“ธีระ” เผยเตรียมเยือนลาวอย่างเป็นทางการ กลางเดือน ก.ย.นี้ หวังเจรจาทวิภาคีดันแหล่งโบราณคดีเชียงแสน-สุวรรณโคมคำ ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกร่วมกับลาวให้เร็วที่สุด ชี้ การเจรจาเบื้องต้นกับ รมว.วัฒนธรรมลาว น่ายินดี เพราะลาวหนุนไทยเต็มที่ ขณะที่ฝ่ายไทยยินดีสนับสนุนนักวิชาการด้านอนุรักษ์กับลาวเช่นกัน
วันนี้ (25 ส.ค.) นายธีระ สลักเพชร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวว่า จากการที่ตนได้ในฐานะ รมว.วัฒนธรรมฝ่ายไทย ได้หารือร่วมกับ นายหมุนแก้ว อรบุน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแถลงข่าวและวัฒนธรรม สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (ส.ป.ป.ลาว) และคณะเจ้าหน้าที่ ส.ป.ป.ลาว เรื่อง การเสนอแหล่งโบราณคดีเชียงแสน-สุวรรณโคมคำ เป็นเมืองมรดกโลกร่วมกัน ระหว่างประเทศไทย และ ส.ป.ป.ลาว ซึ่งผลการหารือระหว่างสองประเทศ ได้ข้อสรุปเบื้องต้นว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแถลงข่าวฯ ส.ป.ป.ลาว มีความเห็นด้วยในหลักการตามที่ประเทศไทยเสนอ และมีความยินดีที่จะให้ความร่วมมือ สนับสนุนการดำเนินงานระหว่างสองประเทศอย่างเต็มที่
นายธีระ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ทางรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแถลงข่าวฯ ส.ป.ป.ลาว ยังได้หารือกับไทยว่า ขณะนี้ ส.ป.ป.ลาว ประสบปัญหาของการอนุรักษ์แหล่งโบราณสถาน เนื่องจากสปป.ลาว ขาดแคลนนักวิชาการ เจ้าหน้าที่ในการดูแลและอนุรักษ์โบราณสถาน รวมถึงแหล่งโบราณคดี ทั้งนี้ ตนเห็นว่า หาก ส.ป.ป.ลาว ขอความช่วยเหลือด้านเจ้าหน้าที่ ไทยก็ยินดีให้ความร่วมมือในการสนับสนุนบุคลากรและเจ้าหน้าที่ไปแลกเปลี่ยนและให้ความรู้เกี่ยวกับการอนุรักษ์โบราณสถานกับ ส.ป.ป.ลาว อย่างเต็มที่ เพราะคิดว่าทั้งสองประเทศมีความสัมพันธ์กันมาอย่างยาวนาน มีแหล่งโบราณสถานที่คล้ายกัน นอกจากนี้ ที่น่ายินดีอีกเรื่องหนึ่ง คือ ประเทศไทย ได้รับเชิญ จาก ส.ป.ป.ลาว ในการเดินทางเยือน ส.ป.ป.ลาว อย่างเป็นทางการ เพื่อเจรจาความร่วมมือระดับทวิภาคี โดยเฉพาะการกำหนดแนวทางการขับเคลื่อนการดำเนินงานการขึ้นทะเบียนแหล่งโบราณคดี เชียงแสน สุวรรณโคมคำ เป็นมรดกโลก ในช่วงกลางเดือน ก.ย.นี้ และอาจจะมีการเดินทางลงพื้นที่สำรวจแหล่งโบราณคดีด้วย
“ผมได้รับรายงานจาก นายธราพงศ์ ศรีสุชาติ ผอ.สำนักโบราณคดี ที่ลงพื้นที่สำรวจแหล่งโบราณคดีดังกล่าวแล้ว พบว่า เป็นแหล่งโบราณคดีที่มีความสมบูรณ์อย่างยิ่ง และมีหลักฐานประวัติศาสตร์ที่ชัดเจน ดังนั้น เราจะต้องรีบผลักดันให้สามารถขึ้นทะเบียนมรดกโลกให้เร็วที่สุด และถึงแม้ว่าประเทศไทย และ ส.ป.ป.ลาว ยังไม่มีการลงนามความร่วมมือในด้านแหล่งโบราณคดี แต่คิดว่าทั้งสองประเทศก็จะสามารถร่วมมือในการทำโครงการต่างๆได้อย่างราบรื่น” รมว.วัฒนธรรม กล่าว