กรมศิลป์ วิกฤตอัตรากำลังโขนขาด เร่งขอ ก.พ.บรรจุเพิ่ม ชี้ หากไม่สำเร็จต้องใช้วิธีเกลี่ยกำลังจากส่วนอื่น ระบุ หากเป็นเช่นนี้เรื้อรัง คาดผู้เชี่ยวชาญด้านศิลปวัฒนธรรมจะหมดไป
นายเกรียงไกร สัมปัชชลิต อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวถึงการคัดเลือกผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งรองอธิบดีกรมศิลปากรที่จะว่างลงว่า การคัดเลือกตำแหน่งในครั้งนี้ ทางกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) ได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาพิจารณา ซึ่งตนก็เป็นหนึ่งในกรรมการพิจารณาคัดเลือก ในฐานะผู้บังคับบัญชา โดย วธ.เปิดโอกาสให้ผู้ที่มีคุณสมบัติสมัครเข้ารับการคัดเลือกเป็นรองอธิบดีกรมศิลปากรเอง ส่วนการคัดเลือกตำแหน่งดังกล่าวจะดำเนินการภายหลัง ที่มีการแต่งตั้งผู้ตรวจราชการ วธ.ที่ว่างลงแล้ว เนื่องจาก นายปรารพ เหล่าวานิช และ นายเขมชาติ เทพไชย รองอธิบดีกรมศิลปากรทั้ง 2 คน อาจจะได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้ตรวจราชการวธ.ก็ได้ ดังนั้น จึงต้องรอให้ตำแหน่งต่างๆ นิ่งก่อน ตำแหน่งรองอธิบดี หรือตำแหน่งอื่นๆ ถึงจะเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการต่อไป
นายเกรียงไกร กล่าวต่อไปว่า สำหรับอัตรากำลังของกรมศิลปากร ในปี 2552 จะมีข้าราชการเกษียณอายุราชการและผู้ขอเออร์ลีรีไทร์ มากถึง 33 ตำแหน่ง ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นข้าราชการที่มีความเฉพาะด้าน อาทิ ด้านการแสดงโขน ช่างสิบหมู่ แต่จำนวนอัตรากำลังที่น่าห่วงมากที่สุดที่จะไม่เพียงพอ คือ ด้านนาฏศิลป์ โดยเฉพาะการแสดงโขน เพราะหากขาดผู้เล่นที่มีความเชี่ยวชาญเพียงหนึ่งตำแหน่ง ก็ไม่สามารถที่จะเล่นให้ครบองค์ประกอบของเรื่องได้ ดังนั้น กรมศิลปากร ได้เสนอขออัตรากำลังจากสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) ไปแล้ว เพื่อให้เพียงพอกับการทำงานด้านศิลปวัฒนธรรมของชาติ
“หากการขออัตรากำลังด้านโขนจาก ก.พ.ไม่ประสบผลสำเร็จ อาจจะต้องหาวิธีการอื่นมาแก้ไข เช่น การเกลี่ยอัตรากำลังจากส่วนอื่นๆ ซึ่งแต่ละหน่วยก็แทบจะไม่พออยู่แล้ว แต่ก็ต้องทำ และสิ่งที่ผมเป็นห่วงและอธิบดีทุกสมัยพยายามผลักดันมากที่สุด ก็คือ การขออัตรากำลังให้เพียงพอกับปริมาณงานที่กรมศิลปากรมีอยู่ แต่ก็ยังไม่ค่อยเห็นผล หากเป็นอย่างนี้ต่อไป ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านศิลปวัฒนธรรมคงจะหมดไปในที่สุด”อธิบดีกรมศิลปากร กล่าว