มูลนิธิเพื่อนหญิง แฉเรื่องสุดช็อก! ครู ร.ร.ภาคกลาง ร่วมมือกับญาติและภารโรง รุมโทรมเด็กตั้งแต่อยู่ชั้น ม.1 จนถึง ม.4 หลังผู้ปกครองทราบเรื่องพาแจ้งความ ตรวจร่างกายพบท้องกำหนดคลอดเดือน ก.ย.นี้ เตรียมประสาน สพฐ.แจ้งความเอาผิดครูชั่ว ฝากผู้ปกครองเอาใจใส่เด็ก หลังพบหลายจังหวัดมีครูกระทำชำเราเด็กต่ำกว่า 15 ปี
วันนี้ (25 ส.ค.) ที่อาคารฝึกอบรมวีเทรนอินเตอร์เนชั่นแนลเฮาส์ บ้านพักฉุกเฉิน เขตดอนเมือง นายศุภฤกษ์ หงษ์ภักดี ผู้อำนวยการสำนักงานกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว (สค.) กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เปิดเผยว่า สค.ได้รับความร่วมมือจากมูลนิธิเพื่อนหญิง และมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช จัดโครงการป้องกันและแก้ไขปัญหาความรุนแรงต่อเด็กและสตรี โดยจัดฝึกอบรมพัฒนาสมรรถนะแกนนำชุมชนให้สามารถทำงานเชิงรุกเพื่อยุติความรุนแรงต่อเด็กและสตรี ซึ่งปีที่แล้วได้ดำเนินการใน 6 ชุมชนเขตกรุงเทพมหานคร ซึ่งปีนี้ขยายโครงการไปยัง จ.พะเยา, สิงห์บุรี, อุดรธานี และภูเก็ต หลังการฝึกอบรมช่วงแรกและแกนนำได้ลงพื้นที่ปฏิบัติงานโดยสำรวจสภาพปัญหาพบสถานการณ์ความรุนแรงในครอบครัวและปัญหาท้องไม่พร้อมเกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก จากนั้นแกนนำได้แสดงเข้าไปให้ความช่วยเหลือในหลายพื้นที่ และเกิดเป็นโครงการที่ดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น ที่จ.ภูเก็ต ริเริ่มโครงการล้อมรั้วครอบครัวด้วยพลังรักและเหตุผล จ.พะเยาดำเนินโครงการชมรมคนรักครอบครัว เป็นต้น
น.ส.สุเพ็ญศรี พึ่งโคกสูง หัวหน้าศูนย์พิทักษ์สิทธิสตรี มูลนิธิเพื่อนหญิง กล่าวว่า จากการลงพื้นที่ 4 จังหวัดที่ร่วมโครงการป้องกันและแก้ไขปัญหาความรุนแรงต่อเด็กและสตรี พบปัญหาที่คล้ายคลึงกันคือ เด็กติดเกม ท้องในวัยเรียน สามีทำร้ายร่างกายภรรยา และบางพื้นที่ผู้พิการขาดการดูแลเอาใจใส่
ทั้งนี้จากการรับทราบข้อมูลเหตุการณ์ความรุนแรงเกิดขึ้นกับนักเรียนหญิง ม.4 โรงเรียนรัฐแห่งหนึ่ง ใน จ.ภาคกลาง ที่ถูกครูอายุประมาณ 40-50 ปี รวมทั้งญาติครู และภารโรง ข่มขืนรุมโทรมตั้งแต่อยู่ชั้น ม.1 แต่ถูกบังคับข่มขู่ไม่ให้บอกใคร นานเข้าจนกระทั่งเรื่องรู้ถึงผู้ปกครองจึงนำมาหาแกนนำชุมชน เพื่อขอความช่วยเหลือ และแจ้งความลงบันทึกประจำวันที่สถานีตำรวจท้องที่ที่เกิดเหตุเมื่อปลายเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา
“จากการตรวจร่างกายเด็กพบว่าเด็กตั้งท้อง และกำหนดคลอดในเดือน ก.ย.นี้ ทำให้พ่อแม่และตัวเด็กเองรู้สึกช็อกที่เพิ่งรู้ว่าตั้งครรภ์ ขณะนี้ทางมูลนิธิเพื่อนหญิงโดยบ้านพักฉุกเฉินได้ให้ความช่วยเหลือดูแลเด็กให้อยู่ในที่ปลอดภัยแล้ว พร้อมทั้งกำลังรวบรวมพยานหลักฐานและประสานกับผู้บริหารสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาพื้นฐาน (สพฐ.) และร้อยเวรในท้องที่แจ้งความดำเนินคดีกับครูคนดังกล่าวในเร็วๆ นี้” น.ส.สุเพ็ญศรี กล่าว
น.ส.สุเพ็ญศรี กล่าวด้วยว่า จากการลงพื้นที่หลายจังหวัดยังพบอีกว่าเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปีจำนวนไม่น้อย ถูกคนใกล้ชิด โดยเฉพาะครู รุ่นพี่ คนข้างบ้าน กระทำชำเรา ดังนั้นพ่อแม่ผู้ปกครองต้องดูแลบุตรหลานอย่างใกล้ชิด คอยสำรวจความผิดปกติของเด็ก ซึ่งเมื่อเร็วๆ นี้มูลนิธิเพื่อนหญิงเพิ่งแจ้งความดำเนินคดีกับครูรายหนึ่งกระทำชำเราเด็ก ป.4 โดยใช้ขนมหลอกล่อเด็กให้คล้อยตาม ซึ่งเด็กถูกกระทำเรื่อยมาจนถึงป.6 และไม่กล้าบอกพ่อแม่ จนพ่อแม่สังเกตเห็นความผิดปกติ จึงได้รู้สาเหตุที่แท้จริง นอกจากนี้สถานศึกษาและครอบครัวต้องให้ความรู้กับเด็กเกี่ยวกับทักษะชีวิตให้มากขึ้น
