“ทยา” เผย ความคืบหน้าโครงการปรับภูมิทัศน์ผู้ค้าแผงลอยเขตวัฒนา-คลองเตย ได้ข้อสรุปให้เอกชนติดโลโก้บนบูธแผงค้าได้ แต่ต้องเสียภาษีให้ กทม.พร้อมเตรียมร่างระเบียบ กทม.เปิดโอกาสให้เอกชนร่วมโครงการจัดระเบียบแผงค้าทางเท้าในพื้นที่อื่นได้อีก
นางทยา ทีปสุวรรณ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยว่า ขณะนี้การพิจารณาทางข้อกฎหมายเกี่ยวกับการดำเนินโครงการปรับภูมิทัศน์พื้นที่ผู้ค้าแผงลอยประมาณ 100 แผง พื้นที่เขตวัฒนา และคลองเตย ที่ กทม.ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากบริษัทเอกชน ว่า เอกชนรายดังกล่าวจะได้รับสิทธิในการติดโลโก้ขององค์กรบนแผงค้าหรือไม่นั้น ได้ข้อสรุปแล้ว คือ บริษัทเอกชนที่สนับสนุนสามารถติดโลโก้ของบริษัทได้ แต่ต้องมีขนาดไม่เกิน 40X60 เซนติเมตร ซึ่งในการหารือนักกฎหมาย ระบุว่า การติดโลโก้บนแผงค้าตามขนาดที่กำหนดไม่เป็นการผิดระเบียบ หรือข้อกำหนด เนื่องจากบริษัทดังกล่าวต้องเสียภาษีให้กับ กทม.ด้วย เนื่องจากโลโก้ดังกล่าวนั้นแม้ว่าจะเป็นชื่อบริษัท หรือตราสินค้าก็นับว่าเป็นการโฆษณา อนึ่ง แผงค้าหรือทรัพย์สินดังกล่าวเป็นทรัพย์สินของบริษัทที่มอบให้กับผู้ค้าแผงลอย และที่สำคัญการดำเนินการดังกล่าวถือว่าอยู่ในขั้นทดลองเป็นระยะเวลา 3 เดือน ซึ่งในอนาคตอาจจะมีการรื้อถอนได้ หากทางผู้ค้าไม่พอใจ ทั้งนี้ตนคาดว่าจะเข้าไปดำเนินการติดตั้งได้ภายในสิ้นเดือนกันยายนนี้
นางทยา กล่าวด้วยว่า ทั้งนี้ คณะทำงานจะมีการร่างข้อกำหนดเกี่ยวกับการเปิดโอกาสให้กับบริษัทเอกชนที่ต้องการสนับสนุนโครงการปรับภูมิทัศน์พื้นที่ผู้ค้าแผงลอยด้วย โดยเบื้องต้นจะให้สิทธิในการติดโลโก้ของบริษัท ซึ่งมีขนาดไม่เกิน 40X60 เซนติเมตร และจะต้องไม่มีการเก็บค่าเช่า หรือค่าใช้แผงค้าจากผู้ค้า ซึ่งขณะนี้เท่าที่ได้ประสานกับบริษัทเอกชนรายอื่นในการเข้ามาสนับสนุนโครงการ ส่วนใหญ่พร้อมที่จะเข้ามามีส่วนร่วมในการจัดระเบียบด้วย คาดว่าการจัดระเบียบ หรือปรับภูมิทัศน์แผงค้าในพื้นที่อื่นจะเริ่มดำเนินการเป็นระยะที่ 2 ต่อไปได้ในเร็วๆ นี้เช่นกัน
นางทยา ทีปสุวรรณ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยว่า ขณะนี้การพิจารณาทางข้อกฎหมายเกี่ยวกับการดำเนินโครงการปรับภูมิทัศน์พื้นที่ผู้ค้าแผงลอยประมาณ 100 แผง พื้นที่เขตวัฒนา และคลองเตย ที่ กทม.ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากบริษัทเอกชน ว่า เอกชนรายดังกล่าวจะได้รับสิทธิในการติดโลโก้ขององค์กรบนแผงค้าหรือไม่นั้น ได้ข้อสรุปแล้ว คือ บริษัทเอกชนที่สนับสนุนสามารถติดโลโก้ของบริษัทได้ แต่ต้องมีขนาดไม่เกิน 40X60 เซนติเมตร ซึ่งในการหารือนักกฎหมาย ระบุว่า การติดโลโก้บนแผงค้าตามขนาดที่กำหนดไม่เป็นการผิดระเบียบ หรือข้อกำหนด เนื่องจากบริษัทดังกล่าวต้องเสียภาษีให้กับ กทม.ด้วย เนื่องจากโลโก้ดังกล่าวนั้นแม้ว่าจะเป็นชื่อบริษัท หรือตราสินค้าก็นับว่าเป็นการโฆษณา อนึ่ง แผงค้าหรือทรัพย์สินดังกล่าวเป็นทรัพย์สินของบริษัทที่มอบให้กับผู้ค้าแผงลอย และที่สำคัญการดำเนินการดังกล่าวถือว่าอยู่ในขั้นทดลองเป็นระยะเวลา 3 เดือน ซึ่งในอนาคตอาจจะมีการรื้อถอนได้ หากทางผู้ค้าไม่พอใจ ทั้งนี้ตนคาดว่าจะเข้าไปดำเนินการติดตั้งได้ภายในสิ้นเดือนกันยายนนี้
นางทยา กล่าวด้วยว่า ทั้งนี้ คณะทำงานจะมีการร่างข้อกำหนดเกี่ยวกับการเปิดโอกาสให้กับบริษัทเอกชนที่ต้องการสนับสนุนโครงการปรับภูมิทัศน์พื้นที่ผู้ค้าแผงลอยด้วย โดยเบื้องต้นจะให้สิทธิในการติดโลโก้ของบริษัท ซึ่งมีขนาดไม่เกิน 40X60 เซนติเมตร และจะต้องไม่มีการเก็บค่าเช่า หรือค่าใช้แผงค้าจากผู้ค้า ซึ่งขณะนี้เท่าที่ได้ประสานกับบริษัทเอกชนรายอื่นในการเข้ามาสนับสนุนโครงการ ส่วนใหญ่พร้อมที่จะเข้ามามีส่วนร่วมในการจัดระเบียบด้วย คาดว่าการจัดระเบียบ หรือปรับภูมิทัศน์แผงค้าในพื้นที่อื่นจะเริ่มดำเนินการเป็นระยะที่ 2 ต่อไปได้ในเร็วๆ นี้เช่นกัน
