ผู้ว่าฯ กทม.ตรวจและเตรียมการป้องกันน้ำท่วมฝั่งธนบุรี มั่นใจแนวป้องกันทั้ง 4 ทิศ และสถานีสูบน้ำต่างๆ สามารถรับปริมาณน้ำฝนได้ครอบคลุมพื้นที่ถึง400 ตร.กม. ระบุไม่ห่วงปัญหาน้ำเหนือเข้ากรุง เพราะปริมาณน้ำในเขื่อนภูมิพลและสิริกิติ์ยังรับน้ำได้อีกมาก
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ลงพื้นที่ตรวจสถานีสูบน้ำคลองชักพระ เขตตลิ่งชัน โดยพบว่าพื้นที่ฝั่งธนบุรีประมาณ 464 ตารางกิโลเมตร (ตร.กทม.) มีการป้องกันน้ำท่วม ด้านทิศตะวันออกใช้แนวป้องกันริมแม่น้ำจ้าพระยาและคลอง
บางกอกน้อย ด้านทิศเหนือใช้แนวป้องกันริมคลองมหาสวัสดิ์ และทิศตะวันตกใช้ถนนพุทธมณฑลสาย 4 และถนนหนองแขม-บางบอน ส่วนทิศใต้ใช้แนวโครงการแก้มลิงคลองสนามชัย-มหาชัย ไปบรรจบแนวป้องกันน้ำท่วม จ.สมุทรปราการ ส่วนการระบายน้ำฝนออกจากพื้นที่นั้น ใช้สถานีสูบน้ำขนาดใหญ่ 4 แห่ง คือ สถานีสูบน้ำคลองชักพระ มีกำลังสูบ 45 ลูกบาศก์เมตรต่อต่อวินาที (ลบ./วินาที) สถานีสูบน้ำคลองมอญ มีกำลังสูบ 24 ลบ.ม./วินาที สถานีสูบน้ำคลองบางกอกใหญ่ มีกำลังสูบ 54 ลบ.ม./วินาที และสถานีสูบน้ำคลองดาวคะนอง มีกำลังสูบ 45 ลบ.ม./วินาที รวมปริมาณการสูบ 168 ลบ.ม./วินาที ซึ่งจะครอบคลุมพื้นที่ได้ถึง 400 ตร.กม.
ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่า พื้นที่ฝั่งธนบุรียังมีคลองสาธารณะกระจายมากพอที่จะสามารถพัฒนาให้เป็นแก้มลิงได้เพิ่มเติม ยกเว้นถ้ามีปริมาณฝนตกหนักมาก หรือปริมาณ 60 มม. การระบายน้ำบางพื้นที่ยังไม่สมบูรณ์อาจมีน้ำท่วมขังบนถนนบ้าง นอกจากนี้ พื้นที่ฝั่งธนบุรีมีลักษณะพิเศษเป็นพื้นที่ท่องเที่ยวทางน้ำ จึงต้องรักษาระดับน้ำไม่ให้ต่ำหรือสูงเกินไป เพื่อควบคุมน้ำระดับน้ำให้คงที่เพื่อการท่องเที่ยวด้วย
สำหรับปัญหาน้ำเหนือที่หลายฝ่ายเป็นห่วงมีปริมาณฝนในภาคหนือและภาคอีสานมากว่า ปริมาณน้ำในเขื่อนสิริกิติ์และเขื่อนภูมิพลยังสามารถรับน้ำได้ ปัจจุบันมีปริมาณน้ำอยู่ร้อยละ 50 ของความจุ จึงยังไม่ห่วง น้ำเหนือยังอยู่เป็นระดับปกติ อย่างไรก็ตาม ยังห่วงภาวะผันแปรเวลาฝนตกหนักในพื้นที่กรุงเทพฯ จึงขอให้ประชาชนเข้าใจ หากการระบายท่วมขังไม่ทันท่วงที เพราะต้องระบายอย่างค่อยเป็นค่อยไป