กทม.ปรับแผนเชิงรุกอีกรอบเตรียมส่งทีมคัดกรองโรคเคาะถึงประตูบ้าน พร้อมขอให้ร้านโชว์ห่วย พนักงานห้างใส่ถุงมือหลีกเลี่ยงรับเชื้อ ขณะที่ยอดตายในเมืองกรุง 19 คน ป่วยอีกกว่า 3 พัน รักษาตัวใน รพ.อีกกว่า 500 คน
พญ.มาลินี สุขเวชชวรกิจ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยภายหลังการประชุมตรวจและติดตามผลการแพร่ระบาดไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ในพื้นที่ กทม.ว่า จากรายงานของกองควบคุมโรค สำนักอนามัย แจ้งยอดผู้ป่วยที่ยืนยันการติดเชื้อ ตั้งแต่วันที่ 28 เม.ย. - 29 ก.ค.2552 พบว่ามีผู้ป่วย 3,380 ราย หรือร้อยละ 30 ของจำนวนผู้ป่วยทั่วประเทศ ซึ่งผู้ป่วยส่วนใหญ่มีอายุระหว่าง 11-20 ปี ซึ่งพบผู้ป่วยที่เสียชีวิตมากที่สุดใน 4 เขต ได้แก่ 1.เขตดุสิต 2.เขตราชเทวี 3.เขตวังทองหลาง และ 4.เขตสวนหลวง และล่าสุดมีผู้ที่เสียชีวิตรวม 19 ราย คิดเป็นร้อยละ 0.56 ทั้งนี้ ยังมีผู้ป่วยจำนวน 542 รายที่อยู่ระหว่างการรักษาในโรงพยาบาลสังกัด กทม. ซึ่งที่ประชุมมีความกังวลว่าไข้หวัดดังกล่าวจะระบาดและทำให้มีผู้เสียชีวิตเพิ่มมากขึ้น จึงได้กำหนดมาตรการเชิงรุกเพิ่มเติมจากที่มีการตั้งทีมแพทย์คัดกรองโรคที่สำนักงานเขต คือ ให้ทุกเขตมีแผนที่ที่ระบุถึงที่ตั้งชุมชน ห้างสรรพสินค้า โรงเรียน สถานพยาบาล หรือหน่วยงานราชการในพื้นที่และลงพื้นที่ตรวจคัดกรองโรคทุกบ้านอย่างละเอียด หลังจากที่พบว่ามีประชาชนร้อยละ 30 ไม่นิยมไปใช้บริการตรวจคัดกรองโรคของทีมแพทย์ที่สำนักงานเขต
พญ.มาลินี กล่าวด้วยว่า มาตรการป้องกันการรับ หรือแพร่เชื้อด้วยการใส่หน้ากากอนามัยเป็นทางหนึ่งที่ช่วยชะลอไม่ให้เชื้อแพร่กระจายในวงกว้างอย่างรวดเร็วแล้ว ในวันนี้ตนขอความร่วมมือจากผู้ประกอบการร้านค้า พนักงานร้านขายโชว์ห่วย พนักงานในห้างสรรพสินค้า ธนาคาร หรือบุคคลที่ต้องใช้มือสัมผัสกับสิ่งของสาธารณะ เช่น ธนบัตร เหรียญ ที่ไม่มีเวลาทำความสะอาดมือด้วยเจลล้างมือ หรือสบู่ ให้สวมถุงมืออนามัย คือถุงมือที่ทำจากยาง อย่างที่แพทย์หรือพยาบาลสวมใส่ขณะที่พยาบาลคนไข้ เพื่อป้องกันการรับเชื้อโรคจากการสัมผัสสิ่งของที่มีเชื้อโรคเปื้อนอยู่