวช.) นายธีระ สลักเพชร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) กล่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ (กวช.) ได้มีการหารือกรอบการดำเนินการจัดงานสืบสานคุณค่าประเพณีวันลอยกระทง ประจำปี 2552 โดยมีความเห็นตรงกันว่า ในปีนี้วธ.โดยสำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ จะเป็นเจ้าภาพหลักในการจัดงานวันลอยกระทง ภายใต้ชื่อ “ลอยกระทงอธิษฐาน น้อมใจถวายพระพร” เพื่อเป็นการให้ประชาชนคนไทยทั่วประเทศ ได้น้อมรำลึกตั้งจิตอธิษฐาน ขอพรจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ถวายแด่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ให้ทรงมีพระพลานามัยแข็งแรง หายจากพระอาการประชวรโดยเร็ว และขอให้พระองค์ทรงมีพระชนมายุยิ่งยืนนาน
รมว.วัฒนธรรม กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้มีการกำหนดแนวทางที่พึงปฏิบัติเพื่อสืบสานประเพณีลอยกระทง และให้อยู่ภายใต้มิติวัฒนธรรมความปลอดภัย เพื่อบูรณาการให้ทุกภาคส่วนทั่วประเทศเตรียมพร้อมปฏิบัติตามให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน ดังนี้ 1.การประชาสัมพันธ์เชิญชวนให้ประชาชนชาวไทย ร่วมในลอยกระทงอธิษฐาน น้อมใจถวายพระพร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 2.หน่วยงานภาครัฐและเอกชนควรเชิญชวน และส่งเสริมให้ประชาชน นักเรียน นักศึกษา เห็นความสำคัญของเทศกาลลอยกระทง โดยชี้ให้เห็นว่าเป็นประเพณีที่สำคัญของไทย 3.เชิญชวนให้มีการประกวดการทำกระทง ในแง่ของการส่งเสริมวัฒนธรรมไทย เพื่อรักษาสิ่งแวดล้อม 4.สร้างภูมิคุ้มกัน คุณธรรมที่ดี ให้แก่คนในท้องถิ่น โดยการประชาสัมพันธ์นำเสนอประเด็น ข้อมูลและพฤติกรรมของบุคล หน่วยงานต่างที่เป็นต้นแบบที่ดี 5.ควรจัดงานลอยกระทงด้วยความประหยัด และเหมาะสม ไม่ควรจัดมหรสพสมโภชจนเกินความจำเป็น หรือ ทำให้สิ้นเปลือง
6.รณรงค์ให้ประชาชนไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และสิ่งเสพติดต่างๆ เพื่อลดอุบัติเหตุ การทะเลาะวิวาท และการถูกล่อลวงทางเพศ 7.รักษามารยาทและวัฒนธรรมอันดีของไทย ไม่ควรเล่นสนุกสนาน จนเกิดความคึกคะนองเกินขอบเขต จนเป็นเหตุให้เกิดความเดือดร้อนแก่ผู้อื่น 8.ช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม แม่น้ำลำคลอง 9. ระมัดระวังอันตรายและอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นจากการสัญจรทางน้ำ หรือการจุดพลุ ดอกไม้ไฟ 10.ควรตั้งจิตอธิษฐานให้แน่วแน่ ขณะลอยกระทง 11.พ่อแม่ผู้ปกครอง ควรอบรมสั่งสอนลูกหลาน ไม่ให้เห็นแก่ตัว โดยไปเก็บเงินหรือ สิ่งของจากกระทง เพราะจะเป็นการทำลายความรู้สึกและความศรัทธาของผู้ลอยกระทง และ12.เมื่อเทศกาลลอยกระทงผ่านไปแล้ว ควรมีการช่วยเก็บกวาดชิ้นส่วนของกระทงให้หมดสิ้น
วันนี้ (21 ต.ค.) ที่สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ (สวช.) นายธีระ สลักเพชร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) กล่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ (กวช.) ได้มีการหารือกรอบการดำเนินการจัดงานสืบสานคุณค่าประเพณีวันลอยกระทง ประจำปี 2552 โดยมีความเห็นตรงกันว่า ในปีนี้วธ.โดยสำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ จะเป็นเจ้าภาพหลักในการจัดงานวันลอยกระทง ภายใต้ชื่อ “ลอยกระทงอธิษฐาน น้อมใจถวายพระพร” เพื่อเป็นการให้ประชาชนคนไทยทั่วประเทศ ได้น้อมรำลึกตั้งจิตอธิษฐาน ขอพรจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ถวายแด่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ให้ทรงมีพระพลานามัยแข็งแรง หายจากพระอาการประชวรโดยเร็ว และขอให้พระองค์ทรงมีพระชนมายุยิ่งยืนนาน
รมว.วัฒนธรรม กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้มีการกำหนดแนวทางที่พึงปฏิบัติเพื่อสืบสานประเพณีลอยกระทง และให้อยู่ภายใต้มิติวัฒนธรรมความปลอดภัย เพื่อบูรณาการให้ทุกภาคส่วนทั่วประเทศเตรียมพร้อมปฏิบัติตามให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน ดังนี้ 1.การประชาสัมพันธ์เชิญชวนให้ประชาชนชาวไทย ร่วมในลอยกระทงอธิษฐาน น้อมใจถวายพระพร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 2.หน่วยงานภาครัฐและเอกชนควรเชิญชวน และส่งเสริมให้ประชาชน นักเรียน นักศึกษา เห็นความสำคัญของเทศกาลลอยกระทง โดยชี้ให้เห็นว่าเป็นประเพณีที่สำคัญของไทย 3.เชิญชวนให้มีการประกวดการทำกระทง ในแง่ของการส่งเสริมวัฒนธรรมไทย เพื่อรักษาสิ่งแวดล้อม 4.สร้างภูมิคุ้มกัน คุณธรรมที่ดี ให้แก่คนในท้องถิ่น โดยการประชาสัมพันธ์นำเสนอประเด็น ข้อมูลและพฤติกรรมของบุคล หน่วยงานต่างที่เป็นต้นแบบที่ดี 5.ควรจัดงานลอยกระทงด้วยความประหยัด และเหมาะสม ไม่ควรจัดมหรสพสมโภชจนเกินความจำเป็น หรือ ทำให้สิ้นเปลือง
6.รณรงค์ให้ประชาชนไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และสิ่งเสพติดต่างๆ เพื่อลดอุบัติเหตุ การทะเลาะวิวาท และการถูกล่อลวงทางเพศ 7.รักษามารยาทและวัฒนธรรมอันดีของไทย ไม่ควรเล่นสนุกสนาน จนเกิดความคึกคะนองเกินขอบเขต จนเป็นเหตุให้เกิดความเดือดร้อนแก่ผู้อื่น 8.ช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม แม่น้ำลำคลอง 9. ระมัดระวังอันตรายและอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นจากการสัญจรทางน้ำ หรือการจุดพลุ ดอกไม้ไฟ 10.ควรตั้งจิตอธิษฐานให้แน่วแน่ ขณะลอยกระทง 11.พ่อแม่ผู้ปกครอง ควรอบรมสั่งสอนลูกหลาน ไม่ให้เห็นแก่ตัว โดยไปเก็บเงินหรือ สิ่งของจากกระทง เพราะจะเป็นการทำลายความรู้สึกและความศรัทธาของผู้ลอยกระทง และ12.เมื่อเทศกาลลอยกระทงผ่านไปแล้ว ควรมีการช่วยเก็บกวาดชิ้นส่วนของกระทงให้หมดสิ้น
