ประธานคณะทำงานแอดมิชชันฟอรัม เตรียมสรุปผลประชาพิจารณ์องค์ประกอบปี 2554 วันที่ 26 ต.ค.นี้ ยันต้องทำตามความคิดเห็นส่วนใหญ่เป็นหลัก
รศ.ดร.มณฑล สงวนเสริมศรี ประธานคณะทำงานแอดมิชชันฟอรั่ม ของที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) เปิดเผยว่า สถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (สทศ.) ได้ปิดการประชาพิจารณ์องค์ประกอบและค่าน้ำหนักที่จะใช้ในการสอบคัดเลือกในระบบแอดมิชชัน ปีการศึกษา 2554 เป็นต้นไป เรียบร้อยแล้ว และได้นำข้อสรุปรายงานมายังตน จากนั้นจะรวบรวมความคิดเห็นทั้งหมดนำเสนอที่ประชุม ทปอ.ซึ่งจะมีขึ้นปลายเดือนนี้ อย่างไรก็ตาม วันที่ 26 ต.ค.นี้ จะนำข้อสรุปที่ได้จากการประชาพิจารณ์เพื่อรับฟังความคิดเห็น มาหาข้อสรุปร่วมกับคณะทำงานแอดมิชชันฟอรัม ซึ่ง นายชัยวุฒิ บรรณวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) จะเข้าร่วมรับฟังด้วย สำหรับการแอดมิชชันกลางในปี 2554 นั้น จะพยายามปรับให้เป็นไปตามการรับฟังความคิดเห็นส่วนใหญ่มากที่สุด โดยยึดหลักการไม่ให้เด็กเกิดความสับสน พยายามให้เด็กสอบให้น้อยที่สุดและได้เรียนในสาขาที่เหมาะสมตรงตามความต้องการ
“จากนี้จะต้องดูข้อสรุปว่าภายหลังจากประชาพิจารณ์แล้วแต่ละกลุ่มมีความคิดเห็นเกี่ยวกับสัดส่วนและองค์ประกอบในการแอดมิชชันปี 2554 อย่างไรบ้าง ซึ่งคงต้องทำให้นิ่งที่สุด และยืนยันว่า จะต้องฟังเสียงส่วนใหญ่เป็นหลัก ไม่ใช่จัดสัดส่วนและองค์ประกอบตามความต้องการของคณะ/สาขาวิชาเท่านั้น แต่ต้องนำทั้งสองส่วนมาประสานกัน” รศ.ดร.มณฑล กล่าว และว่า ที่ผ่านมา รมช.ศธ.มีความห่วงใยเรื่องปัญหาการรับตรงในปี 2553 ซึ่งมีการคาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นสูง และได้มอบหมายให้คณะทำงานแอดมิชชันฟอรัมรวบรวมผลการรับตรงในปีนี้ว่าเพิ่มขึ้นกี่เปอร์เซ็นต์ และในปีต่อไปจะแก้ปัญหาการรับตรงได้อย่างไร เชื่อว่า ในวันที่ 26 ต.ค.นี้ จะได้ข้อสรุปทั้งสัดส่วนและองค์ประกอบการแอดมิชชันปี 2554 เพื่อเสนอ ทปอ.ต่อไป
ทั้งนี้ สทศ.ได้เปิดรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับองค์ประกอบและค่าน้ำหนักที่จะใช้ในการแอดมิชชันปี 2554 ผ่านเว็บไซต์ www.niets.or.th ตั้งแต่วันที่ 1-30 ก.ย. ที่ผ่านมา โดยถามความคิดเห็นบุคคล 4 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มนักเรียน ม.4-6 ครู โรงเรียน อาจารย์มหาวิทยาลัย ผู้ปกครอง ประชาชน
รศ.ดร.มณฑล สงวนเสริมศรี ประธานคณะทำงานแอดมิชชันฟอรั่ม ของที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) เปิดเผยว่า สถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (สทศ.) ได้ปิดการประชาพิจารณ์องค์ประกอบและค่าน้ำหนักที่จะใช้ในการสอบคัดเลือกในระบบแอดมิชชัน ปีการศึกษา 2554 เป็นต้นไป เรียบร้อยแล้ว และได้นำข้อสรุปรายงานมายังตน จากนั้นจะรวบรวมความคิดเห็นทั้งหมดนำเสนอที่ประชุม ทปอ.ซึ่งจะมีขึ้นปลายเดือนนี้ อย่างไรก็ตาม วันที่ 26 ต.ค.นี้ จะนำข้อสรุปที่ได้จากการประชาพิจารณ์เพื่อรับฟังความคิดเห็น มาหาข้อสรุปร่วมกับคณะทำงานแอดมิชชันฟอรัม ซึ่ง นายชัยวุฒิ บรรณวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) จะเข้าร่วมรับฟังด้วย สำหรับการแอดมิชชันกลางในปี 2554 นั้น จะพยายามปรับให้เป็นไปตามการรับฟังความคิดเห็นส่วนใหญ่มากที่สุด โดยยึดหลักการไม่ให้เด็กเกิดความสับสน พยายามให้เด็กสอบให้น้อยที่สุดและได้เรียนในสาขาที่เหมาะสมตรงตามความต้องการ
“จากนี้จะต้องดูข้อสรุปว่าภายหลังจากประชาพิจารณ์แล้วแต่ละกลุ่มมีความคิดเห็นเกี่ยวกับสัดส่วนและองค์ประกอบในการแอดมิชชันปี 2554 อย่างไรบ้าง ซึ่งคงต้องทำให้นิ่งที่สุด และยืนยันว่า จะต้องฟังเสียงส่วนใหญ่เป็นหลัก ไม่ใช่จัดสัดส่วนและองค์ประกอบตามความต้องการของคณะ/สาขาวิชาเท่านั้น แต่ต้องนำทั้งสองส่วนมาประสานกัน” รศ.ดร.มณฑล กล่าว และว่า ที่ผ่านมา รมช.ศธ.มีความห่วงใยเรื่องปัญหาการรับตรงในปี 2553 ซึ่งมีการคาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นสูง และได้มอบหมายให้คณะทำงานแอดมิชชันฟอรัมรวบรวมผลการรับตรงในปีนี้ว่าเพิ่มขึ้นกี่เปอร์เซ็นต์ และในปีต่อไปจะแก้ปัญหาการรับตรงได้อย่างไร เชื่อว่า ในวันที่ 26 ต.ค.นี้ จะได้ข้อสรุปทั้งสัดส่วนและองค์ประกอบการแอดมิชชันปี 2554 เพื่อเสนอ ทปอ.ต่อไป
ทั้งนี้ สทศ.ได้เปิดรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับองค์ประกอบและค่าน้ำหนักที่จะใช้ในการแอดมิชชันปี 2554 ผ่านเว็บไซต์ www.niets.or.th ตั้งแต่วันที่ 1-30 ก.ย. ที่ผ่านมา โดยถามความคิดเห็นบุคคล 4 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มนักเรียน ม.4-6 ครู โรงเรียน อาจารย์มหาวิทยาลัย ผู้ปกครอง ประชาชน