“จุรินทร์” มอบอำนาจให้ปลัด ศธ.-ผวจ.เป็นผู้อนุมัติหลักสูตรโรงเรียนนอกระบบ คุมโรงเรียนประเภทศิลปะ กีฬา สอนภาษา และสร้างเสริมทักษะชีวิต-ให้การบ้าน กยศ.สำรวจเด็กตกหล่นไม่ได้รับเงินยืมเรียน ตั้งงบปี 2553 วงเงิน 32,000 ล้านบาท เพิ่มลูกหนี้ใหม่อีกประมาณ 3 แสนราย
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า ได้ลงนามในคำสั่งกระทรวงฯ มอบอำนาจการอนุมัติหลักสูตรโรงเรียนนอกระบบ ตามพระราชบัญญัติโรงเรียนเอกชน พ.ศ.2550 ประเภทศิลปะและกีฬา ประเภทวิชาชีพ และประเภทสร้างเสริมทักษะชีวิต โดยให้ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ เป็นผู้อนุมัติหลักสูตรของโรงเรียนในส่วนกลาง และผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นผู้อนุมัติหลักสูตรในระดับจังหวัด
จากการที่คณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน ได้มีประกาศคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน เรื่อง การกำหนดประเภทและลักษณะของโรงเรียน การจัดการเรียนการสอนและหลักสูตรของโรงเรียนนอกระบบ ลงวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2552 กำหนดไว้ว่า หลักสูตรของโรงเรียนนอกระบบที่นำมาจากหน่วยงานอื่นทั้งในและต่างประเทศ หลักสูตรที่โรงเรียนจัดทำขึ้นเอง หรือเป็นหลักสูตรจัดทำร่วมกับโรงเรียน/หน่วยงานอื่นจะต้องได้รับอนุมัติให้ใช้หลักสูตรจาก ศธ. จึงให้ ปลัด ศธ.เป็นผู้อนุมัติหลักสูตรของโรงเรียนนอกระบบที่ตั้งอยู่ในกรุงเทพมหานคร และผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นผู้อนุมัติหลักสูตรของโรงเรียนนอกระบบที่ตั้งอยู่ในเขตจังหวัด ซึ่งมีอำนาจหน้าที่ในการแต่งตั้งคณะกรรมการพิจารณาหลักสูตร รวมทั้งดำเนินการอนุมัติหลักสูตรให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์การดำเนินการที่ได้กำหนดไว้
ตัวอย่างโรงเรียนนอกระบบที่ได้จัดหลักสูตรการเรียนรู้ในประเภทศิลปะและกีฬา เช่น โรงเรียนสอนศิลปะ โรงเรียนสอนดนตรี ฯลฯ ส่วนประเภทวิชาชีพ ได้แก่ โรงเรียนสอนภาษา สำหรับประเภทสร้างเสริมทักษะชีวิตนั้น เป็นการเพิ่มขึ้นมาตาม พ.ร.บ.โรงเรียนเอกชนฯ ปัจจุบันยังไม่มีสถานศึกษา แต่ขณะนี้มีผู้ประกอบการบางรายได้เสนอขอจัดอนุมัติหลักสูตรและจัดตั้งโรงเรียนในลักษณะสื่อสร้างสรรค์ ที่มุ่งเน้นไปที่เด็กเล็กหรือเด็กก่อนเข้าเรียนระดับอนุบาล
นอกจากนี้ นายจุรินทร์ยังกล่าวถึงการติดตามความคืบหน้าการปล่อยเงินกู้ของกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ซึ่งได้รับรายงานว่า ปีงบประมาณ 2552 ที่ผ่านมา สามารถดำเนินการปล่อยเงินกู้ไปประมาณ ร้อยละ 85 หรือประมาณ 32,000 ล้านบาท ทั้งนี้ ตนให้การบ้าน กยศ.ไปสำรวจด้วยว่ามีผู้ตกหล่นอยู่จำนวนเท่าไหร่ ที่มีความประสงค์ขอกู้แต่ไม่ได้รับการอนุมัติให้กู้ โดยให้ระบุว่าผู้ที่ต้องการขอกู้อยู่มหาวิทยาลัยแห่งไหนบ้าง และขอให้รายงานข้อมูลในการประชุมครั้งต่อไป
สำหรับปีงบประมาณ 2553 ได้ตั้งวงเงิน 32,000 ล้านบาท และตั้งเป้าปล่อยกู้รายเก่าและรายใหม่ ประมาณ 820,000 ราย โดยในจำนวนดังกล่าวจะเป็นผู้กู้รายใหม่ประมาณ 30% หรือ 300,000 ราย ทั้งนี้ ได้ย้ำไปว่าการปล่อยกู้ขอให้มุ่งเน้นในสาขาที่ขาดแคลนกว่า 400 สาขา เพื่อส่งเสริมสนับสนุนให้เด็กเรียนในสาขาสายอาชีพ ซึ่งประเทศไทยต้อง
