“มานิต” ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยม มอบยา-รองเท้าบูต ให้ผู้ประสบภัยที่ อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา เผยในรอบ 14 วัน พบผู้ประสบภัยเจ็บป่วยกว่า 5,000 ราย พบโรคผิวหนัง ผื่นคัน น้ำกัดเท้ามากเป็นอันดับ 1 ที่ จ.พระนครศรีอยุธยา พบโรคตาแดง 409 ราย อยู่ในความควบคุมของเจ้าหน้าที่สาธารณสุขแล้ว พร้อมกำชับทุกจังหวัดเฝ้าระวังโรคหลังน้ำลด โดยเฉพาะโรคฉี่หนู และไข้เลือดออก
วันที่ 15 ตุลาคม นายมานิต นพอมรบดี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นพ.ทนงสรรค์ สุธาธรรม รักษาราชการแทนรองปลัดกระทรวงสาธารณสุข และคณะนำหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ประกอบด้วยแพทย์ เภสัชกร พยาบาล เจ้าหน้าที่สาธารณสุข ทีมควบคุมโรค นักจิตวิทยา องค์การเภสัชกรรม ลงพื้นที่ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยที่วัดฤาไชย อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา โดยมอบถุงยังชีพ 1,000 ชุด เวชภัณฑ์ ยาสามัญประจำบ้าน 1,500 ชุด ยาชุดน้ำท่วม 1,000 ชุด ยาหยอดตาแดง 300 ขวด สารส้ม 150 กิโลกรัม คลอรีนน้ำ 300 ขวด รองเท้าบู๊ทป้องกันโรคน้ำกัดเท้าและโรคฉี่หนู จำนวน 300 คู่
นายมานิต กล่าว่า จากสถานการณ์น้ำท่วม 24 จังหวัดที่ผ่านมา ในรอบ 14 วัน ตั้งแต่วันที่ 29 กันยายน 2552 เป็นต้นมา สธ.ได้ให้ทุกจังหวัดจัดหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ซึ่งจะมีทีมของแพทย์ตรวจรักษาโรคทั่วไป เจ้าหน้าที่ควบคุมโรค ทีมสุขภาพจิต และทีมดูแลด้านอนามัยสิ่งแวดล้อม ออกบริการพร้อมกันจำนวน 51 หน่วย เพื่อดูแลสุขภาพของผู้ประสบภัยอย่างดีที่สุดและรอบด้าน
ทั้งนี้ ผลการปฏิบัติงานตั้งแต่วันที่ 29 กันยายน - 14 ตุลาคม 2552 พบผู้เจ็บป่วยแล้ว 5,440 ราย โรคที่พบอันดับ 1 เกือบ 2 ใน 3 ของผู้ป่วยทั้งหมด ได้แก่โรคผิวหนัง ผื่นคัน น้ำกัดเท้า รองลงมาคือไข้หวัดพบร้อยละ 10 ปวดเมื่อยจากการขนของหนีน้ำมีร้อยละ 6 และพบเครียดนอนไม่หลับร้อยละ 4 กระทรวงสาธารณสุขได้ส่งยาสามัญประจำบ้านไปเสริมความช่วยเหลือจังหวัดต่างๆ แล้ว 6 แสนชุด งบกว่า 22 ล้านบาท
สำหรับที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีน้ำท่วมใน 10 อำเภอ คือบางบาล เสนา ผักไห่ พระนครศรีอยุธยา บางไทร บางปะอิน บางปะหัน นครหลวง มหาราช และบ้านแพรก ขณะนี้ทุกพื้นที่ระดับน้ำลดลงแต่กระทรวงสาธารณสุขยังจัดหน่วยแพทย์เคลื่อนที่บริการอย่างต่อเนื่องวันละ 26 ทีม พบผู้ป่วย 2,313 ราย ส่วนใหญ่เป็นโรคน้ำกัดเท้า และพบโรคตาแดง 409 ราย เนื่องจากสภาพน้ำท่วมขัง ไม่มีการไหลระบาย จึงทำให้มีการสะสมสิ่งสกปรกปนเปื้อนในน้ำ ได้ให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขควบคุมโรค แจกคลอรีนทั้งชนิดผงและน้ำ สารส้ม เพื่อปรับสภาพน้ำใช้ให้สะอาดและให้โรงพยาบาลศูนย์พระนครศรีอยุธยาผลิตขี้ผึ้งรักษาโรคน้ำกัดเท้า และสำรองยาหยอดตา ให้พื้นที่ และออกประชาสัมพันธ์ให้ความรู้ประชาชน ขณะนี้แนวโน้มโรคลดลงแล้ว
ด้าน นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ได้ให้สำนักระบาดวิทยา เฝ้าระวังโรคภายหลังน้ำลด ที่สำคัญ ได้แก่ โรคไข้เลือดออก และโรคฉี่หนู ซึ่งสภาพของน้ำท่วมขังนานหลายวันและลักษณะน้ำนิ่ง จะเป็นแหล่งให้ยุงลายวางไข่ ทำให้ยุงเพิ่มจำนวนได้รวดเร็ว ส่วนโรคฉี่หนูมักพบในช่วงที่ชาวบ้านเข้าไปทำความสะอาดชำระล้างโคลนเลนที่มากับน้ำท่วม ขณะนี้ยังไม่พบพื้นที่ใดมีการระบาดของโรค โดยกรมควบคุมโรคได้สำรองรองเท้า บู๊ทแจกประชาชนป้องกันโรคฉี่หนูจำนวน 60,000 คู่ กระจายให้สำนักงานป้องกันควบคุมโรคประจำเขตแล้ว
