แพทย์วิงวอนคนมีโรคประจำตัวหลีกเลี่ยงชมคอนเสิร์ตเด็ดขาด เสี่ยงติดหวัด 2009 ชี้ จัดคอนเสิร์ต 1 รอบ 5% เป็นคนป่วย เตือนกลับจากคอนเสิร์ตเริ่มป่วยรีบพบแพทย์ด่วน ระบุ ปิดกวดวิชาช่วยชะลอการแพร่เชื้อ 10-20%
นพ.คำนวณ อึ้งชูศักดิ์ ผู้ทรงคุณวุฒิ ระดับ 10 กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ขณะนี้กำลังพิจารณาออกคำแนะนำสำหรับผู้ที่เป็นกลุ่มเสี่ยง โดยเฉพาะผู้ที่มีโรคประจำตัว ไม่ควรไปชมคอนเสิร์ตอย่างยิ่ง เนื่องจากพบว่า ในการแสดงคอนเสิร์ต 1 รอบ มีคนเข้าชมประมาณ 12,000 คน ในจำนวนนี้มี 5% ที่ป่วยเป็นโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 หรือประมาณ 500 คน อยู่ปะปนในสถานที่จัดคอนเสิร์ต ซึ่งมีความแออัด ยัดเยียด และต้องใช้เวลาอยู่รวมกันอย่างน้อย 3 ชั่วโมง ซึ่งหากเป็นผู้ที่มีร่างกายแข็งแรงอาจไม่เป็นไร แต่หากเป็นผู้ที่มีโรคประจำตัวถือว่ามีความเสี่ยงติดเชื้ออย่างมาก
“คนส่วนใหญ่ที่ไปชมคอนเสิร์ตเป็นวัยรุ่น วัยทำงาน หากมีโรคประจำตัว ไม่ว่าจะเป็นโรคอะไรก็ตาม ทั้งโรคหอบหืด โรคหัวใจ ภูมิคุ้มกันต่ำ ฯลฯ วิงวอนว่าอย่าออกไปชมคอนเสิร์ต แต่ถ้าจะไปให้ได้และกลับมาจากการชมคอนเสิร์ตแล้วมีอาการเป็นป่วยขึ้น ควรรีบไปพบแพทย์ทันที ส่วนมาตรการงดการจัดคอนเสิร์ตในขณะนี้ที่เป็นช่วงที่มีการระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 อย่างมาก อย่างในประเทศญี่ปุ่นนั้น สำหรับประเทศไทยจะต้องมีการประเมินสถานการณ์อีกครั้งหนึ่ง” นพ.คำนวณกล่าว
นพ.คำนวณ กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ จากตัวเลขผู้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ 2009 ทั่วประเทศ ที่มีการขึ้นทะเบียนจำนวนกว่า 3,000 คน แต่คาดว่า มีผู้ติดเชื้อประมาณกว่า 1 แสนคน ในจำนวนนี้มีข้อมูลสำนักระบาดยืนยันชัดเจนว่า เป็นนักเรียนสูงถึง 70-80% แต่ไม่สามารถแยกได้ว่า ติดเชื้อมาจากโรงเรียนกวดวิชาจำนวนเท่าใด หากต้องการตัวเลขที่ชัดเจนต้องทำการศึกษาวิจัย แต่ที่ยืนยันได้ คือ จากการสอบสวนโรค พบว่า ผู้ป่วยที่ติดเชื้อในช่วงนี้มีความเชื่อมโยงในจุดร่วมเดียวกัน คือ การไปเรียนโรงเรียนกวดวิชา นอกจากไปเรียนหนังสือตามปกติที่โรงเรียน ซึ่งแต่ละประเทศมีความแตกต่างกันอย่างในประเทศญี่ปุ่นพบว่าเด็กนักเรียนในละแวกเดียวกัน มีจุดร่วมเดียวดันคือโดยสารรถรับส่งนักเรียนโรงเรียนต่างๆ ทำให้เป็นโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 เป็นต้น
“ขณะนี้โรงเรียนยังเป็นแหล่งที่มีการแพร่เชื้ออันดับแรก และใช้มาตรการให้ครูเช็คนักเรียนที่มีอาการป่วยให้แยกอยู่ห้องพยาบาลและหยุดอยู่บ้าน และให้ปิดโรงเรียนหากพบว่านักเรียนป่วยเกินกว่า 15% หรือถ้าไม่สามารถปฏิบัติตามคำแนะนำของกระทรวงได้จึงให้ปิดโรงเรียน ซึ่งก่อนหน้านี้ พยายามจะให้มีการใช้หลักเกณฑ์เดียวกันในโรงเรียนกวดวิชา เนื่องจากโรงเรียนกวดวิชาไม่มีการเช็กชื่อ ไม่มีครูพยาบาล ห้ามเด็กที่ป่วยไม่ให้เข้าเรียน แต่ไม่สามารถทำได้ นอกจากนี้มีปัจจัยที่มีความเกี่ยวข้องเช่น ร้านอินเทอร์เน็ต เกม คอนเสิร์ต” นพ.คำนวณ กล่าว
นพ.คำนวณ กล่าวด้วยว่า ทั้งนี้ หลังจากที่มีการปิดโรงเรียนกวดวิชาครบ 15 วันแล้ว จะมีการประเมินสถานการณ์อีกครั้งหนึ่ง ซึ่งก่อนหน้านี้ มีการคำนวณทางคณิตศาสตร์หากปิดโรงเรียนกวดวิชาได้ จะช่วยชะลอความเร็วในการแพร่ระบาดประมาณ 10-20% และจะเห็นผลอย่างชัดเจนในจังหวัดที่เริ่มมีการแพร่ระบาดตามหัวเมืองต่างๆ
