xs
xsm
sm
md
lg

“เหล้าปั่น” หลุมดำเยาวชนไทย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


รายงานพิเศษ... โดย พงศ์เมธ ล่องเซ่ง

คงไม่มีใครเถียงหากจะพูดว่า วัยรุ่นเป็นวัยที่เหมาะแก่การถูกกอบโกยมากที่สุด โดยเฉพาะในเรื่องของอบายมุข ทำให้ทุกวันนี้ได้มีผู้ประกอบการ พ่อค้า แม่ค้าหัวใส ที่หันมาดำเนินธุรกิจกับวัยรุ่นโดยอาศัยช่องโหว่ของกฎหมาย และมี “เหล้าปั่น” เป็นตัวดึงดูดรายใหม่จำนวนมาก

ด้วยความที่กลุ่มเป้าหมาย คือ นักเรียน นักศึกษา ทำให้พื้นที่ขายเหล้าปั่นกระจุกตัวอยู่บริเวณโดยรอบสถานศึกษา ซึ่งจากการสำรวจมหาวิทยาลัย 15 แห่งใน กทม.และปริมณฑล ในรัศมี 500 เมตร เที่ยวล่าสุด โดยความร่วมมือของ ม.ราชภัฏสวนสุนันทา และศูนย์วิจัยปัญหาสุรา พบว่า มีร้านขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ถึง 1,712 ร้าน โดยจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยพบมากสุดถึง 407 ร้าน ตามมาด้วย ม.รามคำแหง 164 ร้าน และ ม.เกษตรศาสตร์ 129 แห่ง ทั้งนี้ กว่าร้อยละ 93 พบเป็นร้านขายเหล้าปั่น และร้อยละ 87 ร้านเหล้าปั่นจะอยู่ในรัศมี 200 เมตรจากมหาวิทยาลัยเท่านั้นเอง

ขณะที่ข้อมูลของ “กนิษฐา ไทยกล้า” นักวิจัยจากสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์สุขภาพ ม.เชียงใหม่ เผยให้เห็นว่า ในเขตเทศบาลเมืองเชียงใหม่ ช่วงเดือนก.พ. 51 - ม.ค. 52 พบว่า มีร้านขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพิ่มขึ้น 59% จาก 682 ร้านเป็น 1,083 ร้าน ในจำนวนนี้มีร้านเหล้าปั่นเพิ่มขึ้นจาก 15 ร้าน เป็น 47 ร้าน

จากข้อมูลที่น่าตกใจข้างต้น ไม่ใช่เรื่องแปลกที่ “คำรณ ชูเดชา” ผู้อำนวยการมูลนิธิเยาวชนเพื่อการพัฒนา จะให้นิยามของเหล้าปั่นว่า “เหล้าแปลงร่าง เหล้าที่ผู้ใหญ่เอามาหลอกขายเด็ก” ทั้งยังบอกอีกว่า เหล้าปั่นแฝงไปด้วยอันตรายที่น่ากลัวมาก หลักๆ มาจากการเข้าถึงที่ง่าย โดยเฉพาะเยาวชน วัยรุ่น และนักดื่มหน้าใหม่ ที่ดึงดูดใจด้วยสีสัน รสชาติที่ง่ายต่อการลิ้มลอง เพราะตัวของแอลกอฮอล์ที่ใส่เข้าไปจะผสมไปพร้อมกับปริมาณน้ำตาลในน้ำหวาน ทำให้คนที่ดื่มเข้าไปแล้วไม่รู้สึกว่าขม กลิ่นแอลกอฮอล์ก็ถูกแทนที่ด้วยกลิ่นของผลไม้ต่างๆ แต่หารู้ไม่ว่าปริมาณแอลกอฮอล์ก็ยังคงอยู่เท่าเดิม ผู้ที่ดื่มเข้าไปจะเพลินจนเมาไม่รู้ตัว

ขณะเดียวกัน การจัดบรรยากาศของร้านก็เป็นสิ่งหนึ่งที่ดึงดูดใจวัยรุ่นได้มาก โดยเน้นความน่ารัก สบายๆ ไม่แออัดเหมือนในผับ สามารถนั่งดื่ม พูดคุยกันได้ บางแห่งอาศัยเพียงแค่ริมฟุตบาธก็นั่งดื่มกันได้แล้ว ที่หนักกว่านั้นบางแห่งก็เปิดขายในมุมเล็กของร้านอาหารตามสั่ง ร้านกาแฟ จนกระทั่งร้านเกมก็มีให้บริการ เรียกได้ว่าติดทั้งเกม ติดทั้งเหล้าไปในเวลาเดียวกัน นอกจากนี้ยังมีการดื่มรูปแบบใหม่ที่ง่ายขึ้นไปอีกทั้งการปั่นใส่ถุง ใส่ขวดพร้อมดื่ม