วันที่ 15 ตุลาคม นายมานิต นพอมรบดี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นพ.ทนงสรรค์ สุธาธรรม รักษาราชการแทนรองปลัดกระทรวงสาธารณสุข และคณะนำหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ประกอบด้วยแพทย์ เภสัชกร พยาบาล เจ้าหน้าที่สาธารณสุข ทีมควบคุมโรค นักจิตวิทยา องค์การเภสัชกรรม ลงพื้นที่ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยที่วัดฤาไชย อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา โดยมอบถุงยังชีพ 1,000 ชุด เวชภัณฑ์ ยาสามัญประจำบ้าน 1,500 ชุด ยาชุดน้ำท่วม 1,000 ชุด ยาหยอดตาแดง 300 ขวด สารส้ม 150 กิโลกรัม คลอรีนน้ำ 300 ขวด รองเท้าบู๊ทป้องกันโรคน้ำกัดเท้าและโรคฉี่หนู จำนวน 300 คู่
นายมานิต กล่าว่า จากสถานการณ์น้ำท่วม 24 จังหวัดที่ผ่านมา ในรอบ 14 วัน ตั้งแต่วันที่ 29 กันยายน 2552 เป็นต้นมา สธ.ได้ให้ทุกจังหวัดจัดหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ซึ่งจะมีทีมของแพทย์ตรวจรักษาโรคทั่วไป เจ้าหน้าที่ควบคุมโรค ทีมสุขภาพจิต และทีมดูแลด้านอนามัยสิ่งแวดล้อม ออกบริการพร้อมกันจำนวน 51 หน่วย เพื่อดูแลสุขภาพของผู้ประสบภัยอย่างดีที่สุดและรอบด้าน
ทั้งนี้ ผลการปฏิบัติงานตั้งแต่วันที่ 29 กันยายน - 14 ตุลาคม 2552 พบผู้เจ็บป่วยแล้ว 5,440 ราย โรคที่พบอันดับ 1 เกือบ 2 ใน 3 ของผู้ป่วยทั้งหมด ได้แก่โรคผิวหนัง ผื่นคัน น้ำกัดเท้า รองลงมาคือไข้หวัดพบร้อยละ 10 ปวดเมื่อยจากการขนของหนีน้ำมีร้อยละ 6 และพบเครียดนอนไม่หลับร้อยละ 4 กระทรวงสาธารณสุขได้ส่งยาสามัญประจำบ้านไปเสริมความช่วยเหลือจังหวัดต่างๆ แล้ว 6 แสนชุด งบกว่า 22 ล้านบาท
สำหรับที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีน้ำท่วมใน 10 อำเภอ คือบางบาล เสนา ผักไห่ พระนครศรีอยุธยา บางไทร บางปะอิน บางปะหัน นครหลวง มหาราช และบ้านแพรก ขณะนี้ทุกพื้นที่ระดับน้ำลดลงแต่กระทรวงสาธารณสุขยังจัดหน่วยแพทย์เคลื่อนที่บริการอย่างต่อเนื่องวันละ 26 ทีม พบผู้ป่วย 2,313 ราย ส่วนใหญ่เป็นโรคน้ำกัดเท้า และพบโรคตาแดง 409 ราย เนื่องจากสภาพน้ำท่วมขัง ไม่มีการไหลระบาย จึงทำให้มีการสะสมสิ่งสกปรกปนเปื้อนในน้ำ ได้ให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขควบคุมโรค แจกคลอรีนทั้งชนิดผงและน้ำ สารส้ม เพื่อปรับสภาพน้ำใช้ให้สะอาดและให้โรงพยาบาลศูนย์พระนครศรีอยุธยาผลิตขี้ผึ้งรักษาโรคน้ำกัดเท้า และสำรองยาหยอดตา ให้พื้นที่ และออกประชาสัมพันธ์ให้ความรู้ประชาชน ขณะนี้แนวโน้มโรคลดลงแล้ว
ด้าน นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ได้ให้สำนักระบาดวิทยา เฝ้าระวังโรคภายหลังน้ำลด ที่สำคัญ ได้แก่ โรคไข้เลือดออก และโรคฉี่หนู ซึ่งสภาพของน้ำท่วมขังนานหลายวันและลักษณะน้ำนิ่ง จะเป็นแหล่งให้ยุงลายวางไข่ ทำให้ยุงเพิ่มจำนวนได้รวดเร็ว ส่วนโรคฉี่หนูมักพบในช่วงที่ชาวบ้านเข้าไปทำความสะอาดชำระล้างโคลนเลนที่มากับน้ำท่วม ขณะนี้ยังไม่พบพื้นที่ใดมีการระบาดของโรค โดยกรมควบคุมโรคได้สำรองรองเท้า บู๊ทแจกประชาชนป้องกันโรคฉี่หนูจำนวน 60,000 คู่ กระจายให้สำนักงานป้องกันควบคุมโรคประจำเขตแล้ว