นพ.คำนวณ อึ้งชูศักดิ์ ผู้ทรงคุณวุฒิ ระดับ 10 กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ขณะนี้กำลังพิจารณาออกคำแนะนำสำหรับผู้ที่เป็นกลุ่มเสี่ยง โดยเฉพาะผู้ที่มีโรคประจำตัว ไม่ควรไปชมคอนเสิร์ตอย่างยิ่ง เนื่องจากพบว่า ในการแสดงคอนเสิร์ต 1 รอบ มีคนเข้าชมประมาณ 12,000 คน ในจำนวนนี้มี 5% ที่ป่วยเป็นโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 หรือประมาณ 500 คน อยู่ปะปนในสถานที่จัดคอนเสิร์ต ซึ่งมีความแออัด ยัดเยียด และต้องใช้เวลาอยู่รวมกันอย่างน้อย 3 ชั่วโมง ซึ่งหากเป็นผู้ที่มีร่างกายแข็งแรงอาจไม่เป็นไร แต่หากเป็นผู้ที่มีโรคประจำตัวถือว่ามีความเสี่ยงติดเชื้ออย่างมาก
“คนส่วนใหญ่ที่ไปชมคอนเสิร์ตเป็นวัยรุ่น วัยทำงาน หากมีโรคประจำตัว ไม่ว่าจะเป็นโรคอะไรก็ตาม ทั้งโรคหอบหืด โรคหัวใจ ภูมิคุ้มกันต่ำ ฯลฯ วิงวอนว่าอย่าออกไปชมคอนเสิร์ต แต่ถ้าจะไปให้ได้และกลับมาจากการชมคอนเสิร์ตแล้วมีอาการเป็นป่วยขึ้น ควรรีบไปพบแพทย์ทันที ส่วนมาตรการงดการจัดคอนเสิร์ตในขณะนี้ที่เป็นช่วงที่มีการระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 อย่างมาก อย่างในประเทศญี่ปุ่นนั้น สำหรับประเทศไทยจะต้องมีการประเมินสถานการณ์อีกครั้งหนึ่ง” นพ.คำนวณกล่าว
นพ.คำนวณ กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ จากตัวเลขผู้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ 2009 ทั่วประเทศ ที่มีการขึ้นทะเบียนจำนวนกว่า 3,000 คน แต่คาดว่า มีผู้ติดเชื้อประมาณกว่า 1 แสนคน ในจำนวนนี้มีข้อมูลสำนักระบาดยืนยันชัดเจนว่า เป็นนักเรียนสูงถึง 70-80% แต่ไม่สามารถแยกได้ว่า ติดเชื้อมาจากโรงเรียนกวดวิชาจำนวนเท่าใด หากต้องการตัวเลขที่ชัดเจนต้องทำการศึกษาวิจัย แต่ที่ยืนยันได้ คือ จากการสอบสวนโรค พบว่า ผู้ป่วยที่ติดเชื้อในช่วงนี้มีความเชื่อมโยงในจุดร่วมเดียวกัน คือ การไปเรียนโรงเรียนกวดวิชา นอกจากไปเรียนหนังสือตามปกติที่โรงเรียน ซึ่งแต่ละประเทศมีความแตกต่างกันอย่างในประเทศญี่ปุ่นพบว่าเด็กนักเรียนในละแวกเดียวกัน มีจุดร่วมเดียวดันคือโดยสารรถรับส่งนักเรียนโรงเรียนต่างๆ ทำให้เป็นโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 เป็นต้น
“ขณะนี้โรงเรียนยังเป็นแหล่งที่มีการแพร่เชื้ออันดับแรก และใช้มาตรการให้ครูเช็คนักเรียนที่มีอาการป่วยให้แยกอยู่ห้องพยาบาลและหยุดอยู่บ้าน และให้ปิดโรงเรียนหากพบว่านักเรียนป่วยเกินกว่า 15% หรือถ้าไม่สามารถปฏิบัติตามคำแนะนำของกระทรวงได้จึงให้ปิดโรงเรียน ซึ่งก่อนหน้านี้ พยายามจะให้มีการใช้หลักเกณฑ์เดียวกันในโรงเรียนกวดวิชา เนื่องจากโรงเรียนกวดวิชาไม่มีการเช็กชื่อ ไม่มีครูพยาบาล ห้ามเด็กที่ป่วยไม่ให้เข้าเรียน แต่ไม่สามารถทำได้ นอกจากนี้มีปัจจัยที่มีความเกี่ยวข้องเช่น ร้านอินเทอร์เน็ต เกม คอนเสิร์ต” นพ.คำนวณ กล่าว
นพ.คำนวณ กล่าวด้วยว่า ทั้งนี้ หลังจากที่มีการปิดโรงเรียนกวดวิชาครบ 15 วันแล้ว จะมีการประเมินสถานการณ์อีกครั้งหนึ่ง ซึ่งก่อนหน้านี้ มีการคำนวณทางคณิตศาสตร์หากปิดโรงเรียนกวดวิชาได้ จะช่วยชะลอความเร็วในการแพร่ระบาดประมาณ 10-20% และจะเห็นผลอย่างชัดเจนในจังหวัดที่เริ่มมีการแพร่ระบาดตามหัวเมืองต่างๆ