สค.เผยตัวเลขเด็กกำพร้าเหยื่อความไม่สงบจังหวัดชายแดนใต้ ตั้งแต่ปี 47 - ก.ค.ปี 51 จำนวน 2,897 คน ส่วนใหญ่เป็นเด็กอนุบาล-ประถม อีกร้อยละ 95 ขาดพ่อซึ่งเป็นเสาหลักครอบครัว ขณะที่หญิงใต้เป็นหม้ายถึง 1,552 คน ปัตตานีมากสุด
นายศุภฤกษ์ หงษ์ภักดี ผู้อำนวยการสำนักงานกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว (สค.) กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เปิดเผยว่า ปัญหายืดเยื้อความไม่สงบจังหวัดชายแดนภาคใต้ ส่งผลกระทบให้เด็กใต้จำนวนมากต้องสูญเสียพ่อแม่ และจากการสำรวจตัวเลขเด็กกำพร้าจากเหตุการณ์ความไม่สงบใน 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ประกอบด้วย นราธิวาส ปัตตานี ยะลา และสงขลา ตั้งแต่ปี 2547 ถึงเดือนกรกฎาคม ปี 2551 พบเด็กกำพร้ารวมแล้วทั้งสิ้นกว่า 2,897 คน แยกเป็นเด็กชาย 1,428 คน เด็กหญิง 1,469 คน โดยตัวเลขเพิ่มขึ้นกว่า 1 เท่าตัวจากเดือนมกราคม ปี 50 ที่มีจำนวนเด็กกำพร้า 1,425 คน จากตัวเลขที่เพิ่มขึ้นเป็นตัวชี้วัดได้ว่าในช่วงปี 50-51 สถานการณ์ความไม่สงบได้ทวีความรุนแรงขึ้น ส่งผลให้พ่อแม่ผู้ปกครองเด็กต้องสังเวยชีวิตเพิ่มมากขึ้นด้วย
นายศุกฤกษ์ กล่าวต่อว่า ในภาพรวมเด็กกำพร้าเป็นเด็กหญิงเท่าๆ กับเด็กชาย ในนราธิวาส ปัตตานี และ สงขลา เป็นเด็กกำพร้าหญิงมากกว่าเล็กน้อย ส่วนในยะลาเป็นเด็กกำพร้าชายมากกว่า แต่ปรากฏการณ์ที่น่าเป็นห่วง คือ เด็กร้อยละ 95 จะกำพร้าบิดาซึ่งเป็นเสาหลักของครอบครัวไป โดยร้อยละ 45 เป็นเด็กชั้นอนุบาลถึงประถมศึกษา รองลงมาคือเด็กชั้นมัธยม และเด็กก่อนวัยเรียน
โดยข้อมูล ณ วันที่ 30 ก.ค.2551 จากกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ เผยเด็กนราธิวาสกำพร้าพ่อแม่มากที่สุด กว่า 1,033 คน (ชาย 513 คน หญิง 520 คน) แบ่งเป็นกำพร้าพ่อถึง 989 คน กำพร้าแม่ 34 คน และกำพร้าทั้งพ่อแม่ 10 คน รองลงมาคือจังหวัดปัตตานี มีเด็กกำพร้า 912 คน จังหวัดยะลา 821 คน และสงขลา 131 คน
นอกจากเด็กแล้วหญิงใต้เองก็ประสบปัญหาเป็นหม้ายจากเหตุการณ์ความไม่สงบเช่นกัน โดยมีจำนวนถึง 1,552 คน ซึ่งส่วนใหญ่มีอาชีพรับจ้าง แม่บ้าน และเกษตรกร ในปัตตานีมีจำนวนหญิงหม้ายมากที่สุด 542 คน รองลงมา คือ ยะลามี 502 คน นราธิวาส 439 คน และสงขลา 69 คน