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า ได้ลงนามในคำสั่งกระทรวงฯ มอบอำนาจการอนุมัติหลักสูตรโรงเรียนนอกระบบ ตามพระราชบัญญัติโรงเรียนเอกชน พ.ศ.2550 ประเภทศิลปะและกีฬา ประเภทวิชาชีพ และประเภทสร้างเสริมทักษะชีวิต โดยให้ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ เป็นผู้อนุมัติหลักสูตรของโรงเรียนในส่วนกลาง และผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นผู้อนุมัติหลักสูตรในระดับจังหวัด
จากการที่คณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน ได้มีประกาศคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน เรื่อง การกำหนดประเภทและลักษณะของโรงเรียน การจัดการเรียนการสอนและหลักสูตรของโรงเรียนนอกระบบ ลงวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2552 กำหนดไว้ว่า หลักสูตรของโรงเรียนนอกระบบที่นำมาจากหน่วยงานอื่นทั้งในและต่างประเทศ หลักสูตรที่โรงเรียนจัดทำขึ้นเอง หรือเป็นหลักสูตรจัดทำร่วมกับโรงเรียน/หน่วยงานอื่นจะต้องได้รับอนุมัติให้ใช้หลักสูตรจาก ศธ. จึงให้ ปลัด ศธ.เป็นผู้อนุมัติหลักสูตรของโรงเรียนนอกระบบที่ตั้งอยู่ในกรุงเทพมหานคร และผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นผู้อนุมัติหลักสูตรของโรงเรียนนอกระบบที่ตั้งอยู่ในเขตจังหวัด ซึ่งมีอำนาจหน้าที่ในการแต่งตั้งคณะกรรมการพิจารณาหลักสูตร รวมทั้งดำเนินการอนุมัติหลักสูตรให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์การดำเนินการที่ได้กำหนดไว้
ตัวอย่างโรงเรียนนอกระบบที่ได้จัดหลักสูตรการเรียนรู้ในประเภทศิลปะและกีฬา เช่น โรงเรียนสอนศิลปะ โรงเรียนสอนดนตรี ฯลฯ ส่วนประเภทวิชาชีพ ได้แก่ โรงเรียนสอนภาษา สำหรับประเภทสร้างเสริมทักษะชีวิตนั้น เป็นการเพิ่มขึ้นมาตาม พ.ร.บ.โรงเรียนเอกชนฯ ปัจจุบันยังไม่มีสถานศึกษา แต่ขณะนี้มีผู้ประกอบการบางรายได้เสนอขอจัดอนุมัติหลักสูตรและจัดตั้งโรงเรียนในลักษณะสื่อสร้างสรรค์ ที่มุ่งเน้นไปที่เด็กเล็กหรือเด็กก่อนเข้าเรียนระดับอนุบาล
นอกจากนี้ นายจุรินทร์ยังกล่าวถึงการติดตามความคืบหน้าการปล่อยเงินกู้ของกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ซึ่งได้รับรายงานว่า ปีงบประมาณ 2552 ที่ผ่านมา สามารถดำเนินการปล่อยเงินกู้ไปประมาณ ร้อยละ 85 หรือประมาณ 32,000 ล้านบาท ทั้งนี้ ตนให้การบ้าน กยศ.ไปสำรวจด้วยว่ามีผู้ตกหล่นอยู่จำนวนเท่าไหร่ ที่มีความประสงค์ขอกู้แต่ไม่ได้รับการอนุมัติให้กู้ โดยให้ระบุว่าผู้ที่ต้องการขอกู้อยู่มหาวิทยาลัยแห่งไหนบ้าง และขอให้รายงานข้อมูลในการประชุมครั้งต่อไป
สำหรับปีงบประมาณ 2553 ได้ตั้งวงเงิน 32,000 ล้านบาท และตั้งเป้าปล่อยกู้รายเก่าและรายใหม่ ประมาณ 820,000 ราย โดยในจำนวนดังกล่าวจะเป็นผู้กู้รายใหม่ประมาณ 30% หรือ 300,000 ราย ทั้งนี้ ได้ย้ำไปว่าการปล่อยกู้ขอให้มุ่งเน้นในสาขาที่ขาดแคลนกว่า 400 สาขา เพื่อส่งเสริมสนับสนุนให้เด็กเรียนในสาขาสายอาชีพ ซึ่งประเทศไทยต้อง