สมาคมผู้บริหารและครูโรงเรียนกวดวิชา ยันสถาบันกวดวิชาพร้อมปฏิบัติตามมติ ครม.ปิดการเรียนการสอน 2 สัปดาห์ แต่ไม่เชื่อว่าจะป้องกันการแพร่ระบาดหวัด 2009 ได้ ชี้ สธ.ควรรณรงค์ให้ประชาชนทั้งประเทศสวมหน้ากากอนามัยออกจากบ้าน และช่วยเหลือผู้ป่วยอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ เพื่อลดอัตราการตายให้น้อยลง
นายอนุสรณ์ ศิวะกุล นายกสมาคมผู้บริหารและครูโรงเรียนกวดวิชา เปิดเผยว่า หลังจากที่ ครม.มีมติให้สถาบันกวดวิชาปิดทำการเรียนการสอนเป็นเวลา 15 วัน ตั้งแต่วันที่ 13-28 ก.ค.เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ชนิดเอ เอช1เอ็น1 หรือ ไข้หวัด 2009 สถาบันกวดวิชาต่างๆ พร้อมจะปฏิบัติตามคำสั่งดังกล่าว แต่ส่วนใหญ่มีประเด็นที่ไม่เห็นด้วย 2 ประการ คือ เชื่อว่าการปิดสถาบันกวดวิชาคงไม่สามารถลดการแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่ 2009 ลงได้ เพราะเด็กนักเรียนคงออกจากบ้านไปโรงเรียนตอนเช้า และกลับบ้านช่วงเย็น ซึ่งเป็นชีวิตตามวงจรเดิม และมีความเสี่ยงที่จะติดเชื้อได้ตลอดเวลา และประเด็นที่ 2 คือ หากจะมีการปิดการเรียนการสอน 15 วัน ก็ควรจะใช้มาตรฐานเดียวกับโรงเรียนในระบบ ที่สถานศึกษาไหนพบการแพร่เชื้อก็ปิดเฉพาะสถานศึกษานั้น
“แม้สถาบันกวดวิชาจะปฏิบัติตามมติ ครม. แต่เห็นว่ามาตรการที่ได้ผล กระทรวงสาธารณสุขควรจะรณรงค์ให้ประชาชนทั้งประเทศสวมหน้ากากอนามัยออกจากบ้าน ซึ่งจะลดโอกาสในการติดเชื้อ และตัดวงจรการแพร่ระบาดลงได้อย่างมีประสิทธิภาพ ขณะที่กระทรวงสาธารณสุขต้องให้การช่วยเหลือผู้ป่วยที่ติดเชื้ออย่างรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ เพื่อลดอัตราการตายให้น้อยลง ซึ่งธุรกรรมต่างๆ ในประเทศไทยยังเป็นสามารถดำเนินการได้ตามปกติ แต่ขณะนี้เชื่อว่าข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุขยังมีความคลาดเคลื่อนอยู่มาก จะทำอย่างไรให้หน่วยงานของรัฐได้ทราบข้อเท็จจริง” นายอนุสรณ์กล่าว
นายอนุสรณ์ ศิวะกุล นายกสมาคมผู้บริหารและครูโรงเรียนกวดวิชา เปิดเผยว่า หลังจากที่ ครม.มีมติให้สถาบันกวดวิชาปิดทำการเรียนการสอนเป็นเวลา 15 วัน ตั้งแต่วันที่ 13-28 ก.ค.เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ชนิดเอ เอช1เอ็น1 หรือ ไข้หวัด 2009 สถาบันกวดวิชาต่างๆ พร้อมจะปฏิบัติตามคำสั่งดังกล่าว แต่ส่วนใหญ่มีประเด็นที่ไม่เห็นด้วย 2 ประการ คือ เชื่อว่าการปิดสถาบันกวดวิชาคงไม่สามารถลดการแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่ 2009 ลงได้ เพราะเด็กนักเรียนคงออกจากบ้านไปโรงเรียนตอนเช้า และกลับบ้านช่วงเย็น ซึ่งเป็นชีวิตตามวงจรเดิม และมีความเสี่ยงที่จะติดเชื้อได้ตลอดเวลา และประเด็นที่ 2 คือ หากจะมีการปิดการเรียนการสอน 15 วัน ก็ควรจะใช้มาตรฐานเดียวกับโรงเรียนในระบบ ที่สถานศึกษาไหนพบการแพร่เชื้อก็ปิดเฉพาะสถานศึกษานั้น
“แม้สถาบันกวดวิชาจะปฏิบัติตามมติ ครม. แต่เห็นว่ามาตรการที่ได้ผล กระทรวงสาธารณสุขควรจะรณรงค์ให้ประชาชนทั้งประเทศสวมหน้ากากอนามัยออกจากบ้าน ซึ่งจะลดโอกาสในการติดเชื้อ และตัดวงจรการแพร่ระบาดลงได้อย่างมีประสิทธิภาพ ขณะที่กระทรวงสาธารณสุขต้องให้การช่วยเหลือผู้ป่วยที่ติดเชื้ออย่างรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ เพื่อลดอัตราการตายให้น้อยลง ซึ่งธุรกรรมต่างๆ ในประเทศไทยยังเป็นสามารถดำเนินการได้ตามปกติ แต่ขณะนี้เชื่อว่าข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุขยังมีความคลาดเคลื่อนอยู่มาก จะทำอย่างไรให้หน่วยงานของรัฐได้ทราบข้อเท็จจริง” นายอนุสรณ์กล่าว