“จุรินทร์” ส่งไม้ สกศ.ยกฐานะ กศน.-ก.ค.ศ.-สช. “ธงทอง”แย้มยังไม่รู้จะตั้งเป็น “แท่ง กรม นิติบุคคล

“จุรินทร์”มอบ สกศ.พิจารณาเรื่องยกฐานะ กศน.,ก.ค.ศ.และ สช. พร้อมปรับแก้รายละเอียดปฏิรูปการศึกษารอบสองอีกเล็กน้อย ก่อนส่งเข้า ครม. ด้าน “ธงทอง”ระบุยังไม่สามารถชี้ชัดได้ว่าจะยกฐานะทั้ง 3 หน่วยงานเป็นแท่ง,กรม หรือนิติบุคคล โดยอยู่ระหว่างหารือกับ ก.พ.และ ก.พ.ร.ซึ่งยังไม่ได้ข้อสรุป แต่จะต้องทำให้ทุกหน่วยงานทำงานได้ดีขึ้น

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.) กล่าวว่า ตนได้มอบหมายให้สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา(สกศ.) ปรับรายละเอียดของแผนการปฏิรูปการศึกษาในทศวรรษที่สอง หรือการปฏิรูปการศึกษารอบสอง(ปี 2552-2561) อีกเล็กน้อย โดยคาดว่าภายในสัปดาห์นี้ สกศ.จะนำเสนอตนเพื่อลงนามนำเสนอเข้าสู่วาระการพิจารณาของคณะรัฐมนตรี (ครม.)

ผู้สื่อข่าวถามถึงการแก้ไข พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการกระทรวงศึกษาธิการ พ.ศ.2547 เพื่อยกฐานะ 3 หน่วยงานในสำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ(สปอ.) เป็นกรม ได้แก่ สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา(ก.ค.ศ.) สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย(กศน.) และสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน(สช.) ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้มีการยกร่างแก้ไขกฎหมาย เสนอให้รัฐมนตรีว่าการ ศธ. พิจารณาแล้วนั้น นายจุรินทร์ กล่าวว่า การยกฐานะทั้ง 3 หน่วยงานเป็นกรม คงต้องดูทิศทางการปฏิรูปการศึกษารอบสอง ว่าหน่วยงานใดที่มีความจำเป็นต้องดำเนินการในลักษณะดังกล่าวเพื่อเป็นกลไกในการผลักดันการปฏิรูปการศึกษารอบสอง ซึ่งเรื่องนี้เป็นหน้าที่ของ สกศ.ที่จะต้องไปวิเคราะห์

ด้าน นายธงทอง จันทรางศุ เลขาธิการสภาการศึกษา กล่าวว่า นายจุรินทร์ ได้สั่งการให้ปรับถ้อยคำในแนวทางการปฏิรูปการศึกษาให้เกิดความชัดเจนมากขึ้น เพื่อความเข้าใจตรงกันในทางปฏิบัติ ก่อนที่จะนำเสนอเพื่อออกเป็นมติ ครม. โดย รมว.ศธ.ได้เน้นให้ความสำคัญเป็นพิเศษเรื่องการเรียนรู้ตลอดชีวิต ซึ่งเป็นหนึ่งในนโยบายที่รัฐบาลได้แถลงต่อรัฐสภา อาทิ ทำความชัดเจนเกี่ยวกับแหล่งเรียนรู้ เพื่อให้คนที่ไม่คุ้นเคยกับคำดังกล่าว สามารถรับรู้ได้ว่าแหล่งเรียนรู้มีหลายลักษณะ ไม่เฉพาะหน่วยงานที่อยู่ภายใน ศธ.เท่านั้น อาทิ ศูนย์วัฒนธรรม ศูนย์ศิลปะ ห้องสมุดประชาชน พิพิธภัณฑ์ และอุทยานวิทยาศาสตร์ต่างๆ ก็ถือเป็นแหล่งเรียนรู้ด้วย

เลขาธิการ สกศ. กล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้ยังได้กำชับให้ความสำคัญในเรื่องการปรับฐานะของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย(กศน.) ให้มีความชัดเจนมากขึ้น แต่ยังไม่ได้ข้อสรุปว่าจะมีฐานะเป็นองค์กรหลัก เป็นกรม หรือเป็นนิติบุคคล เพื่อให้สามาถบริหารงานและภารกิจได้กว้างขวางขึ้น และการตั้งหน่วยงานใหม่เพิ่มขึ้น เพื่อเป็นกลไกในการขับเคลื่อนปฏิรูปการศึกษา ส่วนการตั้งคณะกรรมการ 2 ชุด คือ คณะกรรมการนโยบายปฏิรูปการศึกษา ซึ่งมีนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน และมี รัฐมนตรีว่าการศธ. เป็นรองประธาน และคณะกรรมการขับเคลื่อนการปฏิรูปการศึกษา มีรัฐมนตรีว่าการ ศธ. เป็นประธาน นั้น จะเสนอให้ออกเป็นระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อให้คณะกรรมการทั้งสองชุดมีความถาวร และเป็นหลักประกันว่าถึงแม้จะมีการเปลี่ยนรัฐบาลหรือรัฐมนตรี การดำเนินงานการปฏิรูปการศึกษาในทศวรรษที่สองก็จะต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ซึ่งรัฐมนตรีว่าการ ศธ. จะนำเสนอ ครม. เร็วๆ นี้

ต่อข้อถามการยกฐานะ สำนักงาน ก.ค.ศ. กศน.และ สช.เป็นกรมนั้น นายธงทอง กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่สามารถตอบได้ว่าจะให้เป็นแท่ง เป็นกรม หรือเป็นนิติบุคคล แต่จะพยายามทำให้ทั้ง 3 หน่วยงานมีความสะดวกในการทำงานมากขึ้น โดยขณะนี้ได้มีการหารือนอกรอบกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน(ก.พ.) สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ(ก.พ.ร.) ซึ่งยังหาข้อสรุปไม่ได้