“การดื่มเหล้าปั่นเองก็เหมือนเป็นค่านิยมสำหรับนักดื่มหน้าใหม่ที่ไม่เคยกินเหล้ามาก่อนจริงๆ โดยเฉพาะผู้หญิงที่เพิ่งจะลองดื่มเหล้า เพราะคนที่เป็นคอเหล้าแท้ๆ จะไม่นิยมดื่มเหล้าปั่นกัน ดังนั้นเหล้าปั่นจึงเหมือนขั้นแรกก่อนก้าวไปสู่การดื่มเบียร์ เหล้า จนกลายเป็นคอทองแดงในที่สุด ซึ่งผู้หญิงจะเสี่ยงต่อการถูกมอม ถูกล่อลวงไปกระทำอนาจารได้ง่ายเช่นกัน” ผอ.มูลนิธิเยาวชนเพื่อการพัฒนา อธิบาย

ด้าน “จิราภรณ์ กมลรังสรรค์” จากวิทยาลัยราชพฤกษ์ ในฐานะผู้ประสานงานเครือข่ายเยาวชนสร้างสรรค์ เสนอว่า จากปัญหาร้านขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ล้อมรอบสถาบันการศึกษา การขายเหล้าในหอพัก รวมถึงร้านเหล้าปั่นนั้น เครือข่ายเยาวชนฯ ได้เรียกร้องไปยังคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พื่อออกมาตรการ เช่น 1.การควบคุมร้านเหล้าปั่น โดยเฉพาะพื้นที่ใกล้สถานศึกษา หอพัก ให้ออกเป็นประกาศกฎกระทรวงสาธารณสุขโดยเร่งด่วน 2.คณะกรรมการควบคุมฯ ควรเป็นเจ้าภาพประสานให้หน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องมีการหารือ ร่วมกำหนดปฏิบัติการบังคับใช้กฎหมาย ระบุลักษณะ นิยามของเหล้าปั่นให้ชัดเจน เพื่อที่การทำงานจะได้มีประสิทธิภาพ ไม่ใช้ทำงานแบบปัดความรับผิดชอบ 3.เครือข่ายเยาวชนฯ ยินดีจะนำผู้แทนคณะกรรมการควบคุมฯ ลงพื้นที่จริง เป็นต้น

นอกจากนี้ “นพ.บัณฑิต ศรไพศาล” ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยปัญหาสุรา ได้เรียกร้องให้ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องเร่งออกมาตรการควบคุมการจำหน่ายเหล้าปั่น และร้านเหล้ารอบสถานศึกษาอย่างจริงจัง พร้อมเสนอมาตรการห้ามจำหน่ายเหล้าปั่น แต่อาจยกเว้นให้จำหน่ายได้ในสถานบันเทิงที่มีใบอนุญาตจำหน่ายเท่านั้น และต้องควบคุมห้ามเด็กที่อายุต่ำกว่า 20 ปี เข้าไปใช้บริการ รวมทั้งห้ามมีร้านจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในรัศมี 100-500 เมตร รอบสถานศึกษา หรืออาจกำหนดให้มีการเก็บค่าธรรมเนียมการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในอัตราสูง หากมีการจำหน่ายในรัศมีไม่เกิน 500 เมตร รอบสถานศึกษา ตลอดจนกำหนดพื้นที่สำหรับร้านจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไว้ด้วย

...ถึงตรงนี้ แม้ทุกภาคส่วนการทำงานด้านเยาวชน สังคม ต่างก็ตื่นตัว ออกมาเรียกร้อง เสนอแนวทาง และตีกรอบให้เร่งจัดการปัญหาเหล้าปั่นแล้วก็ตาม แต่ตราบใดที่ผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายที่กุมอำนาจการตัดสินใจในการ “สั่งห้าม” รวมถึงผู้ประกอบการยังไม่มีจิตสำนึกร่วมกัน “เหล้าปั่น” ก็ยังจะกลายเป็น “หลุมดำ” ของเยาวชนต่อไป ไม่มีวันจบลงง่ายๆ แน่นอน...

กำลังโหลดความคิดเห็น