“สจส.” เตรียมเสนอ 3 แนวทางต่อขยายเส้นทางเดินเรือไปมีนบุรี เล็งนำรูปแบบตลาดน้ำอัมพวาเป็นโมเดลทำตลาดน้ำมีนบุรี ขณะที่โครงการตลาดน้ำธนบุรีคาดไม่น้อยกว่าปีถึงได้ใช้บริการ
นายยุทธศักดิ์ ร่มฉัตรทอง รองผู้อำนวยการสำนักการจราจรและขนส่ง (สจส.) กรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยว่าภายในเดือนกันยายนนี้ คณะทำงานโครงการก่อสร้างท่าเรือส่วนต่อขยายจากท่าเรือวัดศรีบุญเรืองไปมีนบุรี จะนำเสนอโครงการพร้อมแนวทางการหาผู้ประกอบการเดินเรือในส่วนต่อขยายดังกล่าวกับทางผู้บริหาร กทม.เพื่อพิจารณา เบื้องต้นคณะทำงานได้ศึกษาแนวทางไว้ 3 รูปแบบ คือ
1.ให้ประชาชนในพื้นที่ที่มีอาชีพเดินเรือในพื้นที่เขตสะพานสูงเข้ามาวิ่งรับส่งผู้โดยสารในส่วนต่อขยายดังกล่าว ซึ่งแนวทางดังกล่าวได้หารือกับผู้ประกอบการในพื้นที่แล้วแต่ผู้ประกอบการยังกังวลความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้น เช่น การขาดทุน เพราะไม่สามารถคาดเดาได้ว่าจะมีประชาชนใช้บริการได้มากเท่ากับการลงทุนหรือไม่
2.กทม.ลงทุนสร้างเรือและให้เอกชนหรือผู้ประกอบเข้ามาบริหารจัดการในรูปแบบของการเช่าเรือ
และ 3.กทม.ลงทุนบริหารจัดการเองทั้งหมด คือ จัดหาเรือ และจ้างเอกชนเข้ามาเดินเรือในพื้นที่ ส่วนการเปิดให้บริการนั้นหากผู้บริหารคาดว่าจะเปิดให้บริการได้พร้อมกับการเปิดตลาดน้ำมีนบุรี ภายในต้นปี 2553 อย่างแน่นอน
ผู้สื่อข่าวรายงานถึงความคืบหน้าการการดำเนินโครงการสร้างตลาดน้ำมีนบุรี เขตมีนบุรี ว่าเมื่อเร็วๆ นี้คณะทำงานได้เชิญผู้ประกอบการจากตลาดน้ำอัมพวา จ.สมุทรสาคร มาหารือถึงแนวทางการพัฒนาตลาด ซึ่งคาดว่าตลาดน้ำมีนบุรีจะยึดต้นแบบการพัฒนาและการมีส่วนร่วมของคนในพื้นที่ของตลาดน้ำอัมพวามาเป็นตัวอย่างในการพัฒนาเบื้องต้นการประสานงานใช้พื้นที่ เช่น โรงสีข้าวเก่า ซึ่งเป็นสมบัติของนักการเมืองในพื้นที่ ก็ยังไม่มีข้อยุติว่าจะให้ใช้พื้นที่ดังกล่าวหรือไม่
ส่วนโครงการตลาดน้ำธนบุรี เขตธนบุรีนั้นขณะนี้อยู่ระหว่างให้ผู้บริหารอนุมัติโครงการดังกล่าวอย่างเป็นทางการ หลังจากที่ทางสำนักงานเขตได้มีการออกแบบของได้รับงบประมาณดำเนินการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งผู้บริหารเขตรายหนึ่งเปิดเผยว่า คาดว่าการเปิดตลาดน้ำคงต้องยืดเยื้อออกไปไม่น้อยกว่า 1 ปี