ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย ประกาศไม่รับบริจาคโลหิตจากผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล และหวัด 2009 ไข้ชิคุนกุนยา และไข้เลือดออก ย้ำผู้ที่จะบริจาคต้องหายไข้นาน 4 สัปดาห์ เผยช่วงเดือนตุลาคมของทุกปีโลหิตสำรองลดลง วอนประชาชนช่วยบริจาคโลหิตเพื่อมีสำรอง แนะบริจาคทุกวันเกิด
พญ.สร้อยสอางค์ พิกุลสด ผู้อำนวยการศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย เปิดเผยว่า หลังจากมีการระบาดใหม่ของหลายโรค สภากาชาดไทยจึงได้ประชุมนักวิชาการ เพื่อวางมาตรการรับมือกับโรคระบาดที่เกิดขึ้นในแต่ละช่วง จึงมีความเห็นร่วมกันในการเพิ่มมาตรการคัดกรองการรับบริจาคโลหิต โดยออกประกาศถึงผู้ที่ต้องการบริจาคโลหิต หากป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่ทั้งสายพันธุ์ตามฤดูกาลและไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ไข้ชิคุนกุนยา และไข้เลือดออกต้องฟื้นจากไข้นานกว่า 4 สัปดาห์ แล้วจึงจะบริจาคโลหิตได้ โดยในแบบสอบถามประวัติและพฤติกรรมของผู้บริจาคโลหิต จะมีคำถามเกี่ยวกับการป่วยด้วย 3 โรคดังกล่าว เพื่อเป็นการตรวจสอบก่อนรับบริจาค
พญ.สร้อยสอางค์ กล่าวอีกว่า แม้ยังไม่ปรากฏว่า มีผู้รับเลือดรายใดติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ ไข้ชิคุนกุนยา และไข้เลือดออกจากเลือดที่ได้รับบริจาค แต่มาตรการนี้กำหนดขึ้นเพื่อป้องกันไว้ก่อน และหากมีโรคระบาดอื่นเกิดขึ้นอีก สภากาชาดไทยก็ต้องประชุมนักวิชาการเพื่อกำหนดมาตรการเช่นเดียวกัน
พญ.สร้อยสอางค์ กล่าวด้วยว่า เนื่องจากเดือนสิงหาคมเป็นเดือนแห่งการจัดกิจกรรมเพื่อถวายแด่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา ทำให้ปริมาณโลหิตสำรองมีจำนวนมากเป็นพิเศษกว่าทุกเดือน แต่ในเดือนตุลาคมของทุกปี จะเป็นช่วงที่โลหิตสำรองลดลงถึงร้อยละ 25 เพราะนักเรียน นักศึกษาปิดภาคเรียน ทำให้หน่วยรับบริจาคโลหิตของสภากาชาดไทย ได้รับการบริจาคโลหิตน้อยลง จึงขอฝากนักเรียน นักศึกษา แม้ปิดภาคเรียนก็ขอให้หาเวลาร่วมบริจาคโลหิตเพื่อให้มีโลหิตสำรองเพียงพอ นอกจากนี้ ขอเชิญชวนให้ประชาชนทุกคนทำบุญในวันเกิดด้วยการบริจาคโลหิต ซึ่งจะทำให้โลหิตสำรองมีเพียงพอสำหรับทุกวัน