กรมศิลป์ใช้งบ 438 ล้านสร้างหอสมุดแห่งชาติหลังใหม่เพิ่มพื้นที่ใช้สอย คาดอีก 2 ปีเสร็จ เชื่อการปรับปรุงหอสมุดจะเพิ่มจำนวนผู้เข้าใช้บริการจาก 1.5 เป็น 2 ล้านคนต่อปี
วันนี้ (2 ก.ย.) ณ หอสมุดแห่งชาติ ท่าวาสุกรี นายเกรียงไกร สัมปัชชลิต อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวระหว่างร่วมพิธีวางศิลาฤกษ์อาคารหอสมุดแห่งชาติหลังใหม่ ว่า สำนักสถาปัตยกรรม กรมศิลปากร ได้ประมาณการระยะเวลาการดำเนินการก่อสร้างอาคารหอสมุดแห่งชาติหลังใหม่ว่าจะแล้วเสร็จภายในกลางปี พ.ศ. 2554 โดยงบประมาณที่ใช้ทั้งสิ้นจำนวน 438 ล้านบาท ทั้งนี้ คาดว่าการก่อสร้างอาคารดังกล่าวจะทำให้พื้นที่ใช้สอยภายในหอสมุดแห่งชาติเพิ่มขึ้นอีกกว่า 1 หมื่นตารางเมตร ซึ่งในการก่อสร้างอาคารหอสมุดดังกล่าวนี้นับเป็น 1 ในนโยบายพัฒนาหอสมุดแห่งชาติทั้งระบบ
“กรมศิลป์ได้นำเสนอคณะรัฐมนตรีเห็นชอบโครงการพัฒนาหอสมุดแห่งชาติ ตั้งแต่ปี 2550 ที่ผ่านมา โดยแบ่งการพัฒนาเป็น 3 ส่วน คือ พัฒนาอาคาร สถานที่ ซึ่งได้แก่หอสมุดหลังใหม่นี้ ส่วนที่2 จะเป็นการพัฒนาระบบสารสนเทศ ไอที โดยจะให้มีการเปิดบริการด้านระบบอินทราเน็ต (Intranet) ภายในหอสมุดหลังใหม่ ซึ่งคาดว่าจะได้รับการจัดสรรงบประมาณในส่วนงบไทยเข้มแข็ง จำนวน 138 ล้านบาทมาใช้ดำเนินการ และส่วนที่ 3 จะเป็นการพัฒนาด้านบุคลากร” อธิบดีกรมศิลปากรกล่าว
นายเกรียงไกรกล่าวถึงยอดตัวเลขผู้เข้าใช้บริการหอสมุดแห่งชาติในปีนี้ว่า มีจำนวนลดน้อยลง เนื่องจากอยู่ระหว่างการปรับปรุงอาคารสถานที่ อย่างไรก็ตามยังมียอดผู้เข้าใช้บริการในส่วนระบบอินทราเน็ตที่ปรับเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ในปี 2552 ประมาณการยอดผู้เข้าใช้บริการหอสมุดรวมอยู่ที่ 1.5 ล้านคน ซึ่งคาดว่าเมื่อปรับปรุงหอสมุดแห่งชาติแล้วเสร็จจำนวนผู้ใช้บริการจะมากขึ้นถึง 2 ล้านคน
วันนี้ (2 ก.ย.) ณ หอสมุดแห่งชาติ ท่าวาสุกรี นายเกรียงไกร สัมปัชชลิต อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวระหว่างร่วมพิธีวางศิลาฤกษ์อาคารหอสมุดแห่งชาติหลังใหม่ ว่า สำนักสถาปัตยกรรม กรมศิลปากร ได้ประมาณการระยะเวลาการดำเนินการก่อสร้างอาคารหอสมุดแห่งชาติหลังใหม่ว่าจะแล้วเสร็จภายในกลางปี พ.ศ. 2554 โดยงบประมาณที่ใช้ทั้งสิ้นจำนวน 438 ล้านบาท ทั้งนี้ คาดว่าการก่อสร้างอาคารดังกล่าวจะทำให้พื้นที่ใช้สอยภายในหอสมุดแห่งชาติเพิ่มขึ้นอีกกว่า 1 หมื่นตารางเมตร ซึ่งในการก่อสร้างอาคารหอสมุดดังกล่าวนี้นับเป็น 1 ในนโยบายพัฒนาหอสมุดแห่งชาติทั้งระบบ
“กรมศิลป์ได้นำเสนอคณะรัฐมนตรีเห็นชอบโครงการพัฒนาหอสมุดแห่งชาติ ตั้งแต่ปี 2550 ที่ผ่านมา โดยแบ่งการพัฒนาเป็น 3 ส่วน คือ พัฒนาอาคาร สถานที่ ซึ่งได้แก่หอสมุดหลังใหม่นี้ ส่วนที่2 จะเป็นการพัฒนาระบบสารสนเทศ ไอที โดยจะให้มีการเปิดบริการด้านระบบอินทราเน็ต (Intranet) ภายในหอสมุดหลังใหม่ ซึ่งคาดว่าจะได้รับการจัดสรรงบประมาณในส่วนงบไทยเข้มแข็ง จำนวน 138 ล้านบาทมาใช้ดำเนินการ และส่วนที่ 3 จะเป็นการพัฒนาด้านบุคลากร” อธิบดีกรมศิลปากรกล่าว
นายเกรียงไกรกล่าวถึงยอดตัวเลขผู้เข้าใช้บริการหอสมุดแห่งชาติในปีนี้ว่า มีจำนวนลดน้อยลง เนื่องจากอยู่ระหว่างการปรับปรุงอาคารสถานที่ อย่างไรก็ตามยังมียอดผู้เข้าใช้บริการในส่วนระบบอินทราเน็ตที่ปรับเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ในปี 2552 ประมาณการยอดผู้เข้าใช้บริการหอสมุดรวมอยู่ที่ 1.5 ล้านคน ซึ่งคาดว่าเมื่อปรับปรุงหอสมุดแห่งชาติแล้วเสร็จจำนวนผู้ใช้บริการจะมากขึ้นถึง 2 ล้านคน